หลังเข้ามารับหน้าที่ผู้จัดการแคมเปญสัตว์ฟาร์ม องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย (World Animal Protection Thailand) โชคดี สมิทธิ์กิตติผล ผู้จัดการแคมเปญสัตว์ฟาร์มเดินหน้าดำเนินโครงการเลี้ยงหมูด้วยใจ (Raise Pigs Rights) ที่ได้ริเริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2561 เพื่อยกระดับสวัสดิภาพของหมูที่อยู่ในฟาร์มที่ปัจจุบันยังมีวิธีการเลี้ยงหลายอย่างที่ทารุณกรรมและสร้างความทรมานให้กับหมูเป็นอย่างมาก
โดยความเร่งด่วนของการช่วยเหลือหมูในฟาร์มก็คือ การที่เราต้องยุติการเลี้ยงแม่หมูแบบยืนซอง ซึ่งปัจจุบันแม่หมูนับล้านตัวในประเทศไทย ยังถูกเลี้ยงแบบบังคับให้ยืนซองแคบๆ ที่มีขนาดไม่ต่างจากตู้เย็นขนาดเล็กตลอดทั้งชีวิต ซึ่งถือเป็นความทารุณต่อหมูเป็นอย่างมากและต้องได้รับการยุติอย่างเร่งด่วน ที่ผ่านมาแคมเปญได้รับความร่วมมือจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ บริษัทซีพีฟู้ด และเบทาโกร ในการประกาศระยะเวลาที่ชัดเจนเพื่อยุติวิธีการเลี้ยงแบบนี้แล้ว นอกจากนั้น Tops Supermarket ก็ได้ประกาศจะไม่นำเนื้อหมูที่มาจากฟาร์มที่มีการเลี้ยงแบบขังแม่หมูในซองมาจำหน่ายแล้ว ตลอดจนสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งประเทศไทย ที่จะเข้ามามีบทบาทในการสร้างความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการเลี้ยงหมูให้ปรับเปลี่ยนมาสู่การเลี้ยงที่มีสวัสดิภาพเพิ่มมากขึ้น นายโชคดี สมิทธิ์กิตติผล ได้เล่าถึงความเป็นมาและความก้าวหน้าของโครงการไว้
โชคดี สมิทธิ์กิตติผล จบการศึกษาในคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โชคดีได้เข้าทำงานกับองค์กรไม่แสวงผลกำไรทั้งในประเทศและระหว่างประเทศที่ทำงานด้านการขับเคลื่อนประเด็นทางสังคมต่างๆ มากกว่า 15 ปี เช่น สิทธิเด็ก การพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็ก การจัดการภัยพิบัติ การศึกษา และการสร้างกลุ่มเยาวชนนักรณรงค์ เป็นต้น โดยในปี พ.ศ.2561 ได้เข้ามาทำงานกับองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย เพื่อยกระดับสวัสดิภาพสัตว์ในฟาร์ม โดยเฉพาะ หมู ผ่านแคมเปญ “เลี้ยงหมูด้วยใจ” หรือ Raise Pigs Right ซึ่งเป็นแคมเปญที่มีการดำเนินงานในหลายประเทศทั่วโลก
ที่ผ่านมา โชคดีประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนงานแคมเปญต่างๆ จนประสบความสำเร็จ อาทิ การสร้างเครือข่ายโรงเรียนขนาดเล็กระดับภาคและระดับประเทศที่มีสมาชิกกว่า 300 โรงเรียน ทำงานร่วมกับกลุ่มเยาวชนในการรณรงค์เพื่อเรียกร้องสิทธิการเรียนฟรี 15 ปี การสร้างเครือข่ายผู้หญิงพิทักษ์สิทธิมนุษยชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ การสร้างและพัฒนาเครือข่ายโรงเรียนปลอดภัยสำหรับภัยพิบัติทั่วประเทศ รวมถึงการพัฒนา20 ชุมชน ในจังหวัดภูเก็ต ให้สามารถตั้งรับปรับตัวกับภัยพิบัติได้ เป็นต้น
หลังจากที่ได้รับมอบหมายจากองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย ให้ดูแลเรื่องการสวัสดิภาพของสัตว์ฟาร์มแล้ว ทำให้เขาได้เข้าใจสถานการณ์ความเลวร้ายที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมฟาร์มหมู หมูส่วนใหญ่ในประเทศไทยถูกเลี้ยงอย่างไม่ได้ใส่ใจในสวัสดิภาพสัตว์ มีหลายขั้นตอนที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างความทรมานให้กับหมู เช่นการขังแม่หมูในคอก การตัดอวัยวะ เช่น การตัดหาง กรอฟัน ขลิบหูหรือทำหมันอย่างทารุณในลูกหมู เป็นต้น หมูไม่ได้เป็นฟันเฟืองในเครื่องจักร แต่พวกมันมีชีวิต มีลมหายใจ พวกมันรู้สึกเจ็บปวด เครียด ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เลวร้ายในฟาร์มอุตสาหกรรม ฟาร์มที่เลี้ยงหมูแบบไม่ได้ใส่ใจในสวัสดิภาพแบบนี้ส่งผลให้หมูเหล่านี้เจ็บป่วยเครียด หรือมีอาการผิดปกติ ซึ่งส่งผลไปสู่การใช้ยาปฏิชีวนะเกินความจำเป็นและนี่ถือเป็นที่มาหรือสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดแบคทีเรียดื้อยาปฏิชีวนะตกค้างในเนื้อหมูที่พวกเรากินกันอยู่และนำไปสู่ปัญหาทางสุขภาพของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยองค์กรพิทักษ์สัตว์ได้มีการจัดทำรายงานการค้นพบเชื้อแบคทีเรียดื้อยาปฏิชีวนะที่ตกค้างในเนื้อหมู โดยนำตัวอย่างเนื้อหมูที่วางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำมาทดสอบ โดยผลการทดสอบน่าตกใจเป็นอย่างยิ่งว่า กว่า 90% ของเนื้อหมูพบแบคทีเรียดื้อยาปฏิชีวนะ
จากผลรายงานดังกล่าว โชคดี สมิทธิ์กิตติผล จึงประสานงานและส่งข้อมูลต่างๆ ให้กับผู้ผลิตเนื้อหมูและซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งเพื่อผนึกกำลังเพื่อทำให้หมูมีชีวิตที่ดีขึ้น จากการผลักดันภายใต้โครงการรณรงค์เลี้ยงหมูด้วยใจ (Raise Pigs Right) ในส่วนของประเทศไทย บริษัทซีพีฟู้ด (CPF) ก็ได้ประกาศที่จะยุติการกักขังแม่หมูในประเทศไทยภายในปี พ.ศ.2568 และต่างประเทศ (ยกเว้นจีนและอินโดนีเซีย) ภายในปี พ.ศ.2571 และบริษัทเบทาโกร ก็ได้ประกาศในการยุติการเลี้ยงแบบขังแม่หมูทั้งในขณะตั้งครรภ์และคลอดในปีพ.ศ.2570
เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า หากซูเปอร์มาร์เก็ตเข้าร่วมแคมเปญ ย่อมสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับอุตสาหกรรมการเลี้ยงหมูได้อย่างแน่นอน ที่สำคัญผู้บริโภคมีบทบาทสำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลงนี้ ให้เกิดขึ้นจริงได้ โดยการร่วมกันเรียกร้องให้ซูเปอร์มาร์เก็ตประกาศนโยบายดังกล่าว เพื่อชีวิตหมูที่ดีขึ้น ตลอดจนสุขภาพของผู้บริโภคที่ดีขึ้นด้วย
ทั้งนี้ทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ สามารถเข้าไปสามารถเข้าไปร่วมลงชื่อ และแสดงความคิดเห็น ได้ที่ http://www.helppigsplease.com และเผยแพร่ข้อมูล (แชร์) ภาพ ลงในเฟซบุ๊คของท่าน แล้วพิมพ์ข้อความ #RaisePigsRight และ #HelpPigsPlease เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของหมู ตลอดจนสุขภาพของเราและครอบครัวที่ดีขึ้นด้วย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.worldanimalprotection.or.th/RPR-TL-2019 ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี