โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ร่วมกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดงานเสวนาวิชาการ“Disease X : ปฐมบทไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ณ อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
งานเสวนาวิชาการ “Disease X :ปฐมบทไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019ครั้งนี้มีผู้ร่วมเสวนา ประกอบด้วยศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย พร้อมด้วย นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ดร.สุภาภรณ์ วัชรพฤษาดี ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยผศ.นพ.โอภาส พุทธเจริญ หัวหน้าศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และน.สพ.ภัทรพล มณีอ่อน สัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 และรู้เกี่ยวกับสถานการณ์โรคในปัจจุบัน รวมถึงแนวทางการป้องกันดูแลตนเองและครอบครัวได้อย่างถูกต้อง เพื่อนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมป้องกันและควบคุมโรคอุบัติใหม่ต่อไปในอนาคต โดยมี ศ.นพ.รื่นเริง ลีลานุกรม รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ฝ่ายบริการเป็นผู้กล่าวรายงาน
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ เป็นที่ยอมรับแล้วว่าหายนะที่จะเกิดขึ้นกับมนุษย์ มีส่วนหรือความเป็นไปได้ที่จะเกิดจากเชื้อโรคโดยเฉพาะไวรัสที่ส่งผ่านมาจากสัตว์โดยตรงสู่คนหรือมีตัวกลาง จากแมลง ยุง เห็บ ไร ริ้น
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
ทั้งนี้ เมื่อกว่า 20 ปี ที่แล้ว เริ่มเป็นที่รับทราบว่า ไม่ต่ำกว่า 60-70% ของเชื้อก่อโรคในคนมีต้นตอจากสัตว์ทั้งสิ้น และมีศักยภาพ ในการทำให้เกิดโรคอุบัติใหม่ ที่จะสร้างผลกระทบใวงกว้าง ทั้งจากการเกิดโรคระบาดและในการกระทบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากไวรัสRNA ที่สามารถผันแปรรหัสพันธุกรรม ซึ่งเอื้อต่อการตั้งตัวในสัตว์ต่างชนิด จากตระกูลแรกและเป็นหนทางสู่คนในที่สุด
และสำหรับ โรคทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ปี 2019เกิดจากไวรัสในกลุ่มโคโรนา ไวรัสกลุ่มนี้สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจในคนและสัตว์บางชนิดโดยในคนจะมีการระบาดเป็นช่วงๆ ของปีมักจะระบาดในหน้าหนาว อาจจะพบว่า1 ใน 3 ของการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจมาจากเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ในคน (human coronavirus) ในช่วงที่ไม่มีการระบาดพบการติดเชื้อนี้ได้ประมาณ 10% ของผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ ผู้ที่มีอาการรุนแรงมักเป็นผู้สูงอายุ และหรือผู้ที่มีโรคประจำตัวอาการคล้ายกับโรคหวัด ไม่รุนแรงหายได้เอง ติดต่อผ่านทางสารคัดหลั่งทางเดินหายใจ การไอ จาม การสัมผัสสารคัดหลั่งของทางเดินหายใจ สามารถติดเชื้อซ้ำได้ เพราะภูมิคุ้มกันของร่างกายจะเกิดขึ้นชั่วคราว สำหรับไวรัสโคโรนา ที่เป็นสายพันธุ์ที่อยู่ในสัตว์นั้น อาจมีการติดต่อจากสัตว์ไปยังคนได้บ้าง เช่น การระบาดไวรัสโคโรนา ที่เรียกว่าโรคซาร์ส หรือเมอร์ส มีการสันนิษฐานว่าคนน่าจะติดเชื้อไวรัสดังกล่าว จากสัตว์ที่เป็นรังโรคของเชื้อนี้
การติดต่อของโรคเกิดขึ้นในวงจำกัดยังไม่ระบาดรุนแรงเหมือนโรคซาร์ส การป้องกันการติดเชื้อทำได้ โดยหลีกเลี่ยงไปสัมผัสบุคคลที่มีความเสี่ยง ล้างมือทำความสะอาด และใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันในกรณีที่อยู่ใกล้ผู้ป่วย และผู้ที่มีความเสี่ยง นอกจากนี้ควรป้องกันตนเองหากไปในสถานที่ที่มีความเสี่ยง เช่น เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน หรือประเทศที่กำลังมีการระบาด ตลาดที่ค้าสัตว์ป่า สัตว์มีชีวิต สัตว์ป่วย และซากสัตว์ หรือโรงพยาบาล โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ ควรมีความระมัดระวัง และป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งให้ติดตามข้อมูลทางระบาดวิทยา และข้อมูลทางคลินิกของผู้ป่วยของโรคนี้จากประเทศจีนหรือประเทศที่มีการรายงานต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี