แบรนด์กระเป๋า borboleta วางโมเดลธุรกิจควบคู่การรับผิดชอบต่อสังคมแบบยั่งยืน ชูมูลนิธิมหาสมุทรแห่งปัญญาเพื่อส่งเสริมการศึกษาเด็กไทย โดยทุกใบที่จำหน่าย ลูกค้าจะได้ร่วมทำบุญ และนำไปสนับสนุนให้เด็กที่อยู่พื้นที่ห่างไกล
วโรณิกา จูน เรซ (หนูหวาน) กรรมการผู้จัดการ และดีไซเนอร์ แบรนด์กระเป๋า Borboleta ภายใต้ชื่อบริษัท เธโซราจำกัด เปิดเผยว่า “แบรนด์ Borboletaก่อตั้งขึ้นในปี 2012 มีแนวคิดว่ากระเป๋า ต้องมีความสวยงามพร้อมใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลายทำให้โลกรอบตัวดีขึ้น และต้องไม่ก่อมลภาวะ จึงได้คัดสรรวัสดุรักษ์โลกเป็นมิตรต่อโลก การดีไซน์กระเป๋าจึงสวยไม่เหมือนใคร สร้างจุดเด่นให้ลูกค้าที่ไม่ใช้ตามเทรนด์นัก เน้นวัสดุน้ำหนักเบา สะพายง่าย แบรนด์จะมุ่งใช้วัสดุเป็นหนังวิทยาศาสตร์คุณภาพสูง (ไม่ใช่ PU) ทำให้ลูกค้าสวยได้โดยไม่ต้องทำร้ายสัตว์ ไว้ใจได้โดยช่างฝีมือคุณภาพที่มีความชำนาญ และได้ค่าตอบแทนสูงอย่างเป็นธรรม
กว่า 7 ปี ที่ทำธุรกิจจนถึงปัจจุบัน ได้ขยายตลาดด้วยการส่งออกจำหน่ายไปแล้วกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ลูกค้าสามารถไว้วางใจได้ด้วยคุณภาพส่งออก และราคามิตรภาพสำหรับคนไทยระดับราคาจำหน่ายตั้งแต่ 2,000 กว่าบาทจนถึงราคาไม่เกิน 4,000 บาท ในไตรมาสสุดท้ายนี้จะมีดีไซน์ใหม่ๆ เป็นกลุ่มสินค้า accessories เช่น ที่ใส่กุญแจ ที่ห้อยบัตรพนักงาน เป็นต้น เพื่อนำออกมาจำหน่ายเพิ่มเติม ส่วนด้านการตลาดเน้นออนไลน์กว่า 90%”
ส่วนหลักการดำเนินงานของแบรนด์จะมุ่งการคืนกลับสู่สังคมแบบยั่งยืนคือ CSR วโรณิกา เผยว่าก่อนจะมาทำธุรกิจแบรนด์กระเป๋าส่วนตัวได้ก่อตั้งมูลนิธิมหาสมุทรแห่งปัญญา มาก่อนหน้านี้แล้ว
เป็นองค์กรสาธารณกุศล ก่อตั้งเมื่อ31 ตุลาคม พ.ศ.2550 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเด็กไทย ในพื้นที่ห่างไกล โดยเชื่อว่าการพัฒนาที่ยั่งยืนนั้นต้องเริ่มจากการศึกษาที่ดีมูลนิธิจึงได้เข้ามาช่วยเหลือด้านอาหารของนักเรียนหลังจากลงพื้นที่และทราบจากคุณครูว่าเด็กๆ นักเรียนไม่ได้ทานอาหารเช้า มูลนิธิได้นำเงินบริจาคช่วยเหลือโครงการต่างๆ เพื่อให้ผลสัมฤทธิ์แก่เด็กมากที่สุด โดยเน้นการบริหารจัดการที่ลดขั้นตอน ไม่นำเงินไปใช้กับสิ่งที่ไม่จำเป็น และการบริหารโครงการที่โปร่งใส
แบรนด์ borboleta ต้องขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่อุดหนุนเพราะทุกใบที่จำหน่ายลูกค้าจะได้ร่วมทำบุญ และนำไปสนับสนุนให้เด็กที่อยู่พื้นที่ห่างไกล ภายใต้มูลนิธิมหาสมุทรแห่งปัญญาที่ได้ก่อตั้งขึ้นมา อาทิ โครงการอาหารเช้าเพิ่มพลังสมอง หลังจากที่มูลนิธิได้ดำเนินการสนับสนุนด้านการศึกษามากว่า 5 ปีได้สังเกตเด็กนักเรียนส่วนใหญ่ ซึ่งมีผู้ปกครองเป็นชาวเขา หรือแรงงานทั่วไป ไม่ได้รับประทานอาหารเช้าก่อนมาโรงเรียน เพราะผู้ปกครองไม่มีเวลาจัดเตรียมหรือไม่มีเงินเพียงพอ เด็กๆ จึงต้องทนหิว ไปจนถึงเที่ยง เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักเรียน เรียนไม่รู้เรื่อง เด็กส่วนมากเดินหรือปั่นจักรยานมาโรงเรียนกว่าหนึ่งชั่วโมง เมื่อต้องหิ้วท้องรอเป็นเวลาหลายชั่วโมงไปถึงเวลาอาหารเที่ยงทำให้เด็กๆ ทรมานกันมาก มูลนิธิจึงรีบจัดโครงการอาหารเช้า เพื่อให้เด็กๆท้องอิ่ม โดยจัดอาหารเช้าที่มีประโยชน์ครบห้าหมู่ ในเวลาก่อนเริ่มเรียน และเวลาพักเบรกช่วงสิบโมงเช้า มูลนิธิฯจัดอาหารว่างตอนเช้า ได้แก่ นม และของว่าง หรือผลไม้ตามฤดูกาล ไว้ให้เด็กๆ อีกด้วย
หลังจากดำเนินโครงการอาหารเช้ามากว่าสองปี (เริ่มปี 2557) มูลนิธิได้วัดผลเป็นที่พอใจว่า คะแนนโดยรวมของนักเรียนดีขึ้นและนักเรียนมีสมาธิในการเรียนมากขึ้นนับเป็นการสนับสนุนอาหารเช้าที่มีประโยชน์ให้โรงเรียนที่อยู่ห่างไกล
โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาเช่น บริจาคซอฟแวร์เพื่อพัฒนาการเรียนรู้บริจาคหนังสือเข้าห้องสมุด จัดกิจกรรมสอนศิลปะ สอนวิทยาศาสตร์ สำหรับ นักเรียนในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกล ส่วนมากนักเรียนเรียนจากทีวี (โครงการสอนผ่านดาวเทียม) นักเรียนจึงไม่ได้มีโอกาสได้ทดลอง หรือจับต้องงานวิทยาศาสตร์ ทางมูลนิธิจึงได้เข้าไปสนับสนุน เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษานักเรียนในส่วนนี้
นอกจากนี้ ยังมีโครงการน้ำดื่มสะอาด เพื่อให้เด็กๆ ในโรงเรียน ได้น้ำดื่มสะอาด โดยทางมูลนิธิได้เข้ามาดูแล เพื่อจัดหาเครื่องกรองน้ำ RO ที่ดีที่สุดในการกรองน้ำ ให้นักเรียนในพื้นที่ห่างไกล ได้ดื่มน้ำสะอาด และโครงการสุดท้ายมุ่งการบริจาคช่วยเหลือค่าบริหารจัดการ เนื่องจากมูลนิธิไม่หักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เงินบริจาค 100% เข้าโครงการเพื่อเด็กทั้งหมด เพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือสังคมแบบยั่งยืนแบบนี้ต่อไป” น.ส.วโรณิกา จูน เรซ กล่าวสรุป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี