อะโนะ-อโณทัย นิรุตติเมธี กับผลงาน “ANO›s Wonder Horror Land”
ที่สุดแห่งความฝันของศิลปินทุกคน คงหนีไม่พ้นการได้เห็นผลงานที่วาดด้วยหัวใจมีโอกาสเฉิดฉายให้คนรักศิลปะไม่ว่าจะอยู่ที่ใดของโลกได้ชื่นชม เช่นเดียวกับศิลปินสายสตรีทอาร์ต “เนะ” อโณทัย นิรุตติเมธีหรือที่คนในวงการศิลปะคุ้นหูในชื่อ “อะโนะ”(ANO) อีกหนึ่งศิลปินดาวรุ่งเจ้าของลายเส้นแบบ Doodle Art ที่ภายใต้ลายเส้นที่ดูเหมือนว่าจะไร้แบบแผน ทว่าได้ฝากเรื่องราวและเปลี่ยนให้วันร้ายๆบนโลกที่เคยหม่นหมอง แลดูสดใสขึ้นทันตามาแล้วมากมาย
จากจุดเริ่มต้นของการเป็นกราฟิกดีไซเนอร์ นักวาดภาพผนัง และประสบความสำเร็จเกินคาดจากนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกที่มีชื่อว่า “ANO›s Wonder Horror Land”และได้ร่วมงานออกแบบกับแบรนด์ดังมากมายตลอดเส้นทางสายศิลปะ ล่าสุดในนิทรรศการเดี่ยวครั้งที่ 2 “Sweet HOME Sweet” ซึ่งเธอตอบรับคำเชิญจาก Luxbite คาเฟ่ชื่อดังของเมืองเมลเบิร์นในประเทศออสเตรเลีย ในการเป็นศิลปินไทยคนแรกที่ได้แปลงโฉมคาเฟ่แห่งนี้ให้เป็นอาร์ตแกลเลอรี่ขนาดย่อม โดยนำผลงานภาพวาดทั้ง 9 ชิ้นที่สนุกสนาน มีความเป็นเด็ก และสอดแทรกแนวคิดการมองโลกในแง่บวกที่ได้รับการปลูกฝังมาจากพ่อและแม่ตั้งแต่วัยเด็ก เพื่อบอกเล่าเรื่องราวเมื่อครั้งที่เธอได้ใช้ชีวิตอยู่ที่มหานครแห่งนี้เกือบ 8 ปีเต็ม ผ่านลายเส้นแบบ Surreal และสีสันสดใส
“เมลเบิร์น เปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 ที่เนะได้มาเรียนและใช้ชีวิต การกลับมาแสดงงานนิทรรศการที่เมลเบิร์นครั้งนี้ จึงเหมือนเป็น Home Coming ที่ชวนให้นึกถึงหลากหลายเรื่องราวที่ในเวลานั้น อาจมองเป็นเรื่องเล็กน้อยแสนธรรมดา แต่เมื่อมองย้อนไปกลับกลายเป็นว่า ความทรงจำเหล่านั้นอัดแน่นไปด้วยเรื่องราวดีๆ ที่มีทั้งความสนุกสนาน ความตื่นเต้น และการผจญภัยที่ทำให้ยิ้มได้ทุกครั้ง ความรู้สึกเหล่านี้ไม่ต่างจากความสุขเวลาที่ได้ตักขนมหวานแสนอร่อยเข้าปาก นี่จึงกลายเป็นเหตุผลที่ทำให้เนะเลือกใช้ขนมหวานมาเป็นกิมมิคในการถ่ายทอดความคิด เชื่อว่านิทรรศการครั้งนี้จะไปแตะความรู้สึก “สุข” ที่อยู่ลึกๆ ภายในใจของคนที่เคยใช้ชีวิตต่างแดน”
นอกเหนือจากคาแร็กเตอร์คุ้นตาอย่างเจ้าตาเดียวมีปีกอย่าง ANO (อะโนะ) และเด็กหญิงผมสั้นอย่าง Lulu (ลูลู่) ในนิทรรศการครั้งล่าสุดนี้ เธอได้เพิ่มคาแร็กเตอร์ใหม่อย่าง Bambit (แบมบิท) หรือ Lulu ที่แต่งตัวเป็นกระต่าย มีหลายอารมณ์ ทั้งมีความสุขโกรธ และสับสน เพื่อเป็นตัวแทนของมนุษย์ที่บางครั้งก็อยากหลีกหนีจากความเป็นตัวเองสักพัก นอกจากนี้ ยังเลือกใช้วัสดุหลากหลายมากขึ้น เช่น กลิตเตอร์ ขนสังเคราะห์ ฯลฯ ในการสร้างสรรค์ผลงาน เพื่อช่วยสร้างมิติให้แก่ชิ้นงานมากขึ้น
ไม่ใช่เพียงแค่ใช้ดวงตาเพื่อเสพงานศิลป์บนผืนผ้าแคนวาสเท่านั้น แต่ผลงานของเนะยังชิมได้ โดย เบอร์นาร์ด ชู (Bernard Chu)ผู้เชี่ยวชาญด้านของหวานของ LuxBite ได้รังสรรค์เค้ก ANO X LuxBite เค้กชิฟฟอนสปันจ์ มาสคาโปเน่ครีมรสชาไทย พร้อมไข่มุกกรอบรสสตรอว์เบอร์รี่ และมาร์ชแมลโลวลิมิเต็ด เอดิชั่น ที่ได้แรงบันดาลใจจาก“อะโนะ” ราวกับการได้ชิมเค้กชิ้นนี้จะพาเราย้อนกลับไปสู่ความทรงจำอันแสนหวานของเธอนั่นเอง
ด้วยความเป็นคนที่มองโลกในแง่บวกมาตั้งแต่เด็กและมีความเชื่อที่ว่าการทำอะไรผิดพลาดอาจนำไปสู่ไอเดียใหม่ๆ ได้ ทำให้เนะมีความกล้าและมีพลังที่จะสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ อยู่เสมอ
“คุณพ่อปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กว่า คนเราไม่จำเป็นต้องจริงจังกับชีวิตจนเป็นทุกข์แต่ต้องรู้จักหาความสุขให้ชีวิต พอโตมาเนะก็เริ่มศึกษาธรรมะที่สอนให้โฟกัสกับปัจจุบัน เวลามีเรื่องอะไรเข้ามากระทบต้องตัดให้เร็วแม้จะยังทำไม่ได้ 100% แต่ก็พยายามฝึกตลอด อย่างน้อยทุกครั้งที่ออกจากบ้านเนะจะสังเกตคนรอบตัว เวลาเห็นคนที่อยู่ในสภาวะที่ลำบากกว่า มันทำให้เนะบอกตัวเองว่าเราต้องก้าวผ่านเรื่องที่เราคิดว่าเลวร้ายไปให้ได้ เพราะบางครั้งถ้าเทียบกับคนอื่นๆ แล้วเรื่องของเราอาจกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย”
“เนะ”หรือ ANO (อะโนะ) สำเร็จการศึกษาทั้งปริญญาตรีและโท จากมหาวิทยาลัย Royal Melbourne Institute of Technology (RMIT) ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ในสาขา Communication Art and Design ผลงานของเนะส่วนใหญ่จะวาดบนกำแพงและเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการวาดสไตล์ Doodle Art คือการวาดไปแบบใช้จินตนาการไปเรื่อยๆ โดยการปล่อยจิตให้ว่าง ผสมผสานกับกลิ่นอายของศิลปะแนว Surrealism (ศิลปะลัทธิเหนือจริง)และด้วยลายเส้นที่น่ารัก สนุกสดใสเป็นเอกลักษณ์ งานของ เนะผู้คนจึงเห็นและเริ่มจดจำได้ถึงสไตล์ของเธอ และเธอเชื่อว่า“ข้อผิดพลาดสามารถนำไปสู่ไอเดียใหม่” ลายเส้นงานของเนะนั้น จึงสามารถขีดเขียนออกมาอย่างมั่นใจ มีพลัง และสนุก นอกจากนี้ เธอยังเป็นบุคคลที่อยู่ในแวดวงบันเทิงอีกด้วย
ปี 2561 ที่ผ่านมา เนะมีผลงานออกแบบร่วมกับหลากหลายแบรนด์ชั้นนำตลอดจนองค์กรทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Kiehl›s, New balance, ตาวิเศษไปจนถึงการใช้คาแร็กเตอร์แสนน่ารักชุบชีวิตกระถางต้นไม้ในโครงการ ChulaArt Town บริเวณสยามสแควร์ให้ดูสดใส รวมถึงการได้เป็นศิลปินไทยเพียงคนเดียวที่ได้นำผลงานไปโชว์ในองค์กรไวลด์เอด (WildAid) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ผลักดันไม่ให้มีการฆ่าสัตว์เพื่อการค้า โดยนำภาพไปประมูลหารายได้
เข้าองค์กร นับว่าเป็นความน่าภาคภูมิใจของศิลปินไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี