มูลนิธิกองทุนการกุศลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีฯ ร่วมกับ บี.กริม บริษัทสัญชาติเยอรมันที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยกว่า 141 ปี เรียกได้ว่าอยู่คู่การเติบโตมากับประเทศไทย ขณะที่ผู้บริหารในแต่ละรุ่นต่างมีความสำนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณมาโดยตลอด และเพื่อตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณ บี.กริม ได้ให้ความสำคัญกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ศาสนา และการศึกษา มาอย่างต่อเนื่อง
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานมูลนิธิกองทุนการกุศลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในพระราชูปถัมภ์ กล่าวว่ามูลนิธิกองทุนการกุศลสมเด็จพระศรีนครินทราฯก่อตั้งมา 39 ปี นับจากปี 2523 แต่เริ่มมีการจัดมอบทุนให้กับนักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี (วพบ.) ตั้งแต่ปี 2533 ซึ่งเป็นปีที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีพระชนมายุ 90 พรรษา จึงได้ดำเนินการจัดมอบทุนเป็นครั้งแรกจำนวน 30 ทุน ทั้งนี้ในปี 2562เป็นการจัดมอบทุนต่อเนื่องเป็นปีที่ 29 แล้ว โดยในปีนี้จัดมอบทุนให้นักศึกษา วพบ.510 ทุนครอบคลุม วพบ.ทั้งหมด 32 แห่งทั่วประเทศ และมอบทุนให้กับองค์กรการกุลศลอื่นๆ อีก 25องค์กร รวมเป็นเงิน 7,400,000 บาท พร้อมจัดให้มีการเข้าค่ายตามรอยสมเด็จย่ารุ่นที่ 4 เพื่อให้นักศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับคัดเลือกจาก วพบ.ทั้ง 32 แห่งเป็นตัวแทนมาเข้าค่ายแลกเปลี่ยนความรู้กัน รวมทั้งให้นักศึกษา วพบ.ได้ระลึกถึงคุณงามความดีของสมเด็จย่าเพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจกับนักศึกษาในการทำหน้าที่อาชีพพยาบาลได้อย่างเต็มความสามารถ
“การมอบทุนให้แก่นักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีเพื่อเป็นการลดภาระแก่นักศึกษา และสร้างโอกาสให้กับผู้สนใจเรียนพยาบาลแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้เข้ามาเรียน ส่วนค่ายตามรอยสมเด็จย่านั้นเพื่อให้นักศึกษาได้มีความรู้มากขึ้นให้เขารู้จักกันมีการแลกเปลี่ยนความรู้กัน รวมทั้งสร้างจิตสำนึกให้กับนักศึกษาต่ออาชีพพยาบาลให้ระลึกถึงสมเด็จย่าที่เคยสร้างคุณประโยชน์ให้คนไทยอย่างมหาศาลให้นักศึกษาตามรอยสร้างความดีงาม”
คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รองประธานมูลนิธิกองทุนการกุศลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี กล่าวว่า การจัดค่ายตามรอยสมเด็จย่าในปีนี้จัดขึ้นเป็นรุ่นที่ 4 มีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมโยงผูกพันระหว่างนักศึกษาปีที่ 3 จำนวน 120 คน เป็นตัวแทนจาก 32 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สร้างแรงบันดาลใจต่อการทำหน้าที่อาชีพพยาบาล เน้นปลูกฝังให้นักศึกษาเป็นคนดีมีความรับผิดชอบต่ออาชีพ ต่อหน้าที่ของตนเองมีความเสียสละ และสามารถดำรงชีวิตได้อย่างพอเพียงประกอบกับได้มาแลกเปลี่ยนความรู้กันแล้วสามารถนำประสบการณ์ความรู้ไปกระจายความรู้กับนักศึกษารุ่นน้องต่อไปคุณสมบัติผู้ที่จะได้รับทุนนั้นจะต้องเรียนดี ขาดแคลนทุนทรัพย์ มีความประพฤติดี โดยนักศึกษาจะได้รับทุนไปสำหรับจ่ายค่าอุปกรณ์การเรียนตำราเรียนและค่าใช้จ่ายทั่วไป โดยเงินส่วนใหญ่มาจากบริษัทบี.กริม นอกจากนี้ก็มีผู้บริจาครายย่อย ประชาชนทั่วไป ล่าสุดมีการจัดวิ่งการกุศล Run for nurse ขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อสมทบทุนแก่มูลนิธิกองทุนการกุศลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเป็นทุนในการมอบให้นักศึกษา
“พยาบาลเป็นอาชีพที่มีความสำคัญกับสังคมเกี่ยวข้องประชาชนทุกคน เป็นอาชีพที่เสียสละ ผู้มาเรียนส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง แต่แท้ที่จริงแล้วการทำงานเป็นพยาบาลเป็นงานที่หนักควรจะมีผู้ชายมากขึ้นด้วย ประกอบกับคนที่มาเรียนมีฐานะขาดแคลน ดังนั้นเด็กที่มาเรียนพยาบาลจึงเป็นคนเสียสละ อุทิศตน สร้างประโยชน์ให้กับสังคมถ้าเกิดเราจะช่วยกันส่งเสริมอาชีพนี้ก็บริจาคกันได้เพื่อสร้างอาชีพนี้ให้มีคุณค่าต่อไป”
ลาวัณย์ ศรีบรรเทา นักศึกษาปีที่ 3 วพบ. จ.ชัยนาท กล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่าพ่อแม่ทำไร่ ทำนา ไม่มีรายได้มากพอที่จะส่งเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชน ก็เลยตัดสินใจสมัครเรียนพยาบาลที่วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีเพราะมีทุนให้ทุกปีตั้งแต่ต้นจนจบการศึกษาลดภาระค่าใช้จ่ายที่บ้านได้เยอะ การเรียนพยาบาลเป็นอาชีพที่ต้องเสียสละ และการเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ตื่นเต้นแต่ก็ได้ประสบการณ์จากวิทยากร เพื่อ วพบ.จากจังหวัดอื่นที่ได้แลกเปลี่ยนความรู้กันได้เรียนรู้เรื่องราวของสมเด็จย่าในด้านการเป็นพยาบาลจึงทำให้เห็นความสำคัญของอาชีพนี้มากขึ้นซึ่งจะเอาประสบการณ์ที่ได้รับไปปรับใช้กับวิชาชีพ” ธิติยา รักแฟงนักศึกษาปีที่ 3 วพบ.จ.ตรัง กล่าวว่าได้ทุนเรียนที่วิทยาลัยพยาบาลตรัง เลือกเรียนเพราะอยากเรียนพยาบาล การเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้จะนำเอาประสบการณ์ที่ได้รับไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ปรับใช้ในวิชาชีพพยาบาล และนำไปบอกเล่าให้กับนักศึกษารุ่นน้องฟัง โดยทุนที่ได้ทุกๆ ปีนั้นเป็นประโยชน์อย่างมากกับนักศึกษาที่ไม่มีทุนทรัพย์เพราะการเรียนพยาบาลค่าใช้จ่ายเยอะทุนส่วนหนึ่งที่ได้มาก็สามารถช่วยเหลือได้เยอะและยังช่วยให้น้องๆ รุ่นต่อๆ ไปมีโอกาสได้ทุนด้วย พสินฐุ์ ศรีลาวัณย์ นักศึกษาปีที่ 3 วพบ.จ.แพร่ กล่าวว่าขอบคุณบริษัทบี.กริม มูลนิธิกองทุนการกุศลสมเด็จพระศรีนครินทราฯ ที่จัดมอบทุนให้กับนักศึกษา วพบ.เพราะช่วยลดเรื่องภาระค่าใช้จ่ายกับพ่อ แม่ได้เยอะ ส่วนการร่วมกิจกรรมตามรอยสมเด็จย่าในครั้งนี้ได้รับประสบการณ์ดีๆ หลายด้านทั้งความรู้ที่ได้รับจากวิทยากร จากคุณหญิงทิพาวดี ได้เรียนรู้เรื่องราวการเป็นพยาบาลของสมเด็จย่าซึ่งทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการทำหน้าที่ในวิชาชีพพยาบาลของตน และยังสามารถนำไปปรับใช้กับการดำเนินชีวิตประจำวันได้ รวมถึงจะนำเอาประสบการณ์ที่ได้รับไปบอกเล่าให้รุ่นน้องฟังด้วย วิภาดา วรรณราช นักศึกษาปีที่ 3วพบ.จ.อุดรธานี กล่าวว่า การเลือกเรียนพยาบาลนั้นมองว่ามีโอกาสต่อยอดได้เยอะในการทำงาน จึงตัดสินใจเรียนพยาบาล พอได้ลองมาเรียนได้ฝึกงานก็ชอบมากขึ้น เราปฏิบัติกับคนไข้ได้รับคำขอบคุณต่างๆ ทำให้เรารู้สึกประทับใจ การเรียนพยาบาลนอกจากเป็นประโยชน์กับตนเองแล้วยังสร้างประโยชน์แก่ผู้อื่น เป็นอาชีพที่มีประโยชน์ต่อสังคม การได้รับทุนจากมูลนิธิฯ ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางบ้านทั้งค่าเล่าเรียน การซื้ออุปกรณ์ เพราะครอบครัวไม่มีเงินเพียงพอ ดังนั้นการได้รับทุนจึงช่วยให้สามารถเรียนได้แบบสบายใจไม่ต้องกังวล การเข้าค่ายตามรอยสมเด็จย่าในครั้งนี้ก็จะนำความรู้ประสบการณ์ที่ได้รับนำไปปรับใช้การเรียนการดำรงชีวิต และการประกอบวิชาชีพพยาบาลต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี