รพ.บำรุงราษฎร์ เผยความพร้อมของทีมแพทย์และสหสาขาวิชาชีพ ในการส่งมอบการดูแลรักษาโรคลิ้นหัวใจ ด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ TAVI หรือ Transcatheter Aortic Valve Implantation ทางเลือกของการรักษาโดยการเปลี่ยนลิ้นหัวใจผ่านสายสวนแทนการผ่าตัดเปิดช่องอก แผลมีขนาดเล็ก ผู้ป่วยเจ็บน้อยและฟื้นตัวเร็ว
จากข้อมูลของ United Nations World Population Ageing พบว่า ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) ซึ่งสหประชาชาติระบุว่า ประเทศใดมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป ในสัดส่วนเกินร้อยละ 10ของประชากรทั้งประเทศ ถือว่าประเทศนั้นก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุหรือ Aging Society และจะเป็น “สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ” (Aged Society) เมื่อสัดส่วนประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20 โดยตัวเลขของประเทศไทย คาดการณ์ว่าในปี 2564 ไทยจะเข้าสู่สังคมประชากรสูงวัยแบบสมบูรณ์ โดยมีผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี เกิน 20% ของจำนวนประชากรทั้งหมด
นพ.วิญญู รัตนไชย ผอ.ด้านการแพทย์ รพ.บำรุงราษฎร์ เปิดเผยว่า “รพ.บำรุงราษฎร์ ได้เล็งเห็นแนวโน้มของสังคมผู้สูงอายุในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง จึงมีการเตรียมพร้อมในการรองรับปัญหาสุขภาพที่เกิดในกลุ่มผู้สูงวัย โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับหัวใจ และหลอดเลือด ซึ่งถือเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตในผู้สูงวัยในลำดับต้นๆ
“ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลมีความพร้อมทั้งในส่วนของแพทย์บุคลากรทางการแพทย์ สหสาขาวิชาชีพ ความพร้อมในด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ ความพร้อมของศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ รวมถึงศูนย์ลิ้นหัวใจ ที่จะให้การดูแลรักษาโรคเฉพาะทางได้อย่างครอบคลุมทุกมิติ ตั้งแต่การป้องกัน การวินิจฉัยในระยะเริ่มต้น การรักษา ตลอดจนถึงการฟื้นฟูสมรรถภาพโดยแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์และความชำนาญการขั้นสูง ด้วยคุณภาพมาตรฐานระดับสากลและความปลอดภัยสูงสุด”
นพ.วิสุทธิ์ วิเวกาภิรัต แพทย์ที่ปรึกษาผู้อำนวยการปฏิบัติการทางการแพทย์ และแพทย์ผู้ชำนาญการด้านโรคหัวใจ รพ.บำรุงราษฎร์ กล่าวว่า “โรคหัวใจ นับเป็นภัยเงียบที่อาจไม่มีอาการหรือสัญญาณบ่งชี้ชัดเจน ผู้ป่วยจึงอาจไม่ได้ให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพหัวใจ ซึ่งถ้าหากผู้ป่วยไม่ได้รับการดูแลรักษาทางการแพทย์ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก บางครั้งอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลวได้ ดังนั้นการตรวจสุขภาพหัวใจเป็นประจำ จึงเป็นสิ่งที่ควรใส่ใจ ก่อนที่จะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น โดยโรคหัวใจที่พบบ่อยในผู้สูงวัย ได้แก่ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบหรืออุดตันโรคลิ้นหัวใจเอเออร์ติกตีบ (Aortic valve stenosis) โรคหัวใจสั่นพลิ้ว(Atrial Fibrillation) ภาวะหัวใจเต้นช้า และหัวใจล้มเหลว ซึ่งปัจจุบันบำรุงราษฎร์ มีศูนย์รักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจที่สำคัญได้แก่ ศูนย์หัวใจ ศูนย์หัวใจเต้นผิดจังหวะ และล่าสุด ศูนย์ลิ้นหัวใจเพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้ป่วยจะได้รับการตรวจวินิจฉัย และการรักษาจากแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางที่ตรงจุดและด้วยวิธีการที่เหมาะสมกับอาการของโรคในแต่ละบุคคล”
หากอยู่ๆ ผู้สูงอายุเริ่มมีอาการเหนื่อยง่าย เป็นลมหมดสติ หรือแน่นหน้าอก นี่อาจเป็นสิ่งบ่งบอกว่ากำลังมีปัญหาเกี่ยวกับลิ้นหัวใจตีบ และควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจอย่างละเอียด อาการลิ้นหัวใจตีบ มีชนิดหนึ่งที่เกิดจากการตีบของลิ้นหัวใจที่กั้นระหว่างหัวใจห้องล่างซ้ายและหลอดเลือดแดงใหญ่ ซึ่งในทางการแพทย์เรียกว่าลิ้นหัวใจเอออร์ติก (Aortic Valve) โดยส่วนใหญ่พบในผู้สูงอายุ และหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เสียชีวิตในระยะเวลา 2-5 ปี
นพ.วัธนพล พิพัฒนนันท์ ผอ.ศูนย์ลิ้นหัวใจ ให้ข้อมูลระบบการทำงานของหัวใจว่า โดยปกติแล้ว หัวใจฝั่งขวาจะรับเลือดจากเส้นเลือดดำแล้วส่งไปฟอกที่ปอด จากนั้นเลือดดีจากปอดก็จะถูกส่งมาที่หัวใจฝั่งซ้าย โดยหัวใจห้องล่างซ้ายจะเป็นห้องสุดท้ายที่สูบฉีดเลือดไปยังหลอดเลือดแดงใหญ่แล้วกระจายไปยังทั่วร่างกาย ซึ่งลิ้นหัวใจเอออร์ติก ก็เปรียบเหมือนวาล์วน้ำที่กั้นปั๊มน้ำกับท่อเมน และเมื่อสูงอายุขึ้น ลิ้นหัวใจเอออร์ติก ก็มีโอกาสตีบจากการมีหินปูนเกาะสะสมหรือเกิดจากการเสื่อมถอยของอายุ ที่สำคัญอาการลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบ มีปัจจัยจากความชราของร่างกาย ดังนั้นจึงมีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกคนทั้งชายและหญิง หรือไม่ว่าจะมีรูปแบบการใช้ชีวิตที่ระมัดระวังสุขภาพเพียงใดก็ตาม โรคลิ้นหัวใจตีบชนิดนี้ ผู้ป่วยจะไม่ทราบจนกว่าจะมีการตรวจร่างกายอย่างละเอียด แต่สามารถสังเกตอาการได้ เช่นมีอาการเหนื่อยง่าย อันเนื่องมาจากภาวะหัวใจวาย (Heart Failure)ซึ่งไม่ได้หมายถึงหัวใจหยุดเต้น แต่เป็นอาการที่หัวใจไม่สามารถสูบฉีดไปเลี้ยงร่างกายได้อย่างพอเพียง
ซึ่งหากเกิดกับหัวใจฝั่งซ้ายก็จะทำให้เกิดอาการน้ำท่วมปอดรวมถึงอาการแน่นหน้าอก เป็นลมหมดสติ อาจเป็นอาการที่เกิดจากลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบก็ได้ ดังนั้นการตรวจคัดกรองโรคหัวใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ไม่ควรรอ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีโรคประจำตัว อย่างเช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูงไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน หรือ ผู้ที่สูบบุหรี่ และผู้ที่มีประวัติโรคหัวใจในครอบครัว ควรได้รับการตรวจร่างกายทั่วไปและตรวจหัวใจโดยเฉพาะ เช่น ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) และตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ (Echocardiogram หรือ echo)
ความพร้อมของทีมแพทย์และสหสาขาวิชาชีพที่ศูนย์ลิ้นหัวใจ รพ.บำรุงราษฎร์ ได้สั่งสมประสบการณ์และพัฒนาทีมแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทาง และจัดตั้งศูนย์ลิ้นหัวใจซึ่งมีความพร้อมในด้านบุคลากรที่จะให้บริการอย่างครอบคลุม ตั้งแต่การป้องกัน การวินิจฉัยในระยะเริ่มต้น การรักษา ตลอดจนถึงการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจโดยศัลยแพทย์โรคหัวใจ อายุรแพทย์โรคหัวใจ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านการทำหัตถการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด (Interventional Cardiology) อายุรแพทย์หัวใจด้านเอคโคคาร์ดิโอแกรม (Echocardiogram) วิสัญญีแพทย์ด้านหัวใจโดยตรงและทีมพยาบาลที่มีประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจ
การตรวจระบบหัวใจ (Cardiac Imaging) หน่วยอภิบาลโรคหัวใจ หรือ ซีซียู ตลอดจนกระบวนการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ (Cardiac Rehabilitation) ซึ่งทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ของรพ.บำรุงราษฎร์ ได้ผ่านการอบรมหัตถการดังกล่าวจากต่างประเทศมาโดยเฉพาะ อาทิ ประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศออสเตรเลีย เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับโรค ขั้นตอนและทางเลือกในการรักษากับผู้ป่วยและญาติได้อย่างถูกต้องชัดเจน นอกจากนี้ผู้ป่วยยังมั่นใจได้ว่า อุปกรณ์ที่โรงพยาบาล เลือกใช้เพื่อการรักษาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพผ่านการรับรองตามมาตรฐานสากล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี