วันอาทิตย์ ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
รักษาและป้องกันไมเกรนยุคใหม่ ด้วยยาต้านสาร CGRP

รักษาและป้องกันไมเกรนยุคใหม่ ด้วยยาต้านสาร CGRP

วันอังคาร ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
Tag : ไมเกรน
  •  

อาการปวดศีรษะไมเกรน เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินชื่อนี้ หรือบางคนอาจจะเป็นโรคนี้อยู่ก็ได้ ไมเกรน ถือเป็นโรคทางระบบประสาทชนิดเรื้อรัง พบได้มากถึง 20% ของประชากร โดยผู้หญิงมีความเสี่ยงมากกว่าผู้ชาย 2-3 เท่าปัจจัยเสี่ยงได้แก่ ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ การรับประทานอาหารที่มีสารไทรามีน เช่น ชีส โยเกิร์ต เครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน หรือ แอลกอฮอล์ รวมทั้งระดับฮอร์โมนเพศหญิงช่วงมีประจำเดือนเวลามีอาการไมเกรนขึ้นมา จะทำให้เกิดอาการปวดศีรษะรุนแรงมักเป็นข้างใดข้างหนึ่ง ปวดแบบตุ้บๆ เป็นจังหวะร่วมกับมีอาการคลื่นไส้-อาเจียน รวมทั้งอาการไวต่อสิ่งกระตุ้นจากภายนอกเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะแสงจ้า เสียงดังหรือกลิ่นฉุน ในบางครั้งอาจมีรุนแรงมากจนถึงขั้นต้องหยุดงานนอนพักกันทีเดียว ปัจจุบันมีการค้นพบสาร CGRPเป็นนิวโรเปปไทด์ชนิดหนึ่งในร่างกาย มีผลทำให้หลอดเลือดในสมองขยายตัวและกระตุ้นอาการปวดผ่านเส้นประสาทสาร CGRP นี้มีปริมาณสูงขึ้นในคนที่เป็นไมเกรน ดังนั้น การใช้ยาฉีดยับยั้งสารCGRP นี้ จึงเป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับผู้ป่วยไมเกรน ทำให้สามารถป้องกันและควบคุมอาการปวดศีรษะไมเกรนได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย


ร.ท.นพ.กีรติกร ว่องไววาณิชย์

เรืออากาศโท นายแพทย์กีรติกร ว่องไววาณิชย์ อายุรแพทย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า เวลาเกิดอาการปวดศีรษะ เรามักจะหายาแก้ปวดมารับประทาน โดยกลุ่มยาที่ใช้รักษาอาการปวดแบบเฉียบพลัน เช่น ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) ยากลุ่มทริป-แทน (triptans) และยากลุ่มเออร์โกตามีน (ergotamine) แต่สำหรับคนที่เป็นไมเกรนนั้น บางคนอาจจะมีอาการปวดศีรษะได้บ่อยเกือบทุกวัน อีกทั้งการรับประทานยาแก้ปวดก็มักจะไม่หาย ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ไม่สามารถเข้าสังคมหรือทำงานได้ตามปกติ รวมถึงคุณภาพชีวิตแย่ลง ดังนั้น การรักษาแบบป้องกันจึงมีความสำคัญในคนไข้กลุ่มที่เป็นโรคปวดศีรษะไมเกรน โดยเฉพาะในผู้ที่ปวดศีรษะบ่อย มีความรุนแรงในการปวดมาก ไม่ตอบสนองต่อยาแก้ปวดที่รับประทาน หรือมีข้อห้ามหรือมีผลข้างเคียงจากการใช้ยาแก้ปวด

ทั้งนี้ ยาป้องกันไมเกรนชนิดรับประทานที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน เช่นยากันชัก ยาต้านเศร้า ยาลดความดัน ซึ่งยาเหล่านี้เป็นยาที่ไม่ได้ผลิตมาเพื่อการรักษาและป้องกันโรคไมเกรนโดยตรง แต่สามารถนำมาใช้ลดความถี่และความรุนแรงของไมเกรนได้ การค้นพบสาร Calcitonin Gene-related Peptide หรือเรียกย่อๆ ว่า CGRP ซึ่งเป็นนิวโรเปปไทด์ชนิดหนึ่งในร่างกาย ออกฤทธิ์เกี่ยวกับกลไกการรับความปวดผ่านเส้นประสาทสมอง โดยเฉพาะเส้นประสาทสมองคู่ที่ 5ซึ่งเป็นเส้นประสาทหลักในการนำความปวดบริเวณศีรษะ ต้นคอ และใบหน้าอีกทั้ง สาร CGRP ยังมีฤทธิ์ทำให้เส้นเลือดสมองเกิดการขยายตัว ซึ่งในคนที่เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนเฉียบพลัน จะพบว่ามีสาร CGRP ในเลือดสูงขึ้นมากกว่าคนปกติ ซึ่งการค้นพบสาร CGRP นี้ ได้นำไปสู่การพัฒนายาเพื่อไปยับยั้งสาร CGRP ในปัจจุบันมียาที่ยับยั้งสาร CGRP อยู่ 2 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ CGRP monoclonal antibody และ CGRP receptor antagonist

จากการศึกษาในคน พบว่ายาในกลุ่ม CGRP monoclonal antibody สามารถลดจำนวนวันที่ปวดไมเกรน และลดปริมาณการใช้ยาแก้ปวด รวมทั้งยังเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วยไมเกรนอีกด้วย การศึกษาในผู้ป่วยไมเกรนชนิดรักษายาก เช่น ไมเกรนชนิดเรื้อรัง (Chronicmigraine) ไมเกรนชนิดที่ไม่ตอบสนองต่อยาป้องกันชนิดอื่นๆ (prior preventive treatment failure) และ ไมเกรนชนิดที่มีการใช้ยาแก้ปวดเกินขนาด (medication overuse headache) จะตอบสนองต่อยาในกลุ่ม CGRP monoclonal antibody ได้ดีกว่ายาป้องกันชนิดรับประทานอื่นๆ โดยยากลุ่มนี้จะฉีดเข้าใต้ผิวหนัง มีข้อดีคือ ในการฉีดแต่ละครั้ง จะมีฤทธิ์ในการป้องกันนานประมาณ 1 เดือน จึงช่วยลดปัญหาการลืมรับประทานยา และยังมีผลข้างเคียงจากยาน้อยกว่ายาป้องกันไมเกรนกลุ่มอื่นอย่างชัดเจน

ผลข้างเคียงที่พบมากกว่ายาหลอก เช่น เจ็บหรือมีรอยแดงบริเวณที่ฉีดยา ติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน และท้องผูก ซึ่งเป็นผลข้างเคียงชนิดไม่รุนแรง ส่วนในด้านความปลอดภัยระยะยาว โดยการติดตามผู้ที่ใช้ยาประมาณ 3-5 ปี พบว่า CGRP monoclonal antibody มีความปลอดภัยสูงต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจไม่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งไม่มีผลต่อการทำงานตับ

โดยสรุป โรคปวดศีรษะไมเกรนเป็นโรคที่มีความรุนแรง ส่งผลกระทบทั้งต่อร่างกาย จิตใจ และสังคม รวมถึงคุณภาพชีวิต การรักษาโดยการใช้ยาป้องกันจะสามารถลดความรุนแรงของโรคได้ยาในกลุ่ม CGRP monoclonal antibodyออกฤทธิ์จำเพาะเจาะจงกับโรคปวดศีรษะไมเกรนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในผู้ป่วยไมเกรนชนิดเรื้อรังหรือไม่ตอบสนองต่อยาป้องกันอื่นๆ และมีการศึกษาระยะยาวที่ยืนยันถึงประสิทธิภาพของการรักษาและความปลอดภัย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

ยิปซี 12 นักษัตร : พยากรณ์ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2568 – 3 มกราคม พ.ศ.2569

‘กานต์ ณัฐชา’สุดทึ่งร่วมทริป 'หนุ่มแท่ง อารามทัวร์'

‘กบ-ปภัสรา’นำทีมนักแสดงและทีมงาน จัดพิธีบวงสรวงเปิดกล้องละคร ‘บ้านนางรำ’

‘เอ-แป้ง’ตามหาของดีชัยบาดาล ใน ‘มิตรรัก ทั่วไทย’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved