Altarpiece
นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสมาโปรตุเกสหลังจากได้เที่ยวเมืองใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นลิสบอนหรือปอร์โต อีกเมืองที่น่าสนใจที่ควรไปเยือนก็คือ Coimbra เมืองกลางประเทศที่อยู่ห่างจากลิสบอน 200 กิโลเมตร หรือโดยรถไฟ 1 ชั่วโมงเศษ ถึง 2 ชั่วโมง หรือจากปอร์โต 125 กิโลเมตร หรือโดยรถไฟด้วยเวลาใกล้เคียงกันนี้ใหญ่เป็นที่สี่ของประเทศรองจากลิสบอน ปอร์โต และ Braga เมืองเก่าแก่ที่ถูกสถาปนาตั้งแต่สมัยโรมซึ่งเดิมมีชื่อภาษาโรมันว่า Aeminiumin และมีประชากร 143,000 คนเมืองนี้ตั้งอยู่บนเขาริมน้ำ Mondego ต่อมาเมืองนี้ถูกรุกรานโดยพวก Visigoth และถูกปกครองโดยพระเจ้า Wittiza ระหว่างปี 569-589 ก่อนถูกเปลี่ยนมือมาอยู่ภายใต้อิทธิพลของศาสนจักร และถูกเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น Conimbrigaจนกลายเป็นศูนย์กลางของศาสนจักรเรื่อยมา
Aqueduct of Sao Sebastiao
หลังจากนั้น ที่นี่ก็ถูกรุกรานอีกครั้งโดยมุสลิมในระหว่างปี 711-715 ชาวอาหรับได้สร้างป้อมปราการไว้ซึ่งภายหลังได้ถูกเปลี่ยนเป็นพระราชวังในช่วงต้นของราชวงศ์โปรตุเกส เมื่อพระเจ้า Ferdinand ที่หนึ่งแห่ง Leon ได้ครอบครองดินแดนในปี 1064 จึงได้ปรับโฉมเมืองใหม่ และยกดินแดนนี้ให้อยู่ภายใต้การปกครองของ Alfonso VI เมื่อ Alfonso Henriques เถลิงราชย์ในคริสต์ศตวรรษที่ 12 พระองค์สนับสนุนศาสนจักรเพิ่มขึ้นด้วยการให้เงินสร้างอาราม Santa Cruz ซึ่งกลายเป็นอารามที่มีชื่อเสียงที่สุดของโปรตุเกสในเวลาต่อมา การที่ดินแดนแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์และศาสนจักรรุ่งเรืองทำให้ต้องแบ่งแผ่นดินเป็น Upper Coimbra เพื่อเป็นที่อยู่ของผู้ปกครอง และข้าราชการและ Lower Coimbra เพื่อเป็นที่อยู่ของพ่อค้าและประชาชน
chapel ในมหาวิหาร
ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 15-16 อันเป็นยุคแห่งการค้นหานั้น เมืองนี้ก้าวหน้าขึ้นไปอีกจนกลายเป็นศูนย์กลางของศิลปินชาวโปรตุเกสภายใต้การอุปถัมภ์ของศาสนจักรและราชวงศ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระเจ้า Manuel พระองค์เป็นผู้ให้การสนับสนุนศิลปินมากมาย อาทิ Diogo Pires, Marcos Pires, João de Castilho, Diogo de Castilho and the Frenchmen, João de Ruão and Nicholas of Chanterene ส่งผลให้ที่นี่กลายเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมและการศึกษาเรื่อยมาจวบจนต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 เมื่อเมืองนี้ถูกรุกรานโดยกองทัพฝรั่งเศสภายใต้การนำของ Andoche Junot และ Andre Massena ระหว่างสงคราม คาบสมุทร ในระหว่าง 6 ตุลาคม 1810-มีนาคม 1811 เมืองนี้ได้เสียเอกราชให้กับกองทัพฝรั่งเศส แต่เมื่อราชวงศ์โปรตุเกสยึดเมืองคืนได้จึงรีบทำการบูรณะเมืองครั้งใหญ่โดยสร้างสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็นโทรเลข ท่อก๊าซ ทางรถไฟ และถนน
แท่นบูชาในมหาวิหาร
นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์และได้มาเยือน Coimbra เมืองที่มีประวัติศาสตร์ย้อนไปถึงสมัยโรมันนี้จะพบว่า แม้การเดินทางเข้าเมืองโดยทางรถไฟจะไม่ได้ยุ่งยาก แต่การเข้าเมืองกลับต้องเดินขึ้นเขาเป็นระยะทางค่อนข้างไกลจึงต้องมีขาที่ค่อนข้างแข็งแรง ถึงกระนั้นก็ตาม ระหว่างทางเดินก็สวยงาม และมีทัศนียภาพน่าศึกษายิ่งคุ้มค่ากับการเดินเองโดยไม่ใช้รถบัส ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่หลายแห่ง เช่น New Cathedral หรือ Cathedral of the Holy name of Jesusที่ประทับของบิชอปเมือง Coimbra มหาวิหารใหม่ประจำเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยนี้ถูกก่อตั้งขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1543 แต่กว่าที่มหาวิหารนี้จะกลายเป็นที่ประทับของบิชอปประจำเมืองก็ปาเข้าไปปี 1772 แล้ว มหาวิหารใหม่นี้มีความพิเศษของสถาปัตยกรรมอยู่หลายประการ เช่น ส่วนเจิมน้ำมนต์ด้านหน้าที่แกะสลักโดย Pero และ Felipe Henriques ตามแบบศิลปะโกธิคดั้งเดิมตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16 ส่วนที่ชุมนุมของผู้มาเยือนอันประกอบไปด้วยหอสวดมนต์หลายๆ ห้อง รวมทั้งแท่นบูชาขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างส่วนงามตามแบบศิลปะของโปรตุเกส นอกจากนี้ ส่วนของเวทีร้องเพลงในหอสวดมนต์กลางยังเป็นของเก่าแก่ที่ถูกเคลื่อนย้ายมาจากมหาวิหารเก่าอีกต่างหากด้วย
บรรยากาศในมหาวิหาร
Aqueduct of Sao Sebastiao หรือ Arcos do Jardim ที่ตั้งอยู่บนทางเท้า Martim de Freitas หน้าสวนของมหาวิทยาลัย Coimbra มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง ท่อระบายน้ำสไตล์โรมันโบราณที่ถูกออกแบบโดย Filipe Terzio นี้ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นทางระบายน้ำของส่วน Upper Coimbra อันเป็นที่อยู่ของขุนนางในสมัย Sebastian แห่งโปรตุเกส ท่อระบายน้ำที่สร้างทับของเดิมและเชื่อมเขาระหว่างอาราม Santana และปราสาท Coimbra ที่ได้รับการสถาปนาให้เป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติตั้งแต่ปี 1910 นี้ไม่เพียงมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ยังเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยที่สุดอีก
แห่งหนึ่งของเมืองด้วย
บรรยากาศรอบ Aqueduct
ทางเดินเข้าเมืองจากสถานีรถไฟ
บรรยากาศในเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี