ดีไซเนอร์สาว วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา ร่วมสนับสนุน UN Women ลงนามหลักการ WEPs สร้างพลังขับเคลื่อนผู้หญิงทั่วโลกให้แสดงศักยภาพของตัวเองในสังคมเตรียมระดมความช่วยเหลือเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผู้หญิง กับบทบาทใหม่ “Empower Women Champion for Change” คนล่าสุดของ UN Women
มุ่งมั่นก้าวสู่บทบาทใหม่ที่จะช่วยสร้างพลังขับเคลื่อนในการเสริมสร้างพลังและศักยภาพผู้หญิง วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา ดีไซเนอร์สาวมากความสามารถ เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าระดับโลกสัญชาติไทย VATANIKA เตรียมนำ บริษัท วทานิกา กรุ๊ป จำกัด ร่วมมือกับ องค์การเพื่อการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ และเพิ่มพลังของผู้หญิงแห่งสหประชาชาติ (UN Women) เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยขับเคลื่อนให้ผู้หญิงทั่วโลกสามารถแสดงศักยภาพทางเศรษฐกิจของตัวเอง พร้อมส่งเสริมให้ผู้หญิงให้ได้รับการปฏิบัติอย่างเสมอภาค และให้ผู้หญิงมีความเป็นอยู่ที่ปลอดภัย มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
บริษัท วทานิกา กรุ๊ป จำกัด โดย วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา ลงนามยอมรับหลักการ Women’s Empowerment Principles หรือ WEPs (หลักการแห่งการเสริมสร้างศักยภาพและพลังของผู้หญิง) ซึ่งนับว่า วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา เป็นผู้บริหารหญิงคนแรกในประเทศไทย ที่ได้ให้สัตยาบันนำประเด็นการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศมาให้เป็นหลักการบริหารธุรกิจในบริษัท และเครือข่ายอุตสาหกรรมแฟชั่นและการออกแบบในประเทศไทย
ในพิธีลงนามของดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ VATANIKA วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “Empower Women Champion for Change” หรือ “ผู้นำสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของผู้หญิง” มี มณฑิรา นาควิเชียร เจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการองค์การสหประชาชาติและ UN Women สำนักงานภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก และ วิปัญจิตเกตุนุติ ผู้ประสานงาน UN Women ประจำประเทศไทย เป็นสักขีพยาน พร้อมเปิดเผยรายละเอียดในความร่วมมือดังกล่าว ที่โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ถนนราชดำริ เมื่อเร็วๆ นี้
(ซ้าย) มณฑิรา นาควิเชียร, วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา และ วิปัญจิต
เกตุนุติ
วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา ดีไซเนอร์ กับบทบาทใหม่ “Empower Women Championfor Change” คนล่าสุดของ UN Women เผยว่า“ทุกวันนี้ผู้หญิงยังต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องความไม่เสมอภาคในสังคม รวมถึงการละเมิดสิทธิเสรีภาพในหลายๆ ประเทศ ดิฉันเชื่อมั่นว่า ผู้หญิงทุกคนล้วนมีศักยภาพในตนเอง จึงให้ความสนใจเรื่องเสมอภาคกันในที่ทำงาน และในฐานะที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น “Empower Women Champion for Change” จึงมีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจของผู้หญิง โดยเริ่มจากการเข้าไปช่วยเหลือผู้หญิงในศูนย์อเนกประสงค์สำหรับผู้หญิง (Multi-Purpose Women’s Centre) ค็อกซ์บาซาร์ ประเทศบังกลาเทศ ผ่านการระดมทุนเพื่อนำเงินบริจาคไปช่วยเหลือเรื่องส่งเสริมคุณภาพชีวิตพื้นฐาน และฝึกอาชีพ และทักษะ ให้สามารถสร้างรายได้ในอนาคตได้”
ครอบครัวของ วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา กำลังใจสำคัญของเธอ
ก่อนที่จะมาร่วมงานกับ UN Women วทานิกา ได้ริเริ่มโครงการชื่อ “The Invisible Path” เพื่อส่งเสริมและสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กสาวมองหาเส้นทางชีวิตของตนเอง การร่วมงานกับ UN Women จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ใช้ศักยภาพและความสามารถในการทำประโยชน์เพื่อเพื่อนมนุษย์โดยไม่มีข้อจำกัดทางเชื้อชาติ ให้ทุกคนมีสิทธิและโอกาสในการได้รับความช่วยเหลืออย่างเท่าเทียมกัน
สำหรับโปรเจกท์แรกในการร่วมงานกับ UN Women วทานิกาตั้งเป้าในการระดมเงินบริจาคประมาณ 3 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงในศูนย์อเนกประสงค์สำหรับผู้หญิง (Multi-Purpose Women’s Centre) ค็อกซ์บาซาร์ โดย วทานิกา ยังตั้งใจจะจัดงานกาล่าดินเนอร์เพื่อส่งมอบเงินบริจาค และขอบคุณผู้บริจาค อย่างเป็นทางการอีกครั้งในเดือนพฤษภาคมนี้ รวมทั้งจะมีอีกหลายโครงการในอนาคตเพื่อช่วยเหลือผู้หญิงในเรื่องสิทธิและความเสมอภาค
ด้าน มณฑิรา นาควิเชียร เจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการองค์การสหประชาชาติและ UN Women สำนักงานภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ได้กล่าวถึงการร่วมลงนามในครั้งนี้ว่า “UN Women ได้เล็งเห็นความมุ่งมั่นของ คุณวทานิกา ในฐานะผู้ก่อตั้งวทานิกา กรุ๊ป ในการร่วมเป็นผู้สนับสนุนการระดมทุนช่วยเหลือให้ศูนย์อเนกประสงค์สำหรับผู้หญิงในประเทศบังกลาเทศให้มีความคล่องตัวในการดำเนินการฝึกอบรมอาชีพ โภชนาการ การกินอยู่อย่างปลอดภัย การเตรียมพร้อมกับสถานการณ์ภัยพิบัติของตนเองและครอบครัว รวมถึงสอนทักษะชีวิตด้านอื่นๆ ซึ่งในปี 2018 ทาง UN Women ได้ให้ความช่วยเหลือผู้หญิงกว่า 17,000 คนและครอบครัว ได้มีอาชีพเลี้ยงตัวอย่างมีเกียรติและมีศักดิ์ศรี และ คุณวทานิกา จะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้ UN Women สามารถขยายความช่วยเหลือไปยังผู้หญิงและเด็กหญิงอีกหลายหมื่นคนให้มีอาชีพติดตัว สร้างกำลังทางเศรษฐกิจของผู้หญิง ให้ผู้หญิงได้ยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งลดความเหลื่อมล้ำในครอบครัวและสังคม ส่งเสริมให้ได้ใช้เสียงในการเสนอความคิดเห็นของตนเองอย่างเสรี รวมถึงการฝึกอบรมตำรวจหญิง 24 ชั่วโมง เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของทุกคนในค่ายผู้ลี้ภัยที่บังกลาเทศ”
ทั้งนี้ บริษัท วทานิกา กรุ๊ป จำกัด ยังมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศในอุตสาหกรรมแฟชั่นและการออกแบบในประเทศไทย โดยยึดมั่นในหลักการ 7 ข้อที่ส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศในสถานที่ทำงาน ตลาดแรงงานและชุมชน อันได้แก่ 1) เป็นองค์กรที่มีผู้บริการระดับสูงที่ชูนโยบายเรื่องความเสมอภาคระหว่างเพศ 2) ปฏิบัติต่อหญิง และชายอย่างเท่าเทียม คือ ส่งเสริมสิทธิมนุษยชน และการไม่เลือกปฏิบัติ 3) รับประกันความปลอดภัย และสวัสดิภาพในการทำงานให้กับพนักงานหญิงและชาย 4) ส่งเสริมการศึกษา ฝึกอบรม และการพัฒนาทางอาชีพ 5) นำประเด็นเรื่องการพัฒนาองค์กรมาใช้อย่างสมบูรณ์ ตั้งแต่ต้นทางของสินค้า หรือตลาดที่ส่งเสริมผู้หญิง และให้ผู้หญิงเป็นเจ้าของวัตถุดิบนั้น 6) ส่งเสริมด้านความเสมอภาคระหว่างเพศผ่านกิจกรรมชุมชน 7) ติดตามผลการดำเนินงานด้านการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ
UN Women เป็นองค์กรที่มุ่งส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ และเพิ่มพลังการมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศของผู้หญิงอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อให้ผู้หญิงและเด็กหญิงมีความเสมอภาคและได้รับความยุติธรรมอย่างแท้จริง โดยมีพันธกิจสำคัญในการดำเนินงานใน 5 ด้าน ได้แก่ 1) การเพิ่มบทบาทการเป็นผู้นำและการมีส่วนร่วมของผู้หญิง 2) การยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง 3) การเสริมสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินงานเกี่ยวกับวาระด้านผู้หญิง สันติภาพ และความมั่นคง 4) การเพิ่มพลังทางเศรษฐกิจของผู้หญิง และ 5) การส่งเสริมให้ความเสมอภาคระหว่างเพศเป็นประเด็นสำคัญในระดับชาติและระดับท้องถิ่น
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการมอบความช่วยเหลือสตรีให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ผ่านการบริจาคกับ UN Women ได้ทาง https://www.simplygiving.com/vatanikaforunwomen
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี