ในอันดับแรกต้องบอกว่าปลื้มปริ่มมากจนสุดจะบรรยาย เมื่อได้พบได้เห็นว่ามีคนไทยเก่งๆ ทำงานอยู่ในสถาบันวิจัยระดับโลก อย่างเช่น สถาบันปาสเตอร์ (Institut Pasteur) ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ตะลอนเที่ยวสัปดาห์นี้จึงเป็นการผสมผสานกันระหว่างพาคุณไปเที่ยวบ้านของหลุยส์ ปาสเตอร์ และชมสำนักงานการวิจัยของนักวิจัยคนไทยในสถาบันแห่งนี้ ทริปนี้จึงถือเป็นทริปที่สุดแสนหรรษาของMr. Flower แล้วก็เชื่อว่าเมื่อคุณๆ ซึ่งเป็นคนไทยได้อ่านคอลัมน์นี้ คุณจะต้องยิ้มแก้มปริด้วยความยินดีเหมือนกับผู้เขียน
ผมเชื่อว่าคุณๆ ยังจำได้ว่าหลุยส์ ปาสเตอร์ คือนักชีววิทยาและนักเคมี ชาวฝรั่งเศสผู้มีผลงานก้องโลกในเรื่องการผลิตวัคซีนการค้นพบการหมักจุลินทรีย์ และกรรมวิธีพาสเจอร์ไรส์เซชั่น (pasteurization)แต่ถ้าหากคุณหลงลืมไป กรุณาไปค้นตำราเก่าๆ สมัยคุณยังเป็นนักเรียนกลับมาอ่าน และคุณจะเห็นหน้าของหลุยส์ ปาสเตอร์ ได้แจ่มกระจ่าง
ผมไปกรุงปารีส ในครั้งนี้ตามคำเชิญของรัฐบาลฝรั่งเศส โดยการอำนวยความสะดวกของสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย (อันที่จริงไปประชุมหารือและเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ กว่า 10 แห่ง)
สถานที่แห่งแรกที่ผมจะพาคุณไปในทริปนี้คือบ้านหลุยส์ ปาสเตอร์สถาบันวิจัยปาสเตอร์ และการไปพบปะกับนักวิจัยชาวไทย ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะวิจัย Functional Genetics of Infectious Diseases คือดร.นพ.อนวัช ศกุนตาภัย
ขอเล่าให้คุณฟังแบบคร่าวๆ คือ คุณหมออนวัชและทีมนักวิจัยของคุณหมอทำวิจัยด้านการผลิตวัคซีนป้องกันและรักษาโรคไข้เลือดออกจากสายพันธุ์ซิกา-เด็งกี (Zika-Dengue) และงานวิจัยด้านการควบคุมยุงซึ่งเป็นพาหะโรคไข้เลือดออก ไข้ชิคุนกุนยา และไข้ซิกา ซึ่งเป็นงานที่คนทั่วโลกกำลังรอผลสำเร็จขั้นสุดท้าย โดยปัจจุบันผลการวิจัยได้ดำเนินไปด้วยดีจนอาจจะคาดได้ว่าน่าจะให้ผลสำเร็จในอนาคตอันใกล้นี้ คุณหมออนวัชเล่าให้ฟังว่า การทำวิจัยที่นี่เน้นผลงานที่ใช้ได้กับมนุษยชาติทั่วโลก ไม่ได้เฉพาะเจาะจงกับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น การทำงานของนักวิจัยที่นี่เป็นการทำงานร่วมกันที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ทุกคนร่วมมือกันเป็นอย่างดี ซึ่งผิดกับบางประเทศเมื่อถามต่อไปว่า ในฐานะที่คุณหมอเป็นคนไทย คุณหมอคิดว่าถ้าหากยังทำงานวิจัยด้านนี้ในประเทศไทย งานวิจัยจะประสบผลสำเร็จไหม คุณหมอไม่ตอบ แต่ยิ้มนานมาก แต่ให้คำตอบว่า งานที่คณะของผมกำลังทำนี้ใช้ได้กับคนทั่วโลกที่มีปัญหาไข้เลือดออก
น่าอัศจรรย์มากที่ทางการฝรั่งเศสไม่ได้บอกล่วงหน้าว่าผมจะได้พบกับนักวิจัยคนไทย แล้วผมก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนไทยทำหน้าที่สำคัญในหน่วยงานระดับโลกแห่งนี้ เพราะสถาบันนี้มีเจ้าของรางวัลโนเบลมาแล้วหลายคนมาก
สถาบันปาสเตอร์ และห้องทำวิจัยของ ดร.นพ.อนวัช ศกุนตาภัย และทีมนักวิจัย
เมื่อไปถึงสถาบันปาสเตอร์ ผมก็ต้องไปเยี่ยมชมบ้านของหลุยส์ ปาสเตอร์ ซึ่งอยู่คนละฟากถนนกับห้องวิจัยของคุณหมออนวัช บ้านหลังนี้คือบ้านที่หลุยส์ ปาสเตอร์ ใช้เป็นห้องทดลอง ที่พัก และสุดท้ายคือที่ฝังศพของเขา ตั้งอยู่ที่ถนน du Docteur Roux, Paris Cedex 15 เป็นบ้านสองชั้น มีห้องใต้ดิน สร้างใน ค.ศ.1888 ในสไตล์ยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ 13ภายในบ้านตกแต่งแบบบ้านของชนชั้นกลางในยุคศตวรรษที่ 19ตอนปลาย ที่ค่อนข้างจะทึบๆ แต่ที่สำคัญคือในบ้านหลังนี้ได้ถูกจัดแสดงหอทดลอง และอุปกรณ์ทดลองทางวิทยาศาสตร์ของหลุยส์ทุกชิ้นไว้ที่ชั้นบน ทำให้คนที่เคยเรียนเรื่องการทดลองของหลุยส์สามารถหวนระลึกถึงงานของหลุย์ได้โดยฉับพลันเมื่อเห็นเครื่องมือทดลองเหล่านี้
อาจจะกล่าวได้ว่าบ้านหลังนี้คือที่อยู่ของหลุยส์อย่างแท้จริง เพราะร่างที่ไร้วิญญาณของเขาได้ถูกฝังไว้ในห้องใต้ดินของบ้านหลังนี้ สุสานของเขาถูกออกแบบโดย Charles Giraual สถาปนิกผู้ออกแบบ Pitit Palais ให้ห้องของสุสานประดับด้วยโมเสกสีทองที่มีรูปภาพบอกเล่าเรื่องราวและผลงานของหลุยส์ และบอกแนวคิดสำคัญของคริสเตียนในเรื่องความศรัทธา ความหวัง และการกุศลการแบ่งปัน และได้เพิ่มเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ไว้ด้วย และที่สำคัญคือร่างไร้วิญญาณของภรรยาหลุยส์ คือมาเรีย ก็ถูกฝังไว้ ณ ที่นี่ด้วย
หากคุณสนใจจะร่วมทริปเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นเป็นกันเอง แต่ท่องเที่ยวแบบละมุนละไม แต่ทว่าเจาะลึกในเชิงสาระทุกด้าน โปรดติดต่อ091-7233615 เราเตรียมทริปให้เหมาะกับทุกความต้องการของคุณ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี