วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เสริมความเฮงรับเทศกาลตรุษจีนไปกับอาหารมงคล ซึ่งชาวจีนมีความเชื่อว่า การรับประทานอาหารที่เป็นสิริมงคล จะทำให้มีความมั่งคั่ง ร่ำรวย สุขภาพดี โชคดี ตลอดปี โดย ในงาน “คิง เพาเวอร์ เดอะเบลสซิ่งคัมส์โฮม (KING POWER THE BLESSING COMES HOME)”เนรมิตพื้นที่บริเวณฟาวน์เท่นสแควร์คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ให้เป็นถนนย่านมงคลของ “THE GOLDEN MOUSE VILLAGE” ที่โอบล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมจีน ไฮไลต์ของงาน คือ การรวบรวมร้านอาหารจีนเก่าแก่และชื่อดังที่สุด ร่วม 30 ร้านยอดนิยม มาไว้รวมกัน ในบริเวณ ‘FOOD STREET’ หรือ‘ถนนอิ่มมงคล’ ซึ่งทั้งร้านอาหารร่วม 30 นี้ นับว่าเป็นร้านต้นตำรับอาหารที่โด่งดังหลากหลายรสชาติ ซึ่งตัวอย่างของความอร่อยแบบฉบับต้นตำรับที่นักชิมพลาดไม่ได้ ได้แก่
1.เมนูบะหมี่กรอบราดหน้า จากร้านราดหน้ายอดผักสูตร 40 ปี
ร้านราดหน้าเก่าแก่อันโด่งดังใกล้ศาลเจ้าพ่อเสือ ที่อากงได้สืบทอดสูตรลับมาจากต้นตระกูล เริ่มเปิดบริการแห่งแรกย่านจุฬาฯ จากนั้นได้ย้ายมาเปิดร้านแถวศาลเจ้าพ่อเสื้อในปี 2531 ด้วยเคล็ดลับความอร่อยที่คงที่ โดดเด่นด้วยการคัดสรรวัตถุดิบที่สดใหม่และมีคุณภาพดีหมูหมักสูตรพิเศษชิ้นใหญ่ผัดด้วยกระทะเหล็กที่ให้ความร้อนสูงและทักษะการปรุงที่สั่งสมมายาวนานกว่า 40 ปี
2.เมนูเกี๊ยวอวบลวกต้มแซ่บพริกสด จากร้านก๋วยเตี๋ยวตรอกโรงหมู
ร้านก๋วยเตี๋ยวน้องใหม่ไฟแรงที่เปิดบริการมา 3 ปีตั้งอยู่ในซอยที่มีแต่ของอร่อยคือซอยสุกร 1 ซึ่งเป็นที่มาของชื่อร้านก๋วยเตี๋ยวที่มีชื่อเรียกเก่าว่า“ตรอกโรงหมู”จึงเป็นที่มาของร้านก๋วยเตี๋ยว ซึ่งร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำที่เคยกินในสมัยเด็กที่มีความหอมของถั่วคั่วน้ำมันกระเทียมเจียวกากหมูและที่สำคัญคือความหอมของมะนาวสดแท้ โดยทางร้านได้พิถีพิถันในการเลือกวัตถุดิบที่ดีและสดใหม่ทุกวันเมนูเด็ดคือเกี๊ยวหมูอวบใหญ่ ไส้แน่นสั่งเป็นต้มยำ จะลวกหรือทอดก็คงความอร่อยทั้งสองแบบ
3.เมนูเนื้อไออาต้าและบะหมี่ จากร้านไออาตา
ภัตตาคารจีนสไตล์กวางตุ้ง ที่เปิดบริการกว่า 35 ปี ตั้งแต่ปี 2509ภายใต้ชื่อ “ภัตตาคารไออาต้า” และ “ภัตตาคารพาต้า” โดยภัตตาคารทั้ง 2 แห่งนี้ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และถูกกล่าวขานว่า เป็นหนึ่งในร้านอาหารจีนระดับตำนานของกรุงเทพฯ ซึ่งชื่อร้าน "ไออาต้า" มีความหมายฟ้องเสียงกับคำว่า "ไอ้เล่อต้าต้าชังทิง" ในภาษาจีนกลางซึ่งมีความหมายว่า ความรักและความสุขอันยิ่งใหญ่ เดิมเปิดบริการที่สยามสแควร์ จากนั้นย้ายมาเปิดที่ถนนเพชรบุรีเป็นเวลา 20 ปี และในปัจจุบัน ย้ายมาเปิดที่ถนนอ่อนนุช ถึงแม้จะเปิดบริการมายาวนานกว่า 35 ปี แต่ยังคุณภาพไว้ได้อย่างดีเยี่ยม
4. เมนูข้าวหน้าเนื้อ จากร้าน26ยี่ สับ หลก
ร้านดังที่เป็นมรดกตกทอดจากร้านก๋วยเตี๋ยวนายโส่ยเนื้อตุ๋น ถนนพระอาทิตย์ ที่มีประวัติยาวนานกว่า 40 ปี ส่งต่อสู่ทายาทรุ่นที่ 2 และพัฒนาสู่การระดับความอร่อยด้วยเนื้อวัวพรีเมียมและเมนูที่หลากหลายยิ่งขึ้น แต่ยังคงสูตรลับความอร่อยในการปรุงเนื้อและน้ำซุปมาตั้งแต่รุ่นพ่อ โดยชื่อร้าน “ยี่สับหลก”หากออกเสียงตามภาษาจีนกวางตุ้ง แปลว่า “ยี่สิบหก”หรือถ้าแปลตามตัวอักษรในภาษากวางตุ้งคํานี้จะแปลว่า“หุงต้ม ง่าย”นั่นเอง
5. เมนูหมูสะเต๊ะ จากร้านหมูสะเต๊ะนายสง่า
จากร้านก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำสูตรโบราณนายสง่าได้เปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 2546 ในช่วงแรกทางร้านได้จำหน่ายเพียงก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำสูตรโบราณเท่านั้นในเวลาต่อมา ได้เริ่มจำหน่ายหมูสะเต๊ะเพื่อให้ลูกค้าได้ชิมขณะนั่งรอคิวก๋วยเตี๊ยว โดยร้านได้พิถีพิถันในการพัฒนาสูตรจนลงตัว ด้วยกรรมวิธีหมักหมูและปรุงน้ำจิ้มด้วยสูตรโบราณใช้หมูส่วนที่นิ่มไม่ติดมันปิ้งหมูด้วยเตาถ่านที่สะอาดเพื่อความหอมอร่อยและถูกหลักอนามัยจนถึงปัจจุบันได้ขายมาแล้วเป็นเวลากว่า 8 ปีทำให้หมูสะเต๊ะของร้านได้รับความเชื่อถือในเรื่องรสชาติความอร่อยและคุณภาพของวัตถุดิบที่ดี
6.เมนูกระเพาะปลา จากร้านย้งกระเพาะปลา
ย้งกระเพาะปลา เริ่มขายมาตั้งแต่ปี 2500 ที่สืบทอดมาจากรุ่นพ่อ เมื่อในอดีตคุณพ่อได้เริ่มขายด้วยการหาบเตาทองเหลือง เดินขายแถวตรอกถั่วงอกไปจนถึงแถววัดมังกร ย่านถนนเยาวราช ต่อมาได้มาเปิดร้านขายในตลาดละลายทรัพย์ โดดเด่นด้วยการใช้กระเพาะปลาแท้ชิ้นโต รสชาติกลมกล่อมจนถูกกล่าวขานว่าเป็นร้านกระเพาะปลาที่มีราคาย่อมเยา แต่รสชาติอร่อยระดับภัตตาคาร
7.เมนูขนมเบื้อง จากร้านขนมเบื้องหวานผึ้งน้อย
ขนมเบื้องเจ้าดังในย่านโชคชัย 4 ที่มีลูกค้าต่อคิวแน่นอย่างเนืองแน่น ด้วยไส้ขนมที่แน่นแตกต่างจากขนมเบื้องทั่วไป จึงได้รับความนิยมทั้งไส้หวานและไส้เค็ม โดยเป็นธุรกิจที่สืบทอดมาจากรุ่นพ่อแม่ เริ่มขายมาตั้งแต่ปี 2524 ที่ออกขายตามตลาดนัดทั่วไปแถวย่านลาดพร้าว เคล็ดลับความอร่อยของขนมเบื้องที่ร้านอยู่ที่ส่วนประกอบที่ทำเองทั้งหมด ตั้งแต่ไส้หวานที่ใช้ฝอยทองทำเอง ไส้เค็มนำมะพร้าวมาผสมกับไข่ ครีมและแป้งที่ใช้ทำขนมเบื้อง ทุกอย่างล้วนทำเองทั้งหมดโดยมะพร้าวที่มีความหอมหวาน กลมกล่อม คัดสรรมาจากอัมพวาและแปดริ้ว
8.เมนูเผือกหิมะ จากร้าน เจ๊นี เผือกหิมะ
ร้านเผือกทอดแถวศาลเจ้าพ่อเสือ ที่ใครไปย่านนั้นจะต้องแวะซื้อมาชิมกับเผือกชิ้นหนาทอดจนกรอบ และคลุกน้ำตาลที่ผ่านการเคี่ยวจนได้ที่ ยืดหยัดความอร่อยมายาวนานร่วม 20 ปี โดยการใช้เผือกสดทอดในน้ำมันใหม่ที่อุณหภูมิร้อนพอเหมาะ และเพิ่มกลิ่นหอมด้วยใบเตย นอกจากเผือกหิมะแล้ว ยังมีเผือกทอดกรอบ ซึ่งมีด้วยกัน 3 รสชาติ ได้แก่ เผือกกรอบรสเค็ม เผือกกรอบรสหวานต้นหอม เผือกกรอบรสหวานงา และ ครองแครงสูตรโบราณแบบกรอบนิ่ม
นอกจาก 8 เมนูตัวอย่างในร้านอาหารร่วม 30 ถนนอิ่มมงคล ในงาน‘คิง เพาเวอร์ เดอะเบลสซิ่งคัมส์โฮม’ แล้ว ช่วงตรุษจีนนี้ บริเวณชั้น 3 Thai Taste Hub ยังมีความอร่อยของเมนูจากร้านสตรีทฟู๊ดชื่อดัง ได้แก่ ผัดหมี่สไตส์ฮ่อง, เผือกลาวา จากร้านเชียงกรีล่า, จุ๋ยก้วยเจ้าแรกในไทย จากร้านหลี่ชิมเฮีย และข้าวผัดผงกระหรี่ปูไข่เค็ม จากร้านสยาม วิสดอม
ร่วมอิ่มอร่อยรับมงคลไปกับ 8 เมนู จากร้านดังร่วม 30 ร้าน พร้อมดกิจกรรมมงคลอีกมากมาย ในงาน ‘คิง เพาเวอร์ เดอะเบลสซิ่งคัมส์โฮม’ ระหว่างวันที่ 23 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ นี้ ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี