In Memoriam II
นอกจาก Jan Preisler ที่เป็นศาสตราจารย์ด้านศิลปะชาวเช็ก ซึ่งมีผลงานใน National Gallery กรุงปรากแล้ว ที่นี่ยังมีงานของ Frantisek Muzika ศาสตราจารย์จาก Academy of Arts and IndustrialDesign กรุงปรากอีกคนด้วย Muzika เป็นคนปรากโดยกำเนิด ในสมัยที่เมืองนี้เป็นเมืองหลวงของประเทศสโลวะเกีย เขาจบการศึกษาที่ Academy of Arts กรุงปรากในปี 1924 งานในชิ้นแรกของเขา Still life ได้รับอิทธิพลจาก Bohumil Kubista จิตรกรและวิจารณ์ศิลป์ชาวเช็ก หนึ่งในผู้ก่อตั้งงานจิตรกรรมยุคใหม่ให้กับสาธารณรัฐเช็กต่อมาเขาเริ่มพัฒนางานสู่แนว Neoclassicism โดยเน้นวาดภาพชีวิตประจำวันแทน
เมื่อเขาได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลฝรั่งเศสให้ไปเรียนต่อที่ Ecole des Beaux Arts ในปารีสกับ Frantisek Kupka เขาได้มีโอกาสพบกับ Max Jacob ที่นั่นและได้ไปสังสรรค์กับ Joseph Bernard อย่างสม่ำเสมอทุกวันอาทิตย์ หลังจากกลับจากปารีสในปี 1925 เขาได้ทำงานร่วมกับ Georges Braque และ Pablo Picasso ศิลปินแนว Cubism ที่โด่งดังมากในสมัยนั้นจนส่งผลให้เขาเปลี่ยนแนวทางศิลปะของตัวเองในเวลาต่อมา หลังกลับจากการเรียนที่ปารีส เขาก็เปลี่ยนแนวทางในการสร้างสรรค์งานใหม่ โดยเลิกเขียนเกี่ยวกับวัตถุ และเริ่มหันเหเข้าสู่งานแนว Cubism
From the Bohemian Paradise
หลังปี 1930 เขาเริ่มได้รับอิทธิพลจาก Giorgio de Chirico จึงพัฒนาแนวทางสู่งานแนว Surrealism และเริ่มออกแบบเวทีในช่วงสงครามกลางเมืองสเปนระหว่างปี 1936-1939 อันเป็นช่วงเวลาที่เชโกสโลวะเกียประเทศบ้านเกิดของ Muzika ตกอยู่ในภาวะสงครามเช่นกันนั้น เขาได้สร้างสรรค์งานที่สะท้อนให้เห็นถึงความทุกข์ทรมานและความทุกข์จากสงคราม เช่น งานด้านทิวทัศน์ที่มีบรรยากาศทะมึนทึม หม่นหมอง ซึมเศร้า และตึงเครียด อย่างไรก็ตาม หลังสงครามเขาได้ปรับงานของตัวเองให้มีแนวทางเดียวกันกับนานาชาติมากขึ้นตามอารมณ์ของคนในยุคนั้น นั่นคือ มีความหวังและสดใสมากขึ้น ส่วนในบั้นปลายชีวิตของเขาอันเป็นช่วงเวลาที่เรียกว่าFossilized world นั้น เขาได้ลบล้างความแตกต่างระหว่างเรื่องจริงกับเรื่องจินตนาการออกจากกันอย่างสิ้นเชิงและหันไปเน้นงานแนว Symbolism แทน
นอกจากงานจิตรกรรมแล้ว นับจากปี 1927 เขายังหันเหสู่งานแนวอื่น เช่น การออกแบบเวที อาทิ Julietta ของBohuslav Martinu ที่เล่นใน Czech National Theater รวมทั้งเริ่มทำงานหนังสือ เช่น Krasne Pismo ที่ถูกตีพิมพ์ในเชโกสโลวะเกีย และ Schone Schrift ในปี 1965 ที่ถูกตีพิมพ์ในเยอรมนี นอกจากนี้เขายังออกแบบหนังสือและรับเป็นบรรณาธิการให้กับหนังสือวัฒนธรรม รวมทั้งออกแบบโปสเตอร์ในนิทรรศการ Emil Filla และออกแบบโลโก้ของงาน Prague Spring International Music Festival ซึ่งยังคงถูกใช้มาจนถึงปัจจุบัน
Great Requiem
นักท่องเที่ยวจะเห็นว่า ผลงานของ Muzika ที่จัดแสดงใน National GalleryPrague ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น Great Requiem, In MemoriamII, Woman above Graves และ From the Bohemian Paradise ล้วนเป็นผลงานในช่วงระหว่างปี 1942-1944 อันเป็นช่วงสงครามทั้งนั้น เป็นงานแนว Surrealismทั้งหมดจึงดูซึมเศร้า หมองหม่น ขาดชีวิตชีวา ต่างจากงาน Surrealism ของศิลปินอื่นอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Salvadore Dali เจ้าพ่อ Surrealism เนื่องจากในห้องภาพแห่งนี้ไม่มีงานช่วงเวลาอื่นของเขาให้ได้ชมเลยด้วยจึงทำให้นักท่องเที่ยวขาดอรรถรสในการชื่นชมพัฒนาการของศิลปินไปอย่างน่าเสียดาย
Women above Graves
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี