บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ตอกย้ำแนวคิด Circular Living เปิดโครงการ “Upcycling Upstyling” ต่อยอดการออกแบบผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ ECO-Design จับมือ 11 นักออกแบบชั้นนำและมีชื่อเสียงระดับโลกของไทย เสริมทักษะผู้ประกอบการและเจ้าของแบรนด์ ผสานนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ สู่การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ Upcycle เพิ่มคุณค่าขยะหรือวัสดุเหลือใช้ กลายเป็นสินค้าหลากหลายที่สวยงาม มีความรักษ์โลก
ตอบโจทย์ฟังก์ชั่นการใช้งาน ภายใต้แนวคิด “Up Waste to Value with WOW! Style”
นายปฏิภาณ สุคนธมาน ผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวว่า แม้ว่า GC ได้ดำเนินการเรื่อง Circular Living ผ่านสินค้า Upcycling มาโดยตลอด แต่การจัดโครงการ “Upcycling Upstyling” นี้ถือเป็นครั้งแรก ซึ่งพิเศษกว่ากิจกรรมอื่นๆ ที่ผ่านมา เพราะเราได้เพิ่มคุณค่าของผลิตภัณฑ์ขึ้นไปอีกขั้น โดยเน้นเรื่องการให้ความรู้เสริมสร้างทักษะของผู้ประกอบการด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ จะได้รับการพัฒนาและให้ความรู้ด้านวัสดุจากทาง GC ควบคู่กับการออกแบบจากผู้เชี่ยวชาญที่เป็นนักออกแบบชั้นนำและมีชื่อเสียงระดับโลกของไทยถึง 6 สาขา ได้แก่ กลุ่มการออกแบบบรรจุภัณฑ์ (Packaging Design) โดย Prompt Design, กลุ่มการออกแบบสถาปัตยกรรม (Architecture Design) โดย Openbox, กลุ่มการออกแบบแฟชั่น (Fashion Design) โดย The ReMaker และ O&B, กลุ่มการออกแบบวัสดุและเครื่องประดับ (Material & Jewelry Design) โดย Ek Thongprasert และ SARRAN, กลุ่มสินค้าทำมือและสินค้าจำพวกไม้ (Craft & Wood Design) โดย KORAKOT และ jird และกลุ่มออกแบบอุตสาหกรรม (Industrial Design) โดย THINKK STUDIO และ QUALY เพื่อต่อยอดและเปิดมุมมองใหม่ในธุรกิจ ด้วยการเพิ่มคุณค่าขยะหรือวัสดุเหลือใช้ผ่านการออกแบบอย่างมีสไตล์ ให้กลายเป็นสินค้าหลากหลายที่สวยงาม มีความรักษ์โลก และตอบโจทย์ฟังก์ชั่นการใช้งาน ภายใต้แนวคิด “Up Waste to Value with WOW! Style”
ปฏิภาณ สุคนธมาน
ทั้งนี้ GC ให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและยั่งยืน สอดคล้องกับหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ต่อยอดไปสู่แนวคิด GC Circular Living เพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจและขยายความร่วมมือในการสร้างความตระหนักรู้เรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนไปยังทุกภาคส่วนโครงการนี้ถือเป็นการต่อยอดการตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมพลาสติก เพื่อส่งเสริมและสร้างเครือข่ายการออกแบบโดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ ผ่านการออกแบบผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของECO-Design จากพลาสติกแบบดั้งเดิม พลาสติกรีไซเคิล (Recycled Plastic) และพลาสติกทางชีวภาพ (Bio Plastic) โครงการนี้จะช่วยยกระดับกลุ่มลูกค้า และคู่ค้าของ GC ทั้งผู้ประกอบการและเจ้าของแบรนด์ผ่านการออกแบบ นำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์และสามารถรับมือกับความท้าทายที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมพลาสติกโลก
“ปลายทางของเรา คือการสร้างการรับรู้ให้คนทั่วไปที่เป็นผู้ใช้สินค้าอัพไซคลิ่ง ให้รู้ว่าสินค้าหรือขยะทั้งหลายสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในเชิงที่ให้คุณค่าให้ราคาสูงกว่าวัสดุเดิมที่ใช้” นายปฏิภาณ กล่าว
ชเล วุทธานันท์ ผู้สร้างแบรนด์ PASAYA
นายปฏิภาณ กล่าวอีกว่า โครงการ Upcycling Upstyling เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าและคู่ค้าของ GC สมัครเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจและสร้างสรรค์ผลงานใหม่ออกสู่ตลาด ซึ่งในโครงการจะมีการร่วมพัฒนาผลงานกับผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบในสาขาต่างๆ ที่ทาง GC ได้คัดสรรมาเพื่อเป็นคู่คิด เสนอแนวทางการออกแบบใหม่ๆ และสนับสนุนทักษะการออกแบบของผู้ประกอบการ โดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านจะได้รับมอบหมายในการดูแลกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการรวมทั้งสิ้น 19 บริษัท จากหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ผู้ประกอบการด้านบรรจุภัณฑ์, ผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมประมง (แห, อวน) สถานประกอบการทางการแพทย์(โรงพยาบาล) เป็นต้น โดยทุกบริษัทและหน่วยงานมีเป้าหมายร่วมกัน คือการเห็นคุณค่าและโอกาสในการนำพลาสติกที่ใช้แล้ว กลับมาใช้ซ้ำเพิ่มมูลค่า ด้วยการออกแบบเพื่อสรรค์สร้างเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
ด้านผู้ประกอบการ นายชเล วุทธานันท์ ผู้สร้างแบรนด์ PASAYA เผยว่า การมาร่วมโครงการนี้ สิ่งที่ผู้ประกอบการจะได้เลยคือเรื่องของธุรกิจ แต่สิ่งที่สำคัญคือ การสร้างการรับรู้และจิตสำนึกต่อสังคมในเรื่องของพลาสติกซึ่งพลาสติกหากไม่ดูเเล ก็จะกลายเป็นของเสียและเป็นมลภาวะให้กับโลก ยิ่งในปัจจุบันที่มีพลาสติกเหลือใช้อยู่มาก ฉะนั้นมีทางเดียวคือต้องหาวิธีนำเอาพลาสติกกลับมาใช้ เเละเพิ่มคุณค่าเพื่อทำให้เป็นวงจรที่ยั่งยืนในการใช้พลาสติกต่อไป
ยุทธนา อโนทัยสินทวี เจ้าของแบรนด์ The ReMaker
ด้าน คุณยุทธนา อโนทัยสินทวี นักออกแบบผลิตภัณฑ์รีไซเคิล แบรนด์ The Remaker และ Garmento Board เจ้าของรางวัลชนะเลิศสาขา Best Material จากเวที ICFF 2010 นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และรองชนะเลิศอันดับ 2 จากเวทีการประกวดนวัตกรรมใหม่ของสำนักนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) เผยว่า ตนได้ทำงานออกแบบงาน fashion accessory ซึ่งทำจากวัสดุเหลือทิ้งมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่แล้ว และได้รู้จักกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นซึ่งสนใจในงานของเราเลยขอซื้อไปลองวางขายดูที่ประเทศเขา จึงเริ่มทำธุรกิจตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา เมื่อเปิดเป็นบริษัทจึงได้นำเอาวัสดุเหลือใช้อย่างเสื้อผ้า กางเกงยีนส์ ชุดทำงานมาออกแบบเป็นกระเป๋า และของใช้ต่างๆที่สามารถใช้งานได้จริง ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างมาก
“หลังจากใช้วัตถุดิบเป็นเสื้อผ้ามือสอง ก็เริ่มอยากที่จะหาวัตถุดิบอื่นๆมาใช้บ้าง จึงนำยางในรถจักรยานยนต์และรถสิบล้อมาใช้ เพราะคิดว่ามันเป็นสิ่งของรอบตัวในชีวิตประจำวัน และเป็นวัสดุจำนวนมากที่เหลือใช้จากภาคอุตสาหกรรมซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะมองข้ามว่านี่แหละคือตัวปัญหาของขยะเหลือทิ้งในอนาคต เพราะบ้านเราไม่มีการนำยางรถเก่าไปใช้ประโยชน์ต่อ เราจึงนำมาสร้างประโยชน์เพิ่มมูลค่าให้เป็นมากกว่าแค่คำว่า “ยางในรถ”
คุณยุทธนา กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีกระแส “รักษ์โลก” เกิดขึ้นมากมายทุกภาคส่วน จึงเกิดธุรกิจภายใต้แนวคิด “รีไซเคิล” มากขึ้น และการที่เรานำของเหลือทิ้งมาออกแบบรีไซเคิลใหม่ไม่ได้แปลว่าเราช่วยลดขยะมากมายได้ เพียงแต่ช่วยยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้นเท่านั้น และการร่วมงานกับ GC ครั้งนี้ถือเป็นความท้าทายอีกก้าวที่ต้องคิดและออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเรายังได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อนำไปต่อยอดผลิตภัณฑ์ ซึ่ง GC พร้อมที่จะสนับสนุนในทุกๆเรื่องอยู่แล้ว
เอก ทองประเสริฐ เจ้าของแบรนด์ Ek Thongprasert
อีกด้าน คุณเอก ทองประเสริฐ นักออกแบบแบรนด์ Ek Thongprasert เจ้าของรางวัลชนะเลิศ Fashion Collection of the year, International Talent Support ประเทศอิตาลี และ Fashion Weekend Brussels ประเทศเบลเยี่ยม กล่าวว่า ปัจจุบันไม่ใช่เเค่พลาสติกตัวเดียวที่ถูกมองว่าเป็นผู้ร้าย อุตสาหกรรมแฟชันก็เช่นกัน เพราะเป็นอุตสาหกรรมอันดับที่สองที่สร้างมลพิษทั่วโลก ซึ่งถ้าโปรเจค “Upcycling Upstyling” นี้สำเร็จตนคิดว่าจะเป็นก้าวต่อไปที่จะปรับให้อุตสาหกรรมเเฟชั่นกลับมาคลีนมากขึ้นโดยการใช้วัสดุที่หลากหลายมากขึ้น
กรกต อารมณ์ดี เจ้าของแบรนด์ KORAKOT
ขณะที่ คุณกรกต อารมณ์ดี เจ้าของแบรนด์ KORAKOT ผู้เปลี่ยนหัตถกรรมพื้นบ้านให้กลายเป็นงานออกแบบระดับโลก เจ้าของรางวัล National Artist of design 2017 และเป็นผู้ออกแบบตกแต่งสถานที่ให้กับ Iconsiam ,Central Phuket ,Gourmet Garden Zone at Siam Paragon เผยว่า งานที่ตนทำส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับ “เส้นใยธรรมชาติ” เป็นหัตถกรรมพื้นบ้านที่ปรับเทคนิคเหล่านั้นให้มีความทันสมัย โดยนำเอาเส้นใยธรรมชาติแห้งมาปรับให้เป็นลักษณะของการทำผลิตภัณฑ์ เพื่อใช้ประดับงานอีเว้นท์ และใช้เป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ หรือ “สถาปัตย์” โดยใช้ “งานคราฟต์” เป็นพื้นฐานในการทำโครงสร้างอยู่แล้ว ซึ่งก็หมุนเวียนอยู่กับการใช้วัสดุธรรมชาติ
“รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจค “Upcycling Upstyling” เพราะมันคือความท้าทายให้เราคิดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมาโดยคงรูปแบบงานหัตถกรรมเส้นใยธรรมชาติไว้ ซึ่งผมดีใจมากและคิดว่างานนี้ต้องสนุกแน่นอน”
รรินทร์ ทองมา เจ้าของแบรนด์ O&B
เดชา อรรจนานันท์ เจ้าของแบรนด์ THINKK STUDIO
ศรัณย์ อยู่คงดี เจ้าของแบรนด์ SARRAN
ศุภพงศ์ สอนสังข์ เจ้าของแบรนด์ jird
พลอยพรรณ ธีรชัย เจ้าของแบรนด์ THINKK STUDIO
ธีรชัย ศุภเมธีกูลวัฒน์ เจ้าของแบรนด์ QUALY
รติวัฒน์ สุวรรณไตรย์ เจ้าของแบรนด์ Openbox
สมชนะ กังวารจิตต์ เจ้าของแบรนด์ PROMPT DESIGN
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี