คนที่เป็นโรคซึมเศร้าจะมีอารมณ์ซึมเศร้าที่มากไปกว่าการซึมเศร้าตามปกติในชีวิตประจำวันที่เราสูญเสียอะไรต่างๆ หรือผิดหวังอะไรต่างๆ คนที่ซึมเศร้าจะซึมเศร้าลงลึกไปทั้งวันเลย แทบจะไม่มีช่วงที่มีอารมณ์ที่เบิกบานขึ้นมา รวมถึงความรู้สึกที่อยากจะกระตือรือร้นทำอะไรก็หมดไป เคยทำอะไรสนุก ก็ไม่สนุกกับสิ่งนั้น รวมถึงจะมีอาการร่วมด้วยต่างๆเช่น การนอนไม่หลับ เบื่ออาหาร น้ำหนักลดความคิดความจำสมาธิลดลง และที่สำคัญคือจะมีความคิดที่ไปทางด้านลบเยอะไม่ว่าลบต่อตัวเอง ลบต่อผู้อื่น แล้วก็คิดว่าตัวเองไม่ดี ตัวเองทำผิดเรื่องต่างๆ มาในอดีต จนกระทั่งคิดว่าเราไม่น่าจะมีชีวิตอยู่เลย จนกระทั่งคิดถึงการฆ่าตัวตาย อันนี้คืออาการทั้งหมด แต่ว่าคนที่เป็นซึมเศร้าก็ไม่ได้จำเป็นจะต้องมีอาการถึงขึ้นที่จะต้องฆ่าตัวตายทุกคน
รศ.นพ.ศิริไชย หงส์สงวนศรี สาขาวิชาจิตเวชศาสตร์เด็กและวัยรุ่นภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ความรู้ใน “พบหมอรามาจากรามา” แชนเนล ว่า โรคซึมเศร้าเป็นโรคที่เกิดจากหลายปัจจัยมาก ในคนไข้ที่เป็นโรคซึมเศร้าแต่ละคนก็มีความเป็นมาไม่เหมือนกัน โดยภาพรวมก็เป็นปัจจัยทางด้านจิตใจ ซึ่งคนที่เป็นโรคซึมเศร้าก็มีแนวโน้มที่จะมองตัวเองในทางลบอยู่แล้ว อาจจะเกี่ยวกับการเลี้ยงดูมาตั้งแต่วัยเด็กที่อาจจะถูกทอดทิ้ง หรือว่าใช้ความรุนแรง หรือว่ามีความห่างเหินทางด้านจิตใจระหว่างผู้ป่วยกับพ่อแม่ หรือมีการเลี้ยงดูที่ไม่ค่อยถูกต้องต่างๆ ไม่ค่อยได้เสริมให้เด็กมีกำลังใจหรือว่าเป็นคนที่มีความภาคภูมิใจในตัวเอง หรือว่าอาจจะมีความเครียดต่อเนื่องกันมานานๆ สุดท้ายแล้ว ประสบการณ์ที่เขาเติบโตมาไม่ว่าจะเป็นจากการเลี้ยงดู หรือว่าปัญหาต่างๆ ในชีวิตประจำวันที่ทำให้เกิดความเครียดต่างๆ มันก็มีผลต่อการทำงานของสมองที่ควบคุมเรื่องของอารมณ์
ในสมัยก่อนเรารอให้ซึมเศร้าเยอะจนกระทั่งบางคนฆ่าตัวตายแล้วถึงจะมาหาหมอ แต่ปัจจุบันเราไม่ต้องรอให้อาการหนักขนาดนั้น เรามีแบบทดสอบที่จะคัดกรองตัวเอง ตามเว็บไซต์ต่างๆ ของรามาธิบดีก็มี ของกรมสุขภาพจิตก็มี เขาจะมีว่าทำอันนี้ได้กี่คะแนน อาการรุนแรงขนาดไหนแล้ว ซึ่งปัจจุบันเราก็จะสามารถเข้าถึงพวกนี้ได้ และใน LineOfficial ของรามาธิบดีก็มีแบบสอบถามอันนี้อยู่ อันนี้เป็นอันที่สามารถประเมินตัวเองได้
สำหรับ การรักษาด้วยยาทางจิตเวชที่รักษาโรคซึมเศร้า จะไม่ใช่ยาที่รับประทานแล้วจะดีขึ้นมาในวันสองวันส่วนใหญ่จะใช้เวลาเป็นสัปดาห์ 1-2 สัปดาห์ขึ้นไปถึงจะดีขึ้น หากถามว่ามีผลข้างเคียงอย่างไร โดยทั่วไป ถ้าเป็นยารักษาโรคซึมเศร้ารุ่นเก่าๆ ก็จะมีผลข้างเคียงเยอะตั้งแต่ปากแห้ง ท้องผูก ใจสั่นแต่ยารักษาโรคซึมเศร้ารุ่นหลังๆ ผลข้างเคียงต่างๆ จะน้อยกว่ายารุ่นก่อน แต่ก็จะยังมีอยู่ เช่น อาจจะมีความรู้สึกคลื่นไส้ พะอืดพะอม บางคนก็จะเวียนหัว อาจจะมีใจสั่นมือสั่นบ้าง แต่โดยทั่วไป ผลข้างเคียงมันก็จะค่อยๆ ลดลงเหมือนเราทนกับยาได้มากขึ้น
การรักษาโรคซึมเศร้าต้องมีการบำบัดทางด้านจิตใจร่วมด้วย และยารักษาโรคซึมเศร้าตัวหนึ่ง ไม่ใช่ได้ผลกับทุกคน บางคนก็อาจจะได้ผลดีกับตัวนี้บางคนก็อาจะได้ผลดีกับอีกตัว เพราะฉะนั้น เวลาเริ่มรักษา ถ้ารักษาไประยะหนึ่งเช่น 4 สัปดาห์ หรือ 6 สัปดาห์ แล้วดูอาการยังไม่ค่อยดีขึ้น หมอก็อาจจะพิจารณาการรักษาให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคน
คนที่เป็นโรคซึมเศร้ารักษาด้วยยาอย่างเดียวไม่พอ มันมีวิธีอื่นๆ อีก อันดับแรกก็คือ ถ้าพอไหว พยายามทำกิจวัตรประจำวันให้ใกล้เคียงกับปกติมากที่สุด อาจจะต้องฝืนไปบ้าง บางคนออกไปข้างนอก ไปพบปะผู้คน บางทีทำได้ แต่เขาบอกว่ากลับมาบางทีเหมือนมันดูดพลังไปหมดทั้งวันเลย กลับมานอน แต่ว่าก็ต้องพยายามทำ
นิดหนึ่ง คือพยายามทำกิจวัตรประจำวันให้เป็นปกติเข้าไว้ แล้วก็อาจจะต้องใช้วิธีอื่นๆ เช่น การออกกำลังกายการผ่อนคลายความเครียดด้วยวิธีทั่วๆ ไป เช่น ฟังเพลงหรืออะไรทำนองนี้ถ้ามีความพร้อมที่จะสนใจทางธรรมะ ก็เป็นสิ่งที่ดีอันหนึ่ง แต่โดยทั่วไปคนที่ซึมเศร้าช่วงแรกๆ ใจจะยังไม่พร้อมที่จะไปทางฝึกสมาธิ ไปทางเรียนรู้ธรรมะ แต่ถ้าพร้อมก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วย
สิ่งที่ช่วยอีกอันหนึ่งคือ มนุษย์มีพื้นฐานก็คือต้องการสังคม ต้องการความผูกพันกับผู้อื่น ก็พยายามที่จะเข้าหาเพื่อนหรือว่าคนที่เราคุ้นเคย ไว้วางใจแล้วก็อาจจะพูดคุยเรื่องต่างๆ ปัญหาต่างๆบางทีปัญหาของคนที่เป็นโรคซึมเศร้าอาจจะไม่เยอะนัก แต่ว่าพอเป็นโรคซึมเศร้าแล้ว มันจะทำให้เราขยายคือทำให้เรามองว่ามันคงจะแย่ไป แต่ว่าถ้ามีคนอื่นที่เขาคอยให้คำปรึกษาและคอยรับฟังเรา บางทีเขาอาจจะมองเห็นวิธีแก้ที่ไม่ยากนักได้
การมาพบจิตแพทย์ก็ไม่ต้องรอให้เป็นโรคทุกอย่างที่มีอาการหนักแล้ว แต่ก็คือ ถ้าเมื่อไรก็ตามที่เรารู้สึกว่าจิตใจเราไม่เป็นปกติสุข ไม่เหมือนที่เราเคยเป็น หรือมีความทุกข์เยอะ มีความลำบากใจ หรือแม้แต่บางทีเราอาจจะจัดการกับอะไรบางอย่างไม่ได้ แล้วมันมีผลกระทบต่ออาการทางกายหรือทางใจบางอย่างก็สามารถที่จะมาปรึกษาจิตแพทย์ได้ การเข้าหาจิตแพทย์ตั้งแต่อาการน้อยๆ ปัญหาต่างๆ เหมือนกัน ถ้าเราแก้ตั้งแต่น้อยๆ มันจะแก้ได้ง่ายกว่า คือถ้ามันเป็นเยอะไปแล้ว มันก็ต้องใช้เวลา และยิ่งถ้าเป็นซึมเศร้าไปแล้ว แล้วเป็นหลายครั้งมันก็จะยิ่งทำให้การรักษายากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี