ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT จัดโครงการ“SACICT จิตอาสา” เฉลิมพระเกียรติและถวายความจงรักภักดี น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 โดยผสานพลังครูฯและทายาทฯ แบ่งปันความรู้งานหัตถศิลป์ สร้างอาชีพและรายได้ สร้างรอยยิ้มและความสุข...ให้สังคมไทย
อัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและถวายความจงรักภักดี น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว SACICT ได้จัดกิจกรรม CSR ภายใต้ชื่อโครงการ “SACICT จิตอาสา” เพื่อน้อมนำแนวพระราชดำริในด้าน “จิตอาสา” ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสืบสานพระราชปณิธานในการส่งเสริมงานศิลปหัตถกรรมไทยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ หรือ SACICT ในการอนุรักษ์ สืบสานและต่อยอดงานศิลปหัตถกรรมไทย ภายใต้กลยุทธ์ “หัตถศิลป์ของชีวิตปัจจุบัน” โดย “SACICT จิตอาสา” จัดรวม 10 ครั้ง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2562 เป็นการแสดงความจงรักภักดีและเฉลิมพระเกียรติในปีมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 10 และเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสแห่งความสุขของคนไทยทั้งประเทศ และยังเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า SACICT เป็นศูนย์รวมองค์ความรู้ด้านศิลปหัตถกรรมของประเทศ ร่วมแสดงพลังของชาว SACICT รวมทั้งบุคลากรผู้สร้างสรรค์ผลงานงานศิลปหัตถกรรมที่ SACICT เชิดชู ได้แก่ ครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม และทายาทช่างศิลปหัตถกรรมในการถ่ายทอดและแบ่งปันองค์ความรู้ด้านศิลปหัตถกรรมให้แก่สังคมไทย
กิจกรรม “SACICT จิตอาสา” มี 2 รูปแบบ คือ “SACICT จิตอาสา พัฒนาอาชีพ” เพื่อการสร้างอาชีพแก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม เช่น กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มคนชายขอบ และกลุ่มประชาชนในสามจังหวัดชายแดนใต้ จัดกิจกรรมทั้งสิ้น 8 ครั้งใน 4 ภูมิภาค กิจกรรมที่ 2 คือ “SACICT จิตอาสา นำพาความสุข” สร้างการรับรู้ให้สังคมไทยว่างานศิลปหัตถกรรมสามารถสร้างความสุข ฝึกสมาธิ และช่วยบำบัดความเครียดแก่กลุ่มบุคคลที่ต้องการความช่วยเหลือเยียวยา เช่น กลุ่มผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ตามสถานพยาบาลในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 2 ครั้ง ทั้งนี้ SACICT ภาคภูมิใจกับการจัดกิจกรรมครั้งนี้นอกจากสะท้อนความจงรักภักดีและความเทิดทูนในสถาบันพระมหากษัตริย์แล้ว ยังสะท้อนจิตวิญญาณของจิตอาสา ซึ่งคณะจิตอาสา สื่อมวลชนและผู้เข้าร่วมโครงการได้เรียนรู้และแบ่งปันองค์ความรู้งานศิลปหัตถกรรมไทย มีความสุขจากการเป็นผู้ให้อย่างแท้จริง” อัมพวัน กล่าว
การประเดิมจัดกิจกรรม “SACICT จิตอาสา พัฒนาอาชีพ”ครั้งที่ 1 ณ จังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 16-17 พฤษภาคม 2562 ตามรอยการพัฒนา “ผ้าปัก” กับชุมชนชายขอบ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการสร้างอาชีพและรายได้แก่กลุ่มชาติพันธุ์ผ่านการสร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมไทยได้รับเกียรติจากวิทยากรจิตอาสา ครูสิริวัฑน์ เธียรปัญญา ครูช่างศิลปหัตถกรรมปี 2554 บรรยายให้ความรู้ โดยวันแรก นำชมพิพิธภัณฑ์หอพลับพลาเจ้าดารารัศมี จากนั้นร่วมศึกษาดูพัฒนาการของผลิตภัณฑ์ผ้าปัก ณ ร้านกองหลวง เชียงราย ช่วงบ่ายศึกษาศิลปวัฒนธรรมล้านนา ร่วมสักการะพระแก้วมรกต ณ วัดพระแก้ว เชียงราย ในวันที่ 2 นำสู่ชุมชนชายขอบ หนองขำ(ลาหู่) และโป่งป่าแขม (อาข่า) ต.แม่สรวย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เพื่อร่วมทำกิจกรรม “SACICT จิตอาสา” โดยจัดให้มีการบรรยายการเรียนรู้ “ผ้าปัก” แก่ชาวบ้านและชนเผ่าพื้นเมือง โดย ครูสิริวัฑน์ เธียรปัญญา พร้อมกันนี้ครูยังได้เผยความรู้สึกที่ได้เป็นครูจิตอาสาในครั้งนี้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและความประทับใจปิดท้ายกิจกรรมอย่างอบอุ่น
กิจกรรมเพื่อสังคมภายใต้กรอบการดำเนินงานของ SACICT ในครั้งนี้ ช่วยให้เกิดการสร้างวัฏจักรของงานศิลปหัตถกรรมที่ยั่งยืน ผลักดันให้งานศิลปหัตถกรรม
ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม สร้างคุณค่าและมูลค่าได้ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยแก้ปัญหาความยากจน สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างความเท่าเทียมในสังคม ลดความเหลื่อมล้ำของกลุ่มผู้ที่ขาดโอกาสทางสังคม เช่น คนชายขอบ กลุ่มชนเผ่าชาติพันธุ์ต่างๆ ให้มีโอกาสในการเข้าถึงองค์ความรู้ด้านศิลปหัตถกรรม รวมทั้งยังเป็นการเสริมสร้างสถาบันครอบครัวให้มีความเข้มแข็ง ไม่ต้องละทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิด ยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างให้เศรษฐกิจฐานรากให้มีความมั่นคง พร้อมกับตอกย้ำให้สังคมไทยเห็นในคุณค่าทางจิตใจของงานศิลปหัตถกรรมสามารถช่วยลดปัญหาสังคม บำบัดเยียวยาและสร้างความสุขให้กับผู้คนในยุคปัจจุบัน เกิดการสืบสานภูมิปัญญาดั้งเดิมจากบรรพบุรุษไม่ให้สูญหาย ทำให้เกิดพัฒนางาหัตถศิลป์ที่ครอบคลุมในหลายมิติอย่างรอบด้าน ทั้งมิติทางสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่สังคมและประชาชนคนไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี