สมาคมครูภาษาฝรั่งเศสแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี จัดสร้างรูปปั้นขนาดครึ่งตัว“Kosa Pan : Le buste โกษาปาน อนุสรณ์สถานแห่งมิตรไมตรีที่ถนนสยาม” นำไปประดิษฐาน ณ ถนนสยาม เมืองแบรสต์ ประเทศฝรั่งเศส เพื่อรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณในวาระครบรอบ 11 ปี การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ องค์ผู้ก่อตั้งสมาคมครูภาษาฝรั่งเศสแห่งประเทศไทยโดยภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจากแขกผู้มีเกียรติร่วมงาน อาทิ มร.ฌัก ลาปูฌ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย, พิกิฏ ศรีชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม, คุณหญิงวงจันทร์พินัยนิติศาสตร์ อุปนายกสมาคมครูภาษาฝรั่งเศสฯ, กอบลาภ โปษะกฤษณะ นายกสมาคมนักเรียนเก่าสวิสส์ ในพระอุปถัมภ์ฯ, เนาวรัตน์พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติและกวีรัตนโกสินทร์, อ.วัชระ ประยูรคำ ประติมากรชาวไทยผู้ปั้นเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน), รศ.ดร.กรรณิกา จรรย์แสง อาจารย์นักแปลและผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาและวรรณกรรมฝรั่งเศส, อ.เกริกบุระ ยมนาค จิตรกรและศิลปิน, สุพจน์ โล่ห์คุณสมบัติ อุปนายกสมาคมนักเรียนเก่าสวิสส์ฯ และผู้ประสานงานโครงการ, อมาตย์ นิมิตภาคย์ ช่างภาพผู้คร่ำหวอดในวงการ รวมถึง ชาติชาย งามสรรพ์นักแสดงมากความสามารถ ฯลฯ ร่วมให้ความสนใจงานแถลงข่าวในครั้งนี้
รศ.ดร.ธิดา บุญธรรม อุปนายกสมาคมครูภาษาฝรั่งเศสฯ และประธานโครงการกล่าวว่า สมาคมได้จัดทำรูปปั้นเพื่อรำลึกถึงเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ปูชนียบุคคล ซึ่งในปี พ.ศ.2562 เป็นวาระครบรอบ 333 ปี เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ราชทูตแห่งราชอาณาจักรสยามที่ได้อัญเชิญพระราชสาส์น และเครื่องราชบรรณาการจากสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเพื่อนำไปถวายแด่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ณ พระราชวังแวร์ซายประเทศฝรั่งเศส ในครั้งนั้นคณะราชทูตสยามได้เดินทางโดยทางเรือไปเทียบท่าที่เมืองแบรสต์อยู่ทางภาคตะวันตกของฝรั่งเศสเป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ.2229 และด้วยไหวพริบปฏิภาณอันเฉลียวฉลาดหลักแหลมของเจ้าพระยาโกษาธิบดี(ปาน) ได้สร้างความประทับใจและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศสยามอย่างมากมาย อันถือเป็นปฐมบทแห่งความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ ร่องรอยประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ฉันมิตรยังปรากฏในเมืองแบรสต์ เช่น ถนนสยาม (Rue de Siam) ถือเป็นอีกหนึ่งประจักษ์พยานแห่งมิตรภาพที่ทางการเมืองแบรสต์ได้มอบเกียรติสูงสุดแก่สยามประเทศ โดยเมื่อปี พ.ศ.2285 ทางการเมืองแบรสต์ได้เปลี่ยนชื่อถนนแซงต์ปิแอร์ (Rue de St.Pierre) ถนนหลักของเมืองให้เป็นชื่อ ถนนสยาม เพื่อเป็นเกียรติแก่คณะราชทูตสยาม รวมไปถึงป้ายรถรางไฟฟ้าชื่อสถานีสยาม ตลอดจนหุ่นจำลองขบวนของคณะราชทูตสยามที่จัดแสดงในตูร์ ตองกี (Tour Tanguy) พิพิธภัณฑ์ประจำเมือง แสดงถึงความสำคัญของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ในครั้งนั้น กว่าสามศตวรรษที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศฝรั่งเศสมีความแน่นแฟ้นและเชื่อมโยงกันในหลายมิติ ทั้งทางด้านการทูต การค้าการลงทุน ท่องเที่ยว รวมถึงด้านการศึกษาภาษาฝรั่งเศส ในปี พ.ศ.2532 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯได้เสด็จฯ เพื่อทรงดูงานด้านการศึกษา ณ เมืองแบรสต์ ทรงตระหนักว่า นอกจากเมืองแบรสต์มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาแล้ว แบรสต์ยังเป็นศูนย์การศึกษาที่มีความเป็นเลิศด้านการสอนภาษาฝรั่งเศสให้กับชาวต่างชาติ
และเพื่อรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ และในโอกาสครบรอบ 333 ปี ของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์อันน่าจดจำนี้ สมาคมครูภาษาฝรั่งเศสฯ และพันธมิตรที่เกี่ยวข้องจะร่วมมือดำเนินการจัดสร้างรูปปั้นเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ขนาดครึ่งตัว โดยผู้ปั้น อ.วัชระ ประยูรคำ ประติมากรชาวไทย ผู้มีผลงานปั้นพระบรมรูป พระรูปและผลงานประติมากรรมมากมาย เพื่อนำไปประดิษฐาน ณถนนสยาม เมืองแบรสต์ นอกจากนี้ได้จัดทำหนังสือรูปภาพสีน้ำที่ระลึก “333 ปี จากวังนารายณ์สู่แวร์ซายสถาน” เพื่อบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของคณะราชทูตไทย ในรูปแบบหนังสือท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ตามเส้นทางของคณะราชทูตสยาม ตั้งแต่จากพระราชวังนารายณ์ราชนิเวศน์ถึงพระราชวังแวร์ซาย ประกอบด้วยผลงานภาพสีน้ำของ อ.เกริกบุระ ยมนาค ศิลปินวาดภาพเล่าความโดย สุพจน์ โล่ห์คุณสมบัติ นักเขียนสารคดีท่องเที่ยว และสุดท้ายนี้ทางสมาคมครูภาษาฝรั่งเศสฯ จะจัดงานพิธีเปิดอนุสาวรีย์เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ณ ถนนสยาม เมืองแบรสต์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส เร็วๆ นี้”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี