นักท่องเที่ยวที่มาเยือนกรุงปราก สถานที่ 2 แห่งที่ต้องเยือนให้ได้ไม่เช่นนั้นจะเหมือนมาไม่ถึงเมืองปราก นั่นคือ หอนาฬิกา และสะพานชาร์ลส์ นักท่องเที่ยวหลายคนทราบดีว่า หอนาฬิกาหลายเมืองในยุโรปมีควาน่าสนใจ แต่ไม่มีหอนาฬิกาเมืองใดสวยเท่ากับหอนาฬิกากรุงปราก หอนาฬิกาที่ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1410 นี้เป็นหอนาฬิกาดาราศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกและเป็นหอนาฬิกาเก่าแก่ที่สุดหอเดียวที่ยังคงทำงานอยู่ในยุคปัจจุบัน
หอนาฬิกาที่ตั้งอยู่ ณ กำแพงทิศใต้ของอาคารว่าการ old town hall ที่จัตุรัสกลางเมืองนี้ประกอบด้วยส่วนต่างๆ 3 ส่วนคือ ส่วนดาราศาสตร์อันเป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1410 โดย Mikuláš of Kadaň and Jan Šindel ช่างทำนาฬิกาที่ภายหลังเป็นศาสตราจารย์ทางด้านคณิตศาสตร์และดาราศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยชาร์ลส์ เป็นส่วนที่อธิบายวงโคจรของพระอาทิตย์และพระจันทร์ ส่วนศาสนจักรที่ถูกสร้างขึ้นภายหลังประกอบด้วยนักบุญสาวกของพระเยซูทั้ง 12 คน ได้แก่ เจมส์ ปีเตอร์ แอนดรูว์แมทธิว โธมัส จอห์น ปอล เป็นต้น ที่เดินเข้า-ออกด้านซ้ายขวาของนาฬิกาแต่ละชั่วโมงตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม และโครงกระดูกซึ่งหมายถึงความตายตีบอกเวลา และส่วนปฏิทินจะประกอบด้วยวงกลมใหญ่ 1 วงบอกถึงเทศกาลสำคัญและมีรูปหอคอยที่ประดับด้วยวงกลมเล็ก 12 วง อันแสดงถึง 12 ราศีอันหมายถึง 12 เดือน
ส่วนของนาฬิกาดาราศาสตร์อันเป็นส่วนที่ถูกสร้างขึ้นส่วนแรกนั้นเคยเกิดความเสียหลายครั้งและถูกซ่อมหลายครั้งเช่นกันโดยครั้งใหญ่สุดเกิดขึ้นในปี 1552 โดยJan Taborsky ต่อมาในปี 1629 เทศบาลเมืองจึงได้ตกแต่งหอนาฬิกาเพิ่มโดยจัดให้มีรูปแกะสลักไม้ หลังจากนั้นก็เพิ่มรูปนักบุญในปี 1781 รวมทั้งเพิ่มรูปไก่ทอง ในปี 1865 อย่างไรก็ดี หอนาฬิกาถูกทำลายลงอย่างมากในวันที่7-8 พฤษภาคม 1945 จากเหตุการณ์การเดินขบวนเมื่อนาซีบุกจัตุรัสกลางเมืองทางด้านตะวันตกเฉียงใต้โดยเข็นรถติดอาวุธจำนวนมากเข้ามาในเมือง ส่วนของห้องโถงและอาคารรวมทั้งรูปแกะสลักไม้ถูกไฟไหม้ และส่วนปฏิทินที่ถูกแกะสลักโดย Josef Manes ก็ไหม้ไปหมดหลังจากนั้นเทศบาลได้พยายามซ่อมแซมส่วนเครื่องและได้จัดทำรูปแกะสลักนักบุญใหม่โดยมอบหมายให้กับ Voitech Sucharda จนทำให้นาฬิกากลับมาเดินอีกครั้งในปี 1948
หลังจากนั้นมาหลายสิบปี นาฬิกาก็ไม่เคยได้รับการซ่อมแซมอีกเลยจวบจนฤดูใบไม้ผลิปี 2005 เทศบาลได้ทำการซ่อมแซมส่วนแกะสลักและส่วนปฏิทิน อีกทั้งยังมีการเอาตาข่ายมาคลุมรูปแกะสลักไม้เพื่อไม่ให้นกพิราบมาเกาะ เดือนตุลาคม ปี 2010 เทศบาลได้จัดให้มีการฉลองครบรอบ 600 ปีของการสร้างหอนาฬิกานี้โดยมีการจัดแสดงแสง สี และมีการฉายวีดีโอเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของหอนาฬิกาตั้งแต่การสร้างการซ่อม การถูกไฟไหม้ ฯลฯ รวมทั้งจัดแสดงเครื่องกลภายในให้ได้ชมด้วย การซ่อมแซมครั้งล่าสุดเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อปี 2018 นี่เองอันเป็นผลต่อเนื่องมาจากการซ่อมแซมส่วนหอคอยเก่าโดยในการซ่อมแซมครั้งล่าสุดนี้ ช่างได้ค้นพบความลับสำคัญนั่นคือ รูปนักบุญเซนต์โทมัส มีน้ำหนักมากกว่ารูปอื่นๆ และจากเอกซเรย์พบว่าภายในมีกล่องเหล็กบรรจุอยู่ เมื่อเปิดกล่องก็พบข้อความที่ถูกเขียนขึ้นโดย Vojtech Suchardaนักประติมากรรมผู้ปั้นนักบุญในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองมีใจความว่า ตามแผนดั้งเดิมนั้น รัฐบาลต้องการให้มีประติมากรรมจำนวนมากกว่านี้ แต่หลังจากที่เช็กถูกปกครองด้วยระบบคอมมิวนิสต์ แผนการก็ถูกเปลี่ยนไป และในการซ่อมแซมครั้งสุดท้ายนี้ รัฐบาลได้มีการสร้างส่วนหอคอยใหม่และทำการแทนที่ด้วยจอ LED การซ่อมแซมเสร็จสิ้นลงพร้อมกับงานเฉลิมฉลอง 100 ปี เชโกสโลวาเกีย
นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวกรุงปราก จะต้องมารอชมนาฬิกาตีบอกเวลา และคอยสังเกตจุดต่างๆ ให้ออกตามที่ไกด์แนะนำ นั่นคือชั้นนอกสุดประกอบด้วยสัญลักษณ์ต่างๆเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เวลาของเช็ก ส่วนกลางเป็นเลขโรมันที่พบได้ทั่วไป ส่วนสีฟ้าแดงจะบอกการขึ้นของพระอาทิตย์ เวลาพักกลางวัน เวลากลางวันและกลางคืน รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ต่างๆ ส่วนในสุดบอกข้อมูลเกี่ยวกับโลกให้ได้ครบทั้งหมดจึงจะได้อรรถรสคุ้มค่ากับการเยี่ยมเยือน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี