เด็กเป็นอนาคตของชาติ อีกไม่กี่วันจะถึงวันเด็กแห่งชาติแล้ว สำหรับคําขวัญวันเด็กปีนี้จากนายกรัฐมนตรีให้ไว้ว่า รู้คิด รู้เท่าทัน สร้างสรรค์เทคโนโลยี คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกน้อยมักจะเจอปัญหาเรื่องลูกมีพฤติกรรมที่เป็นที่พึงใจโดยเฉพาะเมื่อถึงวัยที่ “ลูกขี้หวงของ”
ข้อมูลจาก รศ.พญ.ทิพวรรณ หรรษคุณาชัย กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการเด็ก เปิดเผยว่า วัยลูกหวงของจะมีพฤติกรรมที่หวงทุกอย่างทั้งตุ๊กตาสุดรัก ของเล่นชิ้นโปรด หรือแม้แต่ขนมและคิดว่าของทุกอย่างนั้นเป็นของตัวเอง ไม่ยอมแบ่งปันให้ใครเลย โดยเฉพาะในเด็กอายุ 1-3 ปีเป็นพัฒนาการตามวัยที่เอาตนเองเป็นศูนย์กลาง คิดว่าทุกอย่างเป็นของตนเอง เข้าสู่วัยจดจำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง และรู้สึกว่าเขาเป็นเจ้าของสิ่งของต่างๆ รอบตัว ประกอบกับเด็กยังไม่สามารถแยกแยะระหว่างความเป็นเจ้าของถาวรและชั่วคราวได้ ดังนั้นการที่เด็กไม่อยากแบ่งของเล่นให้พี่น้องหรือคนอื่นๆ นั้นเนื่องจากเข้าใจว่าของที่ให้ไปจะไม่ได้กลับคืนมาอีกนั่นเอง อีกทั้งยังไม่เข้าใจความรู้สึกหรือความต้องการของผู้อื่น และมักจะได้รับการตามใจจากผู้เลี้ยงดู
แม้ว่าการหวงของอาจเป็นพัฒนาการตามวัย แต่พ่อแม่ก็ไม่ควรละเลยในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะหากเขาเติบโตขึ้นโดยไม่รู้จักการแบ่งปันจะทำให้เกิดปัญหาการเข้าสังคมในอนาคตได้ ดังนั้นการให้ลูกได้เรียนรู้การแบ่งปันในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ตั้งแต่เยาว์วัย จะส่งผลให้เขาจะสามารถเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ในสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นต่อสมาชิกในครอบครัว ผู้คนรอบข้าง และสังคมโลกต่อไปในอนาคต
เคล็ดลับในการสอนเจ้าตัวเล็กให้รู้จักการแบ่งปัน มีดังนี้
อย่าบังคับ ดุ หรือลงโทษ หากบังคับให้พี่เสียสละของเล่นให้น้อง พี่จะรู้สึกไม่ดีกับน้องและไม่ชอบน้องที่มาแย่งทั้งของเล่นและความรักจากแม่ตลอดเวลา การดุหรือลงโทษที่ลูกไม่แบ่งของเล่นให้เพื่อน เด็กวัยนี้มักจะต่อต้าน ไม่ยอมหรือโวยวายอาละวาด และจะยิ่งหวงของมากขึ้น ควรค่อยๆ สอน อธิบายสั้นๆ ถ้าลูกไม่ยอมแบ่งของเล่นกับเพื่อน อาจให้เพื่อนเอาของเล่นไปนั่งเล่นใกล้ๆ กัน ลองถามว่าอยากเล่นของเล่นของเพื่อนบ้างไหม ถ้าอยากเล่นให้เอาของเล่นที่เด็กมีอยู่มาแลกกันเล่นกับเพื่อน หรือเอาของเล่นมาเล่นด้วยกัน
การปลูกฝังและเป็นแบบอย่างการแบ่งปัน พ่อแม่เป็นแบบอย่างในการนำของที่เหลือใช้ หรือไม่ใช้แล้วในบ้านไปบริจาค และให้ลูกเลือกของใช้ เสื้อผ้าที่ใส่ไม่ได้แล้วหรือของเล่นที่ตนเองไม่อยากเล่นแล้วไปร่วมบริจาคให้กับเด็กคนอื่นหรือเด็กด้อยโอกาส โดยชี้ให้ลูกสังเกตว่าเด็กๆ ที่ได้รับของเล่นนั้นยิ้ม แสดงท่าทางดีใจ หรือกล่าวคำขอบคุณที่ได้มีของเล่นชิ้นใหม่ อาจให้ลูกช่วยเก็บกล่องนม UHT เศษกระดาษหรือขวดน้ำพลาสติกที่ไม่ใช้แล้วรวบรวมใส่ถุงเพื่อขายแล้วนำเงินไปร่วมทำบุญ หรือมอบกระดาษหรือขวดน้ำพลาสติกให้คนที่มารับซื้อของเก่าในหมู่บ้าน หากเด็กๆ ได้รับความรู้สึกที่ดีๆ จากการแบ่งปันนี้ เขาจะเฝ้ารอหรือหาโอกาสที่จะได้ให้ผู้อื่นอีกต่อไป
สอนการเคารพสิทธิ์ของผู้อื่น ตุ๊กตาหรือของเล่นคือสิ่งที่มีค่าของเด็ก ถ้าเราจะไปหยิบจับสิ่งของที่ลูกหวง ควรบอกลูกเสียก่อน อย่าหยิบไปโดยไม่บอกเพราะลูกจะคิดว่าแม่แย่งของเขาไป เช่น น้องหมีของลูกมอมแมมมากแล้ว แม่ขอพาไปอาบน้ำให้ตัวหอมๆ หน่อยนะคะ หรือแม่ขอยืมกระเป๋าใบนี้ของลูกหน่อยนะ แล้วจะคืนให้จ้ะ เป็นต้น ถ้าลูกไม่ยอมให้พูดกับลูกดีๆ อธิบายเหตุผลให้เขาฟัง ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ แม้เจ้าตัวเล็กจะทำหน้างอ หรือกระฟัดกระเฟียดบ้างก็ตาม และหากลูกจะมาหยิบของซึ่งเป็นของคุณพ่อคุณแม่ เขาก็ต้องขออนุญาตก่อนเสมอ เพื่อสร้างนิสัยการเคารพสิทธิผู้อื่น ไม่ไปหยิบของเล่นเพื่อนหรือของผู้อื่นก่อนได้รับอนุญาต
การทำสัญลักษณ์บนของของลูกนี่เป็นวิธีง่ายๆ ที่จะแสดงให้ลูกเห็นและแยกแยะได้ว่าสิ่งไหนที่เป็นของเขาจริงๆ และสามารถแสดงอาการหวงได้ หากสิ่งไหนไม่ใช่ของลูก ลูกจะหวงไม่ได้ เพราะเด็กบางคน หวงทุกอย่างในบ้านของตัวเอง โดยคุณอาจจะลองให้ลูกนำสติ๊กเกอร์สวยๆ มาแปะลงบนของเล่น ของใช้ส่วนตัวของเขา เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ของแทนตัวเอง ส่วนของชิ้นอื่นๆ ก็บอกเขาให้รู้ว่า สิ่งนี้เป็นของแม่ สิ่งนั้นเป็นของพ่อ สิ่งโน้นเป็นของพี่ เรียกว่าแยกแยะสิ่งไหนเป็นของใครให้ชัดเจนไปเลย เพื่อให้ลูกรู้ขอบเขตสิ่งของของเขา
ของบางอย่างต้องแบ่งกันลูกต้องเรียนรู้ด้วยว่า มีของบางอย่างที่ต้องใช้ร่วมกัน หรือของเล่นในที่สาธารณะ เช่น ชิงช้า กระดานลื่นม้าหมุน ในสนามเด็กเล่น เป็นต้นต้องแบ่งกันหรือเล่นด้วยกัน และเขาต้องรู้จักที่จะรอคอยบ้าง ถ้าลูกไม่ยอมรอร้องดิ้นอาละวาด คงต้องบอกให้เขาเลือกว่าจะรอเพื่อที่จะได้เล่น หรือว่าจะอาละวาดต่อก็ได้ แต่แม่จะต้องพากลับบ้าน นั่นคือจะทำให้ลูกอดเล่นนะ และถ้ามีเพื่อนบ้านรุ่นราวคราวเดียวกันควรให้ลูกไปเล่นกับเพื่อนบ้านบ้าง โดยอาจจัดกิจกรรมหรือเกมต่างๆ ที่ต้องผลัดกันเล่น พร้อมกับนำขนมไปแบ่งเพื่อนๆ หรือของเล่นไปเล่นกับคนอื่น โดยสอนให้ลูกรู้ว่า ถึงเราจะเป็นคนนำมาแต่ก็ให้คนอื่นเล่นด้วยกันได้ลูกจะได้ฝึกเรื่องการแบ่งปัน อดทนและรอคอย
มีโอกาสเป็นต้องชม เมื่อใดที่ลูกยื่นของเล่นชิ้นที่เขากำลังเล่นอยู่ให้เพื่อนหรือชวนเพื่อนมาเล่นของเล่นด้วยกัน หรือจู่ๆ เขาก็ยื่นขนมให้คนอื่นหรือชวนกินขนมโดยไม่ต้องร้องขอ อย่าลืมที่จะชื่นชมที่ลูกแสดงความมีน้ำใจ แบ่งปันกับพ่อแม่และคนอื่น เพื่อเป็นกำลังใจ หรือเมื่อพี่น้องทะเลาะกันเรื่องของเล่น เพราะเด็กๆ จะจดจำว่า “คราวที่แล้วพี่ยังไม่แบ่งหนูเล่นเลย” หรือ “ทีน้องยังไม่ให้หนูกอดตุ๊กตาเขาเลย” คุณอาจจะพูดว่า “เอ...คราวก่อนเห็นพี่เขาแบ่งหนูเล่นแล้วนี่จ๊ะ หนูจำไม่ได้เหรอ” หรือพูดเปรยว่า “แม่จะดีใจมากที่เห็นลูกๆ รักกันและแบ่งของเล่นกันเล่น” เมื่อได้ยินคำชมอยู่บ่อยๆ ไม่นานเจ้าหนูขี้หวงก็จะกลายเป็นหนูน้อยใจกว้างที่รู้จักแบ่งปัน
แม้พฤติกรรมการหวงของในเด็กเล็กจะเป็นเรื่องปกติตามวัย เด็กๆจะเริ่มเข้าใจการแบ่งปันหรือผลัดกันเล่นตอนอายุประมาณ 5-6 ปี แต่พ่อแม่ก็ไม่ควรละเลยเพราะการสอนให้รู้จักการแบ่งปันเป็นรากฐานสำคัญที่จะทำให้ลูกรักเติบโตเป็นเด็กดีมีน้ำใจต่อผู้อื่นและสังคมต่อไปในอนาคต
ผศ.(พิเศษ)ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
ประธานกรรมการ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี