การส่งเสริมท่องเที่ยวของประเทศไทยได้รับการยอมรับและยกย่องจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว เมียนมา กัมพูชา เวียดนามว่าเป็นต้นแบบของความสำเร็จ แต่ในส่วนของ ททท. เองนั้นเราตระหนักเสมอมาว่า การท่องเที่ยวที่จะช่วยพัฒนาบ้านเราและพัฒนาประเทศเพื่อนบ้านไปพร้อมๆ กันนั้นคือสิ่งสำคัญเหนืออื่นใด ดังนั้น ททท. จึงพยายามส่งเสริมให้การท่องเที่ยวไทยเติบโตควบคู่ไปพร้อมๆ กับการท่องเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะการท่องเที่ยวแบบนี้จะช่วยเสริมสร้างทั้งเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้แน่นแฟ้นยั่งยืน เพราะทั้งเราและเขาต่างต้องพึ่งพาอาศัยกัน แล้วถ้ายิ่งเรามีความพร้อมมากกว่าเขา เรายิ่งต้องแบ่งปันให้กับเขา
แนวหน้าวาไรตี้สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย จะพาคุณไปสนทนากับ คุณธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้านสื่อสารการตลาด เพื่อจะทำให้คุณได้เห็นชัดว่า ททท. คำนึงถึงผลประโยชน์ร่วมกันอันเกิดจากการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับเพื่อนบ้าน และจะพาคุณไปเที่ยวงานนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ 2563 ที่จังหวัดสระแก้ว ซึ่งนับเป็นงานเล็กๆ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยมิตรภาพระหว่างคนไทยกับชาวกัมพูชา
l งาน Countdown นับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ 2563 ที่ ททท. เลือกไปจัดที่สระแก้ว มีเหตุผลอะไรครับ
ก่อนอื่นต้องเรียนว่านี้นับเป็นครั้งแรกที่ ททท. จัดงานเพื่อฉลองปีใหม่ที่จังหวัดเล็กๆ ซึ่งคือเมืองรอง โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในจังหวัดที่เราเรียกว่าเมืองรอง แต่เป็นเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจรอรับนักท่องเที่ยวอยู่ ส่วนอีกประเด็นก็คือการจัดงานCountdown ที่อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว นั้น ก็เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวสระแก้ว ชาวไทยจากจังหวัดอื่นๆ และพี่น้องชาวกัมพูชาได้หันมาให้ความสำคัญกับจังหวัดสระแก้วในฐานะเมืองท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจจะเห็นได้ว่างานนี้มีนักท่องเที่ยวกัมพูชาเป็นจำนวนมากมาร่วมงาน เมื่อพี่น้องกัมพูชามาเที่ยวบ้านเรา เขาก็ต้องจับจ่ายใช้สอย ต้องกินอาหาร ต้องซื้อของและต้องพักค้างคืนในฝั่งบ้านเรา นี่คือการกระตุ้นเศรษฐกิจในบ้านเราไปในตัว ชาวกัมพูชาที่เข้ามาชมงานบอกกับเจ้าหน้าที่ของ ททท. ว่างานนี้มีความน่าสนใจ และเป็นงานที่ทำให้พวกเขาสนุกสนาน และอยากให้เราจัดงานทำนองนี้บ่อยๆ และเท่าที่ผมได้รับทราบรายงานจากผู้ประกอบการโรงแรมในย่านนี้ต่างบอกว่าโรงแรมเต็มหรือเกือบเต็มในช่วงนี้ เพราะมีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวกัมพูชาเข้ามาพักกันมากมาย นี่คือการตอบโจทย์ด้านการเศรษฐกิจได้อย่างชัดเจน ส่วนประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชนก็ดีขึ้น เพราะชาวกัมพูชาต่างบอกว่าขอบคุณที่ไทยจัดงานรื่นเริงใหญ่โตเช่นนี้ เพราะงานขนาดนี้หาได้ไม่ง่ายนักในฝั่งของบ้านเขาสำหรับ concept การจัดงานเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาคตะวันออกโดย ททท. นั้น เราใช้แนวคิดหลักคือ More Fun เพราะ ททท. เห็นว่าภาคตะวันออกมีสิ่งน่าสนใจมากมาย สามารถจัดกิจกรรมได้เกือบทั้งปีโดยไล่มาตั้งแต่จังหวัดนครนายก สระแก้ว ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ภูมิภาคนี้มีทั้งแหล่งผลไม้ แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ และโบราณสถาน รวมถึงกิจกรรมด้านการกีฬาสารพัดรูปแบบ
l ผมสังเกตเห็นแนวคิดสำคัญของการจัดงาน Countdownครั้งนี้อีกอย่างคือ พยายามให้ทุกคนตระหนักถึงการไม่สร้างขยะ
ใช่ครับ งาน Countdown ที่สระแก้วในปีนี้ เราเน้นให้ทุกคนไม่สร้างขยะเพิ่ม ไม่ทิ้งขยะให้กลาดเกลื่อน เราจึงใช้หลักการ ขยะแลกทองเพื่อให้ผู้ไปร่วมงานมีจิตสำนึกรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่สร้างขยะ และช่วยกันกำจัดขยะ เนื่องจากมีปัญหาให้พบเห็นเสมอๆ คือ หลังจากงานจบไปแล้วมักจะมีขยะทิ้งเต็มไปหมด แต่สำหรับที่นี่เราจะพยายามทำให้ขยะเป็นศูนย์เพราะนี่คือแนวคิดสำคัญของ ททท. ที่เราเน้นหนักมาโดยตลอด คือเมื่อเที่ยวแล้ว ก็ต้องร่วมกันรักษาสภาพแวดล้อมให้งดงาม ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และไม่ทิ้งขยะในสถานที่ที่เราไปเที่ยว
l ททท. จัดงาน Countdown ในจังหวัดรองในปีนี้กี่แห่งครับ
7 แห่งครับ คือ เชียงราย กาฬสินธุ์ ลพบุรี ราชบุรี สระแก้วพัทลุง ส่วนที่กรุงเทพฯ ไม่ใช่เมืองรอง แต่เป็นเมืองที่เราจัดงาน Countdown เป็นประจำทุกปี เนื่องจากเป็นเมืองหลวงของไทย และเป็นที่ที่มีผู้ไปร่วมงานมากที่สุด และต่างชาติก็ให้ความสนใจกับ Countdown ที่กรุงเทพฯอย่างมากเช่นกัน
l การจัดงานใหญ่เช่นนี้ในเมืองรอง ททท. คาดหวังอะไรครับแต่เท่าที่ผมคุยกับผู้ค้าขาย เขาบอกว่าเขาขายดีกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด
ททท. มุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์เมืองรองเป็นอันดับแรก เพราะต้องการกระจายนักท่องเที่ยวไปตามเมืองรองที่น่าสนใจ และเมื่อมีการจัดงาน event ใหญ่เช่นนี้ก็เป็นธรรมดาที่จะมีผู้คนให้ความสนใจมากขึ้น ทำให้การค้าขาย และเศรษฐกิจในจังหวัดกระเตื้องมากขึ้น เศรษฐกิจดีขึ้น เพราะคนที่ไปเที่ยวต้องกิน ต้องใช้ และต้องพักตามโรงแรม ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งของการจัดงานที่สระแก้วก็เพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ ที่อยู่ในบริเวณนี้ เช่น ชาวญ้อ เวียดนาม จีน ลาว กัมพูชา และไทย ดังนั้นจะเห็นว่าในงานจะมีการใช้ภาษาไทยและกัมพูชา และมีการแสดงของกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย และมีอาหารและสินค้าของกลุ่มชาติพันธุ์ด้วย นี่คือเสน่ห์ของชาวอุษาคเนย์ และนี่คือ local experience ที่ชัดเจนมากสำหรับนักท่องเที่ยว
l ท่านรองฯ มีตัวเลขเศรษฐกิจในใจสำหรับงานนี้ไหมครับ
สระแก้วเป็นเมืองรอง ดังนั้น ในปีหนึ่งๆ จะมีนักท่องเที่ยวไปเยือนประมาณ 2.2 ล้านคน โดยร้อยละ 80 เป็นคนไทย ส่วนที่เหลือเป็นชาวต่างประเทศ ส่วนใหญ่ก็คือชาวกัมพูชา รายได้จากการท่องเที่ยวของที่สระแก้วประมาณปีละ 6 พันล้านบาทเศษๆ ผมคิดว่าตัวเลขนี้ไม่ขี้เหร่มากนัก และที่สำคัญคือเราเห็นโอกาสที่เมืองรองแห่งนี้จะเติบโตต่อไปในอนาคต และในปีหน้านี้ ททท. มีนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเมืองรองมากยิ่งขึ้น สำหรับที่สระแก้วนี้เป็นจุดที่สามารถข้ามพรมแดนไปกัมพูชาได้สะดวก ดังจะเห็นว่าล่าสุดสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชาสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว รอเพียงแค่การเปิดใช้อย่างเป็นทางการ เมื่อเปิดใช้แล้วผมมั่นใจว่าจะทำให้การเดินทางไปมาหาสู่กันและกันเพิ่มมากขึ้น และจะส่งผลให้ตัวเลขเศรษฐกิจระหว่างไทยกับกัมพูชาดีมากกว่าเดิม
l ผมเคยถามพี่น้องกัมพูชาว่า เมื่อเขามาเมืองไทย เขาสนใจซื้อสินค้าอะไรจากบ้านเราบ้าง และไปเที่ยวที่ไหนบ้าง เขาตอบว่าชอบไปเที่ยวทะเล และชอบเข้าไปเที่ยวเมืองใหญ่ๆ ของไทย แล้วก็ชอบซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคของไทยทุกชนิด เพราะคุณภาพดี คำตอบเช่นนี้สะท้อนอะไรบ้างครับท่านรองฯ
ถูกต้อง และเป็นความจริงครับอาจารย์ พี่น้องลาว กัมพูชา และเมียนมา ที่เข้ามาไทยตามแนวชายแดนนั้น เมื่อเขาข้ามมาแล้ว เขาไม่ได้อยู่
เฉพาะบริเวณจังหวัดชายแดนเท่านั้น เพราะเขาเข้าไปเที่ยวกรุงเทพฯไปพัทยา ไปวัดพระแก้ว และไปซื้อของ และเที่ยวเตร่ตามสถานที่ต่างๆในบ้านเรา หลายรายขับรถยนต์เข้ามาเอง แล้วเที่ยวเป็นเวลาหลายวัน ซื้อข้าวของกันอย่างสนุกสนาน นี่คือสิ่งที่เราได้ประโยชน์จากการค้าขายและการท่องเที่ยวที่ชัดเจนที่สุด และได้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนบ้านอย่างดีด้วยครับ ดังนั้น ททท. จึงพยายามส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดชายแดนอย่างจริงจัง ส่วนที่สระแก้วนั้น ผมคาดการณ์ว่าในปีหน้านี้น่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกสักประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็จะต้องสร้างกิจกรรมกระตุ้นให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้นด้วย
l ส่วนตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในไทยในช่วงก่อนปีใหม่จนถึงช่วงสัปดาห์แรกของปีใหม่ ททท. มีตัวเลขคร่าวๆ ไหมครับและการจัดงาน Countdown จะช่วยเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวสักมากน้อยเพียงใดครับ
ททท. มีตัวเลขนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2562 คือประมาณ 38 ล้านคน โดยวันที่ 20 ธันวาคม เรามีการฉลองให้กับนักท่องเที่ยวคนที่ 38 ล้าน ซึ่งเป็นชาวอินเดีย แล้วในวันที่ 27 ธันวาคม เราก็ต้อนรับนักท่องเที่ยวคนที่ 39 ล้าน จากรัสเซีย เพราะฉะนั้นในช่วง 28 ธันวาคม ถึง 31 ธันวาคม ททท. คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาอีก 7 แสนกว่าคน เฉลี่ยต่อวันคือมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาบ้านเราวันละ 1.3 แสนคน แต่บางวันก็มีมากเกือบ 2 แสนคน แล้วเมื่อเราประมาณการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่อวันต่อคนคือ 1.2 หมื่นบาท ก็น่าจะทำให้ประเทศมีรายได้มากขึ้น แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ ททท. ยังมองไปถึงบรรยากาศของการท่องเที่ยวที่ทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจ มากกว่าคำนึงถึงรายได้เพียงอย่างเดียว ยิ่งในช่วงที่บรรยากาศของเศรษฐกิจไม่ค่อยดีเช่นทุกวันนี้ ททท. ยิ่งต้องพยายามกระตุ้นให้คนเข้ามาเที่ยวในบ้านเราโดยทำให้เขาเห็นว่าการเที่ยวในไทยคุ้มค่าและได้ประโยชน์สำหรับเขามากที่สุดเมื่อเทียบกับไปเที่ยวในประเทศอื่นๆ และในปีหน้านี้ ททท. จะเน้นการจัด event marketing โดยจะมุ่งในเชิงศิลปวัฒนธรรม ขนบประเพณีของไทย รวมถึงด้านอาหารการกินด้วย และจัดควบคู่ไปกับด้านการกีฬา หรือ sport tourism แต่ทุกกิจกรรมที่ ททท. ทำก็ต้องให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ปีหน้าเป็นปีที่ ททท. มีอายุครบ 60 ปีซึ่ง ททท. ตระหนักดีว่าการที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยเติบโตมากอย่างเห็นได้ชัดภายในระยะเวลา 60 ปี เป็นเพราะความร่วมมือร่วมใจของคนไทยทุกภาคส่วน ทั้งราชการและเอกชน ผมจำได้ว่าในปีก่อตั้ง ททท. คือ 2503 วันนั้นมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยเพียง 8 หมื่นคน แต่ในปี 2563 เราจะมีนักท่องเที่ยวถึงเกือบ 41 ล้านคน นี่คือความสำเร็จของทุกภาคส่วนในเมืองไทยที่ร่วมมือกับ ททท. เราได้รับความร่วมมือที่ดีจากสายการบินหลายสาย และจากบริษัทนำเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ แล้วที่สำคัญคือนักท่องเที่ยวต่างชาติเชื่อมั่นว่าการเที่ยวในประเทศไทยนั้นทำให้เขาได้รับความคุ้มค่าและประทับใจ เนื่องจากเมืองไทยมีจุดขายด้านการท่องเที่ยวที่ดีมาก เพราะฉะนั้นในปีหน้า คือปี 2563 ททท. จะจัดงานใหญ่คือ 60’s Anniversaries Amazing Thailand Grand Invitation เพื่อขอบคุณผู้มีน้ำใจต่อประเทศไทย และจะเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวที่เคยมาบ้านเราแล้ว กลับมาเยือนเราอีก โดยเราจะจัดเตรียมความประทับใจไว้ให้พวกเขาทุกคน
l ผมเคยคุยกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เขาประทับใจเมืองไทย เขาบอกว่า เขาชอบทะเลไทย ชอบอาหารไทย และชอบวัดวาอารามในไทย และเขาจะกลับมาอีกอย่างแน่นอน ท่านรองฯมองคำพูดของนักท่องเที่ยวที่บอกผมอย่างไรครับ
เราในนามของ ททท. พยายามเฝ้ามองการเดินทางเข้ามาเยือนไทยของนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด ต้องพยายามทำให้เขารู้สึกเสมอว่าการเข้ามาเที่ยวไทยแล้วทำให้เขาได้ประสบการณ์ดีๆ มีความคุ้มค่าในการมาเยือน และเราก็คิดเสมอว่า เมื่อมีนักท่องเที่ยวกลุ่ม repeater มากๆก็จะต้องหาแหล่งท่องเที่ยวที่ดีไว้รองรับพวกเขา ต้องทำแหล่งท่องเที่ยวให้ดี น่าเที่ยว และต้องไม่ลืมว่าการมีนักท่องเที่ยวกลุ่มที่มาซ้ำเข้ามาเที่ยวบ้านเรา เขาจะรู้การมาการไปมากกว่าการเข้ามาเที่ยวครั้งแรก แล้วเขาก็จะประหยัดการใช้จ่ายมากกว่าเดิม เขาอาจไปเที่ยวเอง โดยไม่ซื้อทัวร์ เพราะเขาไปเองเป็นแล้ว และต้องการประหยัดเงิน ซึ่งเราไม่ว่ากันในเรื่องนี้แต่สิ่งที่เราต้องทำให้ดีที่สุดคือ ต้องให้เขารู้สึกคุ้มค่ากับการมาเที่ยวบ้านเราและเห็นว่าเมืองไทยคุ้มค่าสำหรับการเดินทางของเขา ส่วนนักท่องเที่ยวแบบ first visit ก็ยังเป็นกลุ่มที่ ททท. ต้องให้ความสำคัญมากเช่นเดิมเราต้องหาตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ ตลอดเวลา ส่วนแหล่งท่องเที่ยวในบ้านเราก็ต้องมีความน่าสนใจ บางทีอาจเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเดิม แต่ต้องมีความน่าสนใจสำหรับเขา เหมือนตัวอย่างคนไทยไปเที่ยวอังกฤษก็ไม่ได้ไปเฉพาะในกรุงลอนดอนเท่านั้น แต่จะไปเมืองอื่นๆ เช่น สกอตแลนด์ไปดับลินที่ไอร์แลนด์ หรือไม่เมืองอื่นๆ ในอังกฤษ เช่น แมนเชสเตอร์บาธ เบอร์มิงแฮม เป็นต้น ในอังกฤษในยูเครน มันอาจจะไม่ใช่แค่ลอนดอนมันอาจจะหมายถึงสกอตแลนด์ ไปแมนเชสเตอร์ ไปเบอร์มิ่งแฮม คือไปเจาะพื้นที่ใหม่ๆ ซึ่งไทยก็ต้องทำเช่นกัน ต้องมีที่ใหม่ๆ ให้เขาไปสัมผัส
l ผมย้อนกลับไปที่ ดร.สุรินทร์พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน เคยบอกไว้คือ ไทยในฐานะพี่ใหญ่ด้านการท่องเที่ยวในอาเซียน ไทยควรจะให้การช่วยเหลือประเทศอื่นๆ ในอาเซียนที่ยังเป็นรองเราท่านรองฯ ก็ได้คุยกับอาจารย์สุรินทร์ในประเด็นนี้ ท่านรองฯ จะดำเนินการต่อไปอย่างไรครับ
ผมยังจำบทสนทนาของผมกับท่านอาจารย์สุรินทร์สั้นๆ ก่อนที่ผมจะไม่ได้เจอท่านอีกเลย ที่สนามบิน ผมเจอท่านโดยบังเอิญ ท่านถามว่า ททท.จะไปไหน ผมเรียนว่าผมกำลังจะไปงาน ITB ที่กรุงเบอร์ลิน เยอรมนี และททท. จะเปิดกิจกรรมพิเศษคือ ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวกับประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยเราจะเปิดเวทีของเราให้เพื่อนบ้านอาเซียนไปร่วมนำเสนอสาระสำคัญของการท่องเที่ยวของเขาให้ชาวโลกได้รับรู้ เพราะเราจัดเวทีนี้มาโดยตลอด ส่วนเพื่อนบ้านอาเซียนหลายประเทศยังไม่เคยมีประสบการณ์ตรงนี้ เมื่ออาจารย์สุรินทร์ได้ทราบท่านบอกผมว่า ทำไปเถอะ ขอให้ ททท. ทำต่อไปเถอะ เพราะนี้คือสิ่งที่จะช่วยให้อาเซียนได้ประโยชน์ ไทยก็ได้ประโยชน์ แล้วไทยก็จะได้ความรู้สึกดีๆ จากเพื่อนบ้านด้วย แล้วสุดท้ายผลบวกจะกลับมาที่ประเทศไทย ผมจำคำนี้ได้ดี และพยายามทำตามที่อาจารย์สุรินทร์บอกเสมอๆ นี่คือการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยรวม เราต้องแบ่งปันกันเราจะทำธุรกิจแบบเดิมๆ ไม่ได้อีกแล้ว เราต้องช่วยกัน และต้องแลกเปลี่ยนกันเขามาเยือนเรา เราไปเยือนเขา และสนับสนุนให้ต่างชาติไปเที่ยวเมืองของเขาด้วยหลังจากต่างชาติมาเที่ยวบ้านเราแล้ว
l ผมเชื่อว่าจริงๆ แล้วฝรั่งหลายคนที่มาเที่ยวบ้านเรา เขาก็อยากไปดูนครวัด นครธม หรือไปหลวงพระบาง ไปมัณฑะเลย์ หรือที่อื่นๆ ดังนั้นเมื่อเขามาบ้านเราแล้ว เขาก็อยากไปเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้านของเราบ้าง เราก็ช่วยเหลือเพื่อนบ้านของเราได้ ใช่ไหมครับเพราะบ้านเรามีสนามบินที่สะดวกกว่า และจากบ้านเราก็สามารถเดินทางเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้สะดวก
ใช่ครับ เห็นด้วยครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ ททท.พยายามกระทำ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ททท. มีงาน ATF ซึ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวในกลุ่มอาเซียน เราจัดทุกปี และในต้นปีหน้า เราก็จัดงานนี้อีก งานนี้เป็นเวทีสำคัญที่จะทำให้กลุ่มประเทศในอาเซียนมาพูดจาหารือพบปะกัน และนำสินค้าด้านการท่องเที่ยวและบริการมาแลกเปลี่ยนกัน มีการประชุมของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงท่องเที่ยวในแต่ละประเทศ เพื่อหาจุดลงตัวที่ทำให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน และแน่นอนที่สุด จะมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวของอาเซียนให้นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบธุรกิจด้านการท่องเที่ยวได้รับทราบข้อมูลเชิงลึกด้วย คือ เหมือนอย่างที่อาจารย์เฉลิมชัยได้พูดเมื่อสักครู่ว่านักท่องเที่ยวต่างชาตินั้น เขาไม่ได้มาประเทศไทยประเทศเดียว แต่เขาจะผนวกแหล่งท่องเที่ยวในเพื่อนบ้านไว้ในทริปของเขาด้วย
l ผมเห็นบ้านเราเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวจริง แต่นักท่องเที่ยวก็อยากจะไปเที่ยวเมียนมา ไปลาว ไปกัมพูชา ผมเคยคุยกับคนพม่า เขาบอกว่าอิจฉาบ้านเรา ททท. ทำงานเก่ง ผมคุยกับคนเวียดนาม เขาบอกว่าเขาอิจฉา ททท. เพราะทำงานเก่ง แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็บอกว่าบ้านคุณก็มีอะไรดีๆ ที่นักท่องเที่ยวไทยก็อยากไปนักท่องเที่ยวตะวันตกก็อยากไป ดังนั้นเรามาร่วมมือกันดีไหม ผมเชื่อว่าตอนนี้ ททท. ก็ต้องทำงานหนักมากขึ้นนอกจากงานในบ้านเราแล้วยังต้องเชื่อมความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านด้วย ท่านรองฯ มีอะไรเล่าให้ฟังบ้างครับ
ผมคิดว่าปัจจัยแห่งความสำเร็จของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยในรอบ 60 ปีที่ผ่านมานี้ หลายประเทศถามอยู่เสมอว่า ทำไม Amazing Thailand ประสบความสำเร็จ ผมบอกว่าเพราะเราเรียนรู้มา บางครั้งเราเจ็บปวด แต่เราก็พร้อมที่จะลุกขึ้นมาสู้ใหม่ แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ประเทศไทยโชคดีที่ได้รับความร่วมไม้ร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเด่นชัดมาก ในยามที่เราเจอเหตุการณ์ร้ายๆ ภาคเอกชนจะลงขันช่วยกันเรียกความมั่นใจกลับคืนมา ในยามที่เศรษฐกิจซบเซาภาครัฐบาลก็พร้อมออกมาตรการช่วยเหลือในทุกด้าน เช่นภาษี และเรื่องวีซ่า เพื่อกระตุ้นความต้องการของนักท่องเที่ยวให้กลับมาเที่ยวบ้านเราผมว่านี่คือสิ่งที่เป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยในรอบ 60 ปีครับ และมีประเด็นสำคัญอีกเรื่องคือ ททท. จะให้ความสำคัญกับการใส่ใจรักษาสิ่งแวดล้อมให้หนักกว่าที่ผ่านๆ มา ททท.จะต้องทำให้โลกเห็นว่าไทยเอาจริงเอาจังกับการรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะสิ่งแวดล้อมสำคัญกับโลกของเรา ททท. จึงต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และต้องทำให้โลกรู้ว่าไทยให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อมมากกว่าการมีรายได้จากการท่องเที่ยวที่ทำลายสิ่งแวดล้อม
คุณสามารถพบรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความบันเทิง รายการ แนวหน้าวาไรตี้ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา16.00-16.25 น. ทางโทรทัศน์ TNN2 ช่อง 784 ดิจิทัลทีวี หรือ True Visions 8 และชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTube ผู้หญิงแนวหน้า by คุณแหน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี