บ้านไม้สักในยุคปัจจุบันนั้น นับวันจะหาได้ยากลงทุกที เพราะบ้านไม้ต้องการการดูแลเอาใจใส่อย่างดี ต้องซ่อมต้องบำรุงเป็นระยะๆ ดังนั้นเจ้าของบ้านไม้สัก (รวมถึงบ้านไม้อื่นๆ ด้วย) หลายต่อหลายคนจึงมักจะรื้ออดีตที่น่าทรงจำทิ้งไปแล้วเปลี่ยนแปลงบ้านเป็นคอนกรีต ด้วยเหตุผลที่ว่าดูแลง่ายและสะดวกกว่า
แต่ที่ลำปางยังมีเรือนไม้สักอายุกว่า 80 ปี (สร้างปี 2476) ชื่อคุ้มเจ้าบุ คุ้มนี้เคยเป็นที่พำนักของเจ้าบุณ ลำปาง ผู้สืบเชื้อสายมาจากเจ้านายฝ่ายเหนือ ตระกูล ณ ลำปาง เป็นบ้านไม้ใต้ถุนโล่ง ส่วนบนตัวเรือนก็ดูโปร่งตามีห้องหับอยู่สามห้อง ส่วนห้องรับแขกนั้นถือได้ว่ากว้างขวางมาก ส่วนรอบตัวบ้านเต็มไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ ที่ปลูกแซมด้วยไม้ดอกที่ส่งกลิ่นหอมสารพัดชนิด เช่น มะลิ ชมนาด การะเวก ลั่นทม พุด เป็นต้น
คุ้มเจ้าบุเปรียบเสมือนสาวชาวเหนือที่ดูอ่อนหวานมาก สาเหตุที่เรือนหรือคุ้มแห่งนี้ดูอ่อนหวานก็น่าจะมาจากความอ่อนโยนของเรือนไม้ที่ผสมผสานกับต้นไม้สารพัดชนิดที่อยู่รายรอบตัวคุ้ม ดังนั้นแค่เพียงได้เดินเข้าไปในเขตรั้วของคุ้มก็สามารถสัมผัสได้ถึงความร่มเย็นแล้ว ด้วยความที่คุ้มเป็นเรือนเปิดโล่ง จึงทำให้ลมพัดผ่านได้ทั่วทั้งตัวเรือน แล้วเมื่อยิ่งได้ตัวกรองจากธรรมชาติคือต้นไม้ใหญ่ผสมเข้าไป ก็ทำให้คุ้มนี้มีบรรยากาศที่น่าหลงใหลมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามหน้าฝนรอบๆ คุ้มจะเขียวขจีและชุ่มเย็นมากเป็นพิเศษ ส่วนหน้าหนาวก็จะมีความหนาวเย็นให้ได้สัมผัสโดยเฉพาะในช่วงเช้าตรู่และช่วงหมดแดดในยามเย็น แล้วในยามหน้าร้อนที่หลายคนบอกตรงกันว่าลำปางร้อนขนาด แต่สำหรับในคุ้มแห่งนี้กลับไม่ได้ร้อนมากมายนัก เพราะมีร่มไม้ค่อยกันแดดให้
คนหลายคนอาจจะนึกว่าเจ้านายฝ่ายเหนืออยู่คุ้ม คุ้มนั้นจะต้องวิจิตรพิสดารไม่ต่างไปจากวังของเจ้านาย ซึ่งนั่นเป็นความเข้าใจที่อาจจะไม่ตรงกับความจริงมากนั้น เพราะคุ้มในภาคเหนือของไทยมีหลายรูปแบบ แต่อย่างไรก็ตาม เจ้านายฝ่ายเหนือทุกองค์ก็นิยมความเป็นธรรมชาติ ความเรียบง่าย เพราะเมืองเหนือของไทยมีธรรมชาติที่งดงามเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อสร้างคุ้มก็จึงต้องให้กลมกลืนกับธรรมชาติให้มากที่สุด
ข้าวของเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่บนคุ้มก็เป็นของเดิมตั้งแต่รุ่นโบราณ แต่ทว่าได้รับการดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี ดังนั้นเมื่อเราได้นั่งบนเก้าอี้ แล้ววางหนังสือบนโต๊ะไม้สักตัวใหญ่ แล้วอ่านหนังสือที่เฟอร์นิเจอร์รุ่นเก่าเหล่านี้จึงทำให้เราสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลอ่อนหวานของไม้สักได้โดยพลัน ยิ่งได้พบกับบรรยากาศของบ้านที่เปิดโล่งจากปีกหนึ่งทะลุไปยังอีกปีกหนึ่ง ดังนั้นเมื่อยามลมพัดโชยเอากลิ่นดอกไม้อ่อนๆ เข้ามา จึงทำให้รู้สึกสบายใจอย่างมหัศจรรย์ แล้วยิ่งในยามที่เราเดินด้วยความสำรวมไม่กระแทกทิ้งน้ำหนักเท้ามากจนทำให้เกิดเสียงโครมครามบนพื้นไม้สัก ก็ทำให้เราได้เห็นภาพของคนที่อยู่ร่วมกันบนคุ้มหรือบนเรือนไม้ในสมัยก่อนว่า เขาจะต้องสำรวมอยู่เสมอจะเดินแบบลุยป่าบนบ้านเรือนไม้ก็ไม่เหมาะ จะพูดจะคุยกันก็ใช้เสียงแต่พอดี ไม่ต้องเอะอะมะเทิ่งให้เกิดเสียงดังน่ารำคาญ เพราะห้องนอนบนบ้านก็มีเพียงผนังไม้กั้นอยู่
สวนหลังคุ้มเจ้าบุก็มีเสน่ห์มาก เพราะมีต้นไม้ใหญ่อายุหลายสิบปี เช่น มะขาม และฉำฉา หรือจามจุรี คอยให้ร่มเงา ยิ่งได้ไปนั่งรับลมเอื่อยๆ ที่ริมบึงน้ำหลังคุ้มแล้ว ก็ยิ่งมีความสุขอย่างล้นเหลือ แล้วก็บอกกับตัวเองว่า นี่แหละคือมนตราของต้นไม้ใหญ่ที่ให้ทั้งความร่มเย็น และให้อากาศที่แสนจะบริสุทธิ์ หายใจได้เต็มปอด
พูดถึงเรื่องอาหารการกินในคุ้มแห่งนี้แล้ว บอกได้เลยว่าทุกอย่างเน้น Green and Clean ผักสลัดที่นี่ปลูกเองโดยผู้ดูแลคุ้ม น้ำสลัดก็เป็นแบบ no fat and no sugarเพราะใช้ใบโหระพาปั่นสดผสมกับน้ำส้มสายชูธรรมชาติส่วนผู้ที่ชอบทาน steak หรืออาหารแบบตะวันตกก็ไม่ผิดหวังเพราะมีให้ทานตามต้องการ แต่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า เพราะผู้ปรุงอาหารที่นี่ไม่นิยมการซื้อวัตถุดิบในการทำอาหารมาเก็บไว้ แต่จะใช้วิธีแบบซื้อสด แล้วปรุงใหม่ๆ
คุณๆ ที่อ่านมาถึงตรงนี้ และได้ชมภาพงามๆ ของคุ้ม คงอยากจะไปสัมผัสคุ้มความน่ารักของคุ้มเจ้าบุแล้วใช่ไหมครับ ถ้าคุณอยากไปเยือน ไปกินของอร่อยมีประโยชน์ และไปนอนที่คุ้มแห่งนี้ ติดต่อ Mr.Flower ที่หมายเลขโทรศัพท์091-7233615 นะครับ เราจะไปกันแบบกลุ่มเล็กๆ (บนคุ้มนอนได้ไม่เกิน 8 คน) ส่วนบ้านที่อยู่ในบริเวณคุ้มก็สามารถรับผู้มาเยือนได้อีกประมาณ 10 คน
เราเที่ยวกันแบบสบายๆ ไม่รีบไม่ร้อนรน กินอิ่มกินอร่อย นอนพักแบบสบายๆ ใกล้ชิดกับธรรมชาติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี