บริติช เคานซิล ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาธุรกิจงานคราฟท์จากสหราชอาณาจักร แบรนด์งานจักสาน PATAPiAN ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจระดับนานาชาติ และสำนักวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พัฒนาศักยภาพสมาชิก “วานีตา” กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อสังคมของสตรีผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่รวมตัวกันเพื่อผลิตผลงานหัตถกรรมจักสานและสินค้าที่แปรรูปจากผ้าปาเต๊ะ ผ่านโครงการคราฟท์ติ้ง ฟิวเตอร์ (Crafting Futures) ของบริติช เคานซิล เพื่อสนับสนุนผู้หญิงที่ทำงานในภาคหัตถกรรม ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และการทำงานร่วมกันระหว่างประเทศไทยและสหราชอาณาจักรดึงอัตลักษณ์ของชุมชนผสมผสานลงในการออกแบบผลงานให้มีคาแร็กเตอร์ที่โดดเด่น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ความชอบที่หลากหลายของผู้ที่นิยมเสพงานคราฟท์
คอลเลคชั่นงานจักสานไม้ไผ่ลายมองยงและยี่หร่า
มร.แอนดรูว์ กลาส ผู้อำนวยการ บริติช เคานซิล ประเทศไทย กล่าวว่า บริติช เคานซิล ได้เล็งเห็นถึงช่องทางในการพัฒนาศักยภาพของสมาชิกในกลุ่มวิสาหกิจชุมชนวานีตา หรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อสังคมของสตรีผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่รวมตัวกันเพื่อผลิตผลงานหัตถกรรมจักสานและสินค้าที่แปรรูปจากผ้าปาเต๊ะ โดย วานีตา เป็นตัวอย่างกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีจุดแข็งในเรื่องสตอรี่ของตัวกลุ่มวิสาหกิจและตัวผลิตภัณฑ์ รวมถึงการสร้างคาแร็กเตอร์อันโดดเด่นให้กับผลิตภัณฑ์แต่ละคอลเลคชั่นจึงได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาธุรกิจงานคราฟท์จากสหราชอาณาจักร แบรนด์งานจักสาน PATAPiAN ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจระดับนานาชาติ และสำนักวิจัยและพัฒนามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ลงพื้นที่เพื่ออบรมและทำงานร่วมกันกับชุมชน เน้นไปที่การให้โจทย์ชาวบ้านในการดึงอัตลักษณ์ของชุมชนผสมผสานลงในการออกแบบผลงาน เพื่อสร้างความแตกต่างและจุดขายแบรนด์หัตถกรรมจักสานไทยให้มีชื่อเสียงระดับโลก ผ่านโครงการ “คราฟท์ติ้งฟิวเตอร์” ของบริติช เคานซิล
มร.แอนดรูว์ กลาส
“ทักษะฝีมืองานหัตถกรรมท้องถิ่นของชุมชนต่างๆ ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สามารถต่อยอดเป็นธุรกิจ และเป็นตัวแปรสำคัญในการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งโครงการ คราฟท์ติ้ง ฟิวเตอร์ เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนผู้หญิงที่ทำงานในภาคหัตถกรรม ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และการทำงานร่วมกันระหว่างประเทศไทยและสหราชอาณาจักร สำหรับการทำงานร่วมกับวิสาหกิจชุมชนเพื่อสังคมวานีตาถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่สามารถยกระดับงานหัตถกรรมของชุมชนไปอีกหนึ่งขั้นหัวใจที่สำคัญที่สุดของโปรเจกท์นี้ คือการที่ผลงานใหม่ทั้ง 4 คอลเลคชั่นที่สะท้อนถึงความเป็นตัวตนของ 4 ชุมชนที่เกิดขึ้นมานั้นเป็นผลงานการออกแบบและพัฒนาของชาวบ้านในชุมชนเอง โดยมีนักออกแบบชาวไทยจากแบรนด์ PATAPiAN เป็นเพียงผู้คอยให้คำปรึกษา เพราะเมื่อชาวบ้านเข้าใจการวางแผน ปรับตัว และพัฒนาธุรกิจงานคราฟท์แล้ว จะสามารถเดินหน้าธุรกิจนี้ต่อได้ด้วยตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน”
4 คอลเลคชั่นใหม่ที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของ 4 ชุมชนผู้ผลิตผลงาน มาเล่าเรื่องผ่านสินค้าที่ใช้ได้ในชีวิตประจำวันเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร เครื่องประดับจักสาน และชุดปิกนิกจักสาน ได้อย่างโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ประกอบด้วย คอลเลคชั่นแต่งบ้านสไตล์เรียบหรูด้วยงานจักสานกระจูด ลวดลายดอกพะยอมและเรือกอและ จากชุมชนบ้านโคกพะยอม จ.นราธิวาส เน้นการใช้สีน้ำเงินและน้ำตาลเข้ม แทนสีของน้ำทะเลยามค่ำคืนที่แทรกด้วยแสงไฟหาปลาหมึกจากเรือกอและ ให้ความรู้สึกนิ่ง สงบ ประกอบกับลวดลายบนงานจักสานเป็นลายดอกพะยอมและเรือกอและที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของชุมชนบ้านโคกพะยอม ที่อยู่ติดทะเลและมีต้นพะยอมจำนวนมาก ออกมาเป็นเอกลักษณ์ของคอลเลคชั่นงานจักสานเครื่องใช้ในครัวเรือน ได้แก่ ที่ใส่ช้อน ที่รองจาน ที่รองแก้ว ที่ใส่เครื่องปรุงรส เสื่อปูโต๊ะ ฝาชี แจกัน เบาะนั่งถังขยะมีฝา
คอลเลคชั่นแต่งบ้านลายดอกพะยอม และเรือกอและ
คอลเลคชั่นงานจักสานไม้ไผ่ลายมองยงและยี่หร่า ตกแต่งครัวในสไตล์คันทรี่ จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจักสานไม้ไผ่บ้านทุ่ง อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี สำหรับสายแต่งบ้านแบบที่สนใจเครื่องใช้จักสาน
ในห้องครัว เช่น ที่ใส่ถ้วยแกง ที่ใส่น้ำจิ้ม ถาดใส่ชุดอาหาร ที่รองจาน ที่รองแก้วที่ใส่ขวด ฝาชี เป็นต้น เอกลักษณ์ของคอลเลคชั่นนี้มีการจักสานโดยใช้ลวดลายโบราณ เช่น ลายมองยง ลายยี่หร่า ที่กำลังจะสูญหายไป เนื่องจากลายดังกล่าวเป็นลายจักสานที่ใช้ในการทำแม่พิมพ์น้ำตาลมะพร้าว ไม่เคยถูกสานเป็นผลิตภัณฑ์อย่างอื่นและมีผู้สืบทอดลายนี้เหลือเพียงไม่กี่คนชาวบ้านจึงเกิดแนวคิดที่จะเรียนรู้และนำมาต่อยอดให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการใช้สีจากขมิ้นที่เป็นพืชสมุนไพรที่มีอยู่ในท้องถิ่นเพื่อเป็นอีกหนึ่งความโดดเด่นของผลงาน
คอลเลคชั่นปิกนิก แรงบันดาลใจจากท้องทะเล ก้อนเมฆ ภูเขา บนงานจักสานเตยปาหนันสุดมินิมอล จากกลุ่มปาหนันปูลากาป๊ะ อ.เมือง จ.นราธิวาส อีกหนึ่งคอลเลคชั่นงานจักสานที่ต้องถูกใจคนที่รักงานคราฟท์สไตล์มินิมอล โดยผลิตภัณฑ์ของชุมชนนี้ใช้วัตถุดิบในการจักสานจากเตยปาหนัน ที่ขึ้นอยู่ตามชายฝั่งทะเลในหมู่บ้าน ผสมผสานกับแนวคิดการใช้สีจากธรรมชาติรอบตัว เช่น สีขาว เขียว น้ำเงิน หมายถึงก้อนเมฆ ทราย ภูเขา และทะเล ออกมาผลิตภัณฑ์ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ในคอลเลคชั่นของใช้ในชีวิตประจำวัน และชุดปิกนิกจักสาน อาทิ กระเป๋าหมวก ตะกร้า หมอน เสื่อนอน ที่ใส่ขวดน้ำซองใส่แว่นตา ซองใส่โทรศัพท์ เป็นต้น
คอลเลคชั่นปิกนิกงานจักสานเตยปาหนัน
คอลเลคชั่นเครื่องประดับจักสานสไตล์โบฮีเมียน ลายใบไม้ 3 สี จากชุมชนบ้านดาฮง จ.นราธิวาส เอาใจคนชอบแต่งตัวสไตล์โบฮีเมียน กับการพลิกโฉมงานจักสานย่านลิเภาที่ปกติเราจะรู้จักกันผ่านกระเป๋าย่านลิเภาสุดหรู มาเป็นเครื่องประดับจักสานย่านลิเภารูปแบบทันสมัย ที่ได้รับแรงบันดาลใจการสร้างสรรค์ผลงานมาจากชื่อของหมู่บ้านดาฮง ซึ่งหมายถึง ใบไม้ โดยใช้สีธรรมชาติของย่านลิเภาที่มี 3 สี คือสีน้ำตาลเข้มแทนสีใบไม้แก่จัด สีเหลืองแทนใบไม้ที่แก่พอดี และสีเขียวแทนใบอ่อน ซึ่งเกิดจากการสังเกตพื้นที่บริเวณหมู่บ้านที่มีภูเขา ป่าไม้ ลำธาร และต้นไม้นานาชนิด ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นในคอลเลคชั่นนี้จึงมีส่วนประกอบเป็นใบไม้มีสี 3 สีทุกชิ้น โดยเครื่องประดับในคอลเลคชั่นนี้ประกอบด้วย สร้อยคอ จี้สร้อยคอ ต่างหู กำไล ปิ่นปักผม ที่คาดผม เข็มกลัด ที่หนีบเนคไท เป็นต้น
คอลเลคชั่นเครื่องประดับจักสานสไตล์โบฮีเมียน
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์และสั่งจองสินค้าในรูปแบบพรีออเดอร์ได้ที่ กลุ่มวิสาหกิจเพื่อสังคมวานีตา โทร.086-0546930 หรือ www.wanita.in.th และเฟซบุ๊ค wanitase ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการ “คราฟท์ติ้ง ฟิวเจอร์” ได้ที่ www.britishcouncil.or.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี