กุมารแพทย์เผยตัวแปรสำคัญที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของสมอง ก็คือ ไมอีลิน ทั้งนี้ ร่างกายจะเริ่มสร้างตั้งแต่อยู่ในครรภ์และสร้างอย่างต่อเนื่องอย่างรวดเร็วภายใน 2 ปีแรกหลังคลอด ซึ่งหนึ่งสารอาหารสำคัญในการสร้างไมอีลิน คือสารอาหารในกลุ่มไขมัน โดยเฉพาะสฟิงโกไมอีลิน (sphingomyelin) ซึ่งพบมากในนมแม่ ผลิตภัณฑ์จำพวกนม และไข่ พร้อมระบุการเชื่อมโยงการทำงานของเซลล์ประสาทในสมองแต่ละส่วน หรือ Brain Connection ถือเป็นกลไกที่สำคัญที่สุดในการทำงานของสมอง ซึ่งต้องเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การทำงานของสมองจึงจะมีประสิทธิภาพ ซึ่งจัดเป็นหนึ่งปัจจัยที่สำคัญที่สุดต่อการพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กในยุคปัจจุบัน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์วรสิทธิ์ ศิริพรพาณิชย์ กุมารแพทย์ โรคระบบประสาท อาจารย์ประจำศูนย์วิจัยประสาทวิทยาศาตร์ สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล มหาวิทยาลัยมหิดล เผยข้อมูลเกี่ยวกับกลไกการทำงานของสมองที่เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดต่อพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กในยุค 5G นั่นคือ การเชื่อมโยงการทำงานของเซลล์ประสาทในสมองแต่ละส่วน หรือ Brain Connection อันเป็นกลไกที่สำคัญที่สุดในการทำงานของสมอง ซึ่งต้องเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การทำงานของสมองจึงจะมีประสิทธิภาพ และสิ่งที่จะช่วยให้การส่งสัญญาณเพื่อเชื่อมโยงสมองในแต่ละส่วนเกิดขึ้นได้ดีนั้นมีด้วยกันหลายวิธี เริ่มตั้งแต่การดูแลเอาใจใส่และการเลี้ยงดูของพ่อแม่อย่างใกล้ชิด ให้เด็กเรียนรู้ผ่านการฝึกฝนทำกิจกรรมนั้นๆ เป็นประจำ รวมไปถึงตัวแปรสำคัญที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของสมอง ซึ่งก็คือ ไมอีลิน โดยร่างกายจะเริ่มสร้างตั้งแต่อยู่ในครรภ์และสร้างอย่างต่อเนื่องอย่างรวดเร็วภายใน 2 ปีแรกหลังคลอด ซึ่งหนึ่งสารอาหารสำคัญในการสร้างไมอีลิน คือสารอาหารในกลุ่มไขมัน โดยเฉพาะ สฟิงโกไมอีลิน (sphingomyelin) ซึ่งพบมากในนมแม่ ผลิตภัณฑ์จำพวกนม และไข่
“เพราะสมองของลูกนั้นทำงานเชื่อมโยงกันเป็นระบบ แม้แต่ละส่วนจะมีหน้าที่ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นส่วนของความคิด ส่วนควบคุมการเคลื่อนไหว หรือส่วนของอารมณ์ แต่กิจกรรมต่างๆ ของเด็ก ไม่ว่าจะเป็นการคลาน เดิน การพูด การวิ่งเล่น หัวเราะ หรือ ร้องไห้ นั้น สมองแต่ละส่วนจะต้องมาทำงานร่วมกันเพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ตั้งเป้าไว้ โดยเซลล์ประสาทในสมองแต่ละส่วนจะทำงานเชื่อมโยงกันผ่านวงจรประสาทในสมองที่ทำหน้าที่เปรียบเหมือน “ถนน” ที่เชื่อมต่อการทำงานของสมองแต่ละส่วนเข้าด้วยกัน ซึ่งยิ่งถ้าสมองสามารถติดต่อสื่อสารกันได้รวดเร็วขึ้นเท่าไหร่ จะทำให้การเรียนรู้และพัฒนาการต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”
ขณะที่ ดร.นายแพทย์วิทยา สังขรัตน์ อาจารย์ประจำภาควิชารังสีวิทยา และศูนย์รังสีวินิจฉัยก้าวหน้า (AIMC ไอแมค) คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานของสมองผ่านการใช้เครื่องสร้างภาพสนามแม่เหล็ก หรือ เอ็มอาร์ไอ (Magnetic Resonance Imaging, MRI) ว่า “ในปัจจุบันการตรวจสมองสามารถทำได้ได้ถึง 5 มิติ เช่น ในการตรวจการทำงานของสมอง พบว่าถ้ามีกิจกรรมหนึ่งเกิดขึ้น สมองจะมีการทำงานและเชื่อมโยงกันในหลายๆ ส่วนและทำงานประสานกันเป็นเครือข่าย อีกด้านหนึ่งเราก็สามารถตรวจหาเครือข่ายใยสมองและความสมบูรณ์ของมันได้ อนึ่ง ใยสมองมีไมอีลินเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ และเราก็สามารถวัดค่าสร้างภาพได้ด้วยเทคนิคใหม่ๆ ของเอ็มอาร์ไอแล้ว”
กล่าวโดยสรุป คือการเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณของสมอง ต้องอาศัยการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งเริ่มสร้างตั้งแต่อยู่ในครรภ์และสร้างอย่างต่อเนื่องอย่างรวดเร็วภายใน 2 ปีแรกหลังคลอด และถึงวัยผู้ใหญ่ตอนต้น และหนึ่งในสารอาหารสำคัญในการสร้างไมอีลิน คือ “สฟิงโกไมอีลิน” ที่พบมากในนมแม่ นม ผลิตภัณฑ์นม โดยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ประกอบกับการเลี้ยงดู เปิดโอกาสในการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับช่วงวัย จะมีส่วนช่วยในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งมีผลต่อการทำงานของสมอง
เมื่อคุณพ่อคุณแม่เข้าใจแล้วว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การเชื่อมโยงของสมองแต่ละส่วนให้มาทำงานร่วมกันซึ่งช่วยในการพัฒนาสติปัญญาที่ดีของลูกน้อยของคุณ คุณพ่อคุณแม่จะสามารถหาวิธีและกิจกรรมที่เหมาะสมมาช่วยเสริมสร้างพัฒนาการ และการเชื่อมต่อของสมองแต่ละส่วนให้เกิดขึ้นด้วยความรวดเร็ว เพื่อให้ลูกน้อยได้เติบโตมามีสติปัญญาที่ดี อันเป็นพื้นฐานของความสำเร็จต่อไปในอนาคตได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี