การประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 ปีนี้ เรียกว่าเป็นยืน 3 ที่โดดเด่น แต่คนที่มีสติตอบคำถามได้ดีที่สุดเอาชนะใจกรรมการและผู้ชมมากที่สุด หมายเลข 3 น้องเกรซ-นรินทร ชฎาภัทรวรโชติ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะศิลปศาสตร์ เอกจิตวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เจ้าของโครงการ Let Me Hear You จิตอาสาในการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคซึมเศร้าและรณรงค์ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจโรคซึมเศร้า จึงเป็นผู้คว้ามงไปครองแบบไร้ข้อกังขา ท่ามกลางการแสดงความยินดีของเพื่อนๆ พร้อมทำหน้าที่เป็นตัวแทนประเทศไทยไปชิงมงฟ้า ในการประกวดมิสเวิลด์ 2019 ในเดือนธันวาคม ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
น้องเกรซ-นรินทร ชฎาภัทรวรโชติ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 เปิดใจหลังรับมงเผยว่า ตั้งแต่ประกาศชื่อผู้เข้ารอบ 3 คนสุดท้าย ตอนนั้นรู้สึกโล่งใจมาก คิดว่าเป็นใครก็ได้ เพราะทุกคนมีศักยภาพที่จะได้มิสไทยแลนด์เวิลด์ จนมาเหลือสองคนและชื่อของเธอถูกประกาศรู้สึกตื่นเต้น ดีใจ อยากกอดคุณพ่อ คุณแม่มาก และที่สำคัญคือจะได้ใช้โอกาสนี้ทำให้โครงการ Let Me Hear You ได้เป็นที่รู้จัก มีส่วนช่วยให้คนในสังคมได้เข้าใจและตระหนักถึงโรคซึมเศร้ารวมถึงโรคทางจิตเวชอื่นๆ มากขึ้น
“เกรซขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคำติชม เพราะเวทีนี้เป็นเวทีแรก เกรซอาจจะยังไม่ได้เก่งมากแต่เพราะได้คำแนะนำติชม คอมเม้นท์ต่างๆ รวมถึงเพื่อนๆ ในกอง ที่ได้ให้คำแนะนำและเกรซนำมาปรับปรุงพัฒนาตนเอง ซึ่งเกรซคิดว่าเป็นเพราะกรรมการเห็นความตั้งใจ เห็นการพัฒนาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ว่า เกรซเปลี่ยนไปมากแค่ไหน อย่างการตอบคำถามเวลาเกรซตอบอะไรจะตอบจากความจริงใจและจากข้างในคณะกรรมการคงมองเห็นตรงนี้ การศึกษาด้านจิตวิทยา สิ่งสำคัญของการเป็นนักจิตวิทยาคือเป็นผู้ฟังที่ดี เกรซจะฟังคำถามอย่างตั้งใจและคิดถึงอย่างแรกที่ติดอยู่ในใจแล้วพูดออกมา นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดและจริงใจมากที่สุด การแสดงความจริงใจออกมาจะทำให้ทุกคนเข้าใจและจับใจความเราได้ความรู้สึกของเราก็จะส่งไปถึงทุกคน”
เมื่อถามถึงการเป็นตัวแทนสาวไทยไปร่วมประกวดมิสเวิลด์ 2019 ในปลายปีนี้ ว่าจะต้องมีอะไรปรับปรุง หรือมีความกดดันหรือไม่เนื่องจาก
รุ่นพี่อย่าง นิโคลีน-พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 ไปสร้างประวัติศาสตร์คว้ารองอันดับ 1 มิสเวิลด์ 2018
“เกรซไม่รู้สึกกดดันเลยค่ะ จริงๆ แล้วเกรซก็มีพี่นิโคลีนเป็นไอดอลอยากจะเป็นให้ได้อย่างพี่เขา หลังจากนี้จะต้องมีการฟิตหุ่น และเพิ่มทักษะด้าน Communication Skill ให้มากขึ้นเพื่อที่จะได้สื่อสารกับเพื่อนๆ ได้ดีขึ้น พร้อมกับนำคำแนะนำของทุกคนมาเป็นแรงผลักดันในการพัฒนาปรับปรุงตัวเอง และจะทำให้อย่างเต็มที่ให้ดีที่สุดเพื่อที่จะได้ไม่เสียใจภายหลัง”
โครงการ Let Me Hear You เป็นโครงการที่มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 มานำเสนอในการประกวดครั้งนี้จนได้ฟาสต์แทร็กรางวัลนางงามจิตอาสา เข้าสู่รอบ 12 คนสุดท้าย น้องเกรซเผยว่า ภาควิชาจิตวิทยา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีศูนย์บริการทางจิตวิทยาและการปรึกษา หรือ TCAPS Center ซึ่งตัวเกรซเองเรียนเอกจิตวิทยา ได้มีโอกาสไปเป็นอาสาสมัครในการให้คำปรึกษา จึงได้มาทำโครงการ Let me hear you เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคซึมเศร้ารวมถึงรณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับทุกคนสังคมต่อโรคนี้รวมถึงโรคจิตเวชอื่นๆ ด้วย ซึ่งโรคซึมเศร้ามีผลกระทบต่อสังคมมากมาย ถ้าเราขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง และทุกคนสามารถเป็นผู้ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคซึมเศร้าได้ เพื่อลดการสูญเสียจากการฆ่าตัวตาย การมาประกวดครั้งนี้จนได้ตำแหน่ง เกรซก็หวังว่าจะเป็นกระบอกเสียงที่ดังมากขึ้น เพื่อสร้างทัศนคติที่ดีให้กับคนในสังคม ให้เกิดการยอมรับ ให้กำลังใจและไม่รังเกียจผู้ป่วยจิตเวช และเกรซก็จะนำโครงการนี้ไปรณรงค์ต่อในเวทีมิสเวิลด์ด้วยค่ะ”
ไม่เพียงเท่านั้น น้องเกรซ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 ยังได้แสดงทัศนคติต่อประเด็นการ Bully ที่เกิดขึ้นในสังคม บอกว่า “คนที่บูลลี่คนอื่นอาจมองว่านั่นคือการลดคุณค่าของคนอื่นได้ การที่เขาบูลลี่คนอื่นอาจเกิดจากปมด้อยหรือเกิดจากความรู้สึกภายในของตัวเขาเอง เพราะเราแต่ละคนมีอัตตามโนทัศน์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นการที่เขาบูลลี่คนอื่นไม่ใช่การลดคุณค่าของคนที่ถูกบูลลี่ แต่เป็นการลดคุณค่าของตัวคนบูลลี่เอง ซึ่งถ้าเราทุกคนเห็นคุณค่าในตัวเองและคุณค่าในตัวผู้อื่นการบูลลี่ก็จะไม่เกิดขึ้น สำหรับคนที่ถูกบูลลี่เกรซแนะนำว่าไม่ต้องสนใจแค่เป็นตัวของตัวเอง มองเห็นคุณค่าในตัวเอง มั่นใจและยืนหยัดในสิ่งที่คุณเป็น การบูลลี่นั้นก็จะไม่ส่งผลกระทบอะไรกับตัวคุณเลย”
สำหรับรองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 ได้แก่ หมายเลข 6 แผ่นฟิล์ม-พมลชนก ดิลกรัชตสกุล รองอันดับ 2 ได้แก่ หมายเลข 18 เนิส-ดุสิตา ทิพโกมุท
น้องเกรซ-นรินทร ชฎาภัทรวรโชติ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 อายุ 21 ปี ปัจจุบันศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะศิลปศาสตร์ เอกจิตวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นลูกสาวคนโตของ คุณพ่อกรณ์-คุณแม่กีรณา ชฎาภัทรวรโชติ ประกอบธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์อาหารเสริม มีน้องชาย 1 คน ด้านดีกรีความสวยน้องเกรซ ยังเป็นหลานยาย ของ ดวงฤดี พูนพัฒน์ อดีตผู้เข้าประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2511 ในปีนั้น แสงเดือน แม้นวงศ์ ได้รับตำแหน่งนางสาวไทย คุณยายดวงฤดี ยังได้เป็นตัวแทนสาวไทยไปร่วมประกวดมิสเอเชีย แปซิฟิก สามารถเข้าถึงรอบ 10 คนสุดท้าย และยังเป็นอดีตนางแบบแถวหน้าของประเทศไทย ส่วนคุณตาคือ สักรินทร์ ปุญญฤทธิ์ เอลวิสเมืองไทยรุ่นแรก อีกทั้งคุณแม่ยังเคยมีผลงานละครกับช่อง 3 หลายเรื่อง อาทิ ร่มฉัตร เรียกว่าความสวยได้คุณยายและคุณแม่มาเต็มๆ
จากนี้ต้องติดตามและส่งกำลังใจให้กับ น้องเกรซ-นรินทร ชฎาภัทรวรโชติ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 ว่าเธอจะสามารถนำมงฟ้ามาสู่ประเทศไทยได้หรือไม่ โดยจะออกเดินทางไปร่วมการประกวดมิสเวิลด์ 2019 ในเดือนธันวาคม การประกวดรอบตัดสินจะจัดขึ้นในวันที่ 14 ธันวาคม 2562 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี