เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ครบ 43 ปี ของ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ในวันอาทิตย์ที่16 กุมภาพันธ์ 2563 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งประกอบด้วยทั้งภาครัฐและเอกชน จะจัดงาน “วันวิภาวดี” ขึ้นเพื่อสดุดีและบำเพ็ญกุศลถวาย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ดังเช่นที่ได้จัดมาทุกปีณ ลานพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระยุพราช อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมี นายวิชวุทย์จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นประธานในพิธี และธิดาม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต วางพวงมาลาหน้าพระรูปจำลอง
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ทรงมีพระนามเดิมว่าหม่อมเจ้าวิภาวดี รัชนี ทรงเป็นพระธิดาในพระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ (พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัสต้นราชสกุลรัชนี) และหม่อมเจ้าพรพิมลพรรณ (วรวรรณ) รัชนีประสูติเมื่อวันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายนพ.ศ.2463 ทรงมีพระอนุชาร่วมพระบิดาพระมารดาเดียวกัน คือ หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี
พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ทรงศึกษาที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัยจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แล้วจึงศึกษาหลักสูตรสมบูรณ์ศึกษาที่โรงเรียนนี้เพิ่มเติมอีก 3 ปี ทรงสำเร็จการศึกษาเมื่อพ.ศ.2485 ภายหลังที่ทรงสำเร็จการศึกษาแล้ว พระองค์หญิงได้ทรงรับใช้พระบิดาอย่างใกล้ชิด กรมหมื่นพิทยาลงกรณ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในวงการนักประพันธ์ในนาม “น.ม.ส.” ทรงได้รับการยกย่องว่าเป็น “กวีเอก”ผู้หนึ่งของกรุงรัตนโกสินทร์ คล้ายพระบิดา พระองค์หญิงทรงพระปรีชาสามารถหลายประการ โดยเฉพาะทางอักษรศาสตร์ ทรงนิพนธ์เรื่องสำหรับเด็กเมื่อพระชันษาเพียง 14 ปี และทรงใช้นามปากกาว่า “ว.ณ ประมวญมารค” ทรงนิพนธ์นวนิยายเรื่อง ปริศนา รัตนาวดีเจ้าสาวของอานนท์ ฯลฯ อีกทั้ง สารคดีเรื่อง ตามเสด็จปากีสถาน ต่อมาทรงนิพนธ์นวนิยายอิงประวัติศาสตร์เรื่อง พระราชินีนาถวิกตอเรียคลั่งเพราะรักฯลฯ นอกจากนั้นยังได้ทรงนิพนธ์เรื่องสั้นรวมทั้งบทละครวิทยุด้วย
พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ทรงเสกสมรสกับ หม่อมเจ้าปิยะรังสิต รังสิต เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2489โดยทรงเป็นคู่สมรสคู่เดียวที่ได้รับพระราชทานน้ำพระมหาสังข์จาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงมีธิดา 2 คน คือ หม่อมราชวงศ์วิภานันท์ และหม่อมราชวงศ์ปรียนันทนา รังสิต
พระองค์หญิงทรงเข้ารับราชการสนองพระเดชพระคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรภาคต่างๆ ในราชอาณาจักรตั้งแต่พ.ศ.2500 และต่อจากนั้นได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้โดยเสด็จในตำแหน่งนางสนองพระโอษฐ์ สมเด็จนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ขณะดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศรวม 25 ประเทศ
ในระยะ 10 ปีสุดท้ายของพระชนม์ชีพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์หญิงทรงปฏิบัติพระภารกิจแทนพระองค์ในด้านการพัฒนาพื้นที่ทุรกันดารภาคใต้ ทรงนำหน่วยพระราชทานไปช่วยเหลือประชาชนในท้องที่ห่างไกลและทุรกันดารที่สุด โดยมิได้ทรงย่อท้อต่อความยากลำบากในการเดินทางหรือที่พักแรม เมื่อพระองค์หญิงเสด็จที่ใดก็ได้นำความไปกราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 และต่อมาความเจริญก็ค่อยๆ ไปถึงที่นั้น จนในที่สุดชาวบ้านจึงได้ขนานพระนามว่า “เจ้าแม่”
พระองค์หญิงทรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์เพื่อที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ด้วยการเสด็จเยี่ยมเยียนพาแพทย์ไปรักษาพยาบาลคนที่เจ็บป่วย จัดสิ่งของหยูกยาไปช่วยชาวบ้านที่ยากไร้หรือประสบภัย แจกอุปกรณ์การศึกษาแก่เด็กนักเรียน แนะนำการงานอาชีพและส่งเสริมศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านตามพระราชเสาวนีย์ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทั้งยังคงนำสิ่งของพระราชทานไปเยี่ยมบำรุงขวัญเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร พลเรือน สมาชิกกองอาสาสมัครรักษาดินแดน แม้ในเขตที่มีผู้ก่อการร้ายปฏิบัติการอย่างรุนแรง ก็ยังทรงพระอุตสาหะเสด็จไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ถึงแนวหน้า
จนกระทั่งวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2520 ระหว่างทางเสด็จโดยเฮลิคอปเตอร์เพื่อนำสิ่งของพระราชทานไปเยี่ยมบำรุงขวัญเจ้าหน้าที่ ที่อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทรงทราบจากวิทยุว่ามีตำรวจตระเวนชายแดนได้รับบาดเจ็บจากกับระเบิด 2 นาย ด้วยความที่ทรงห่วงใยผู้บาดเจ็บเกรงว่าจะได้รับการรักษาพยาบาลไม่ทันท่วงที จึงรับสั่งให้นักบินเฮลิคอปเตอร์ร่อนลงเพื่อรับเจ้าหน้าที่ที่บาดเจ็บ 2 นายนั้นไปส่งโรงพยาบาล ขณะนักบินนำเครื่องร่อนลงต่ำใกล้บ้านเหนือคลอง อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้ก่อการร้ายได้ระดมยิงเฮลิคอปเตอร์ กระสุนทะลุเข้ามาถูกพระองค์หญิง ทรงได้รับบาดเจ็บสาหัสและสิ้นพระชนม์ก่อนเสด็จถึงโรงพยาบาล
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราชบรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9จึงทรงมีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งให้สถาปนาหม่อมเจ้าวิภาวดีรังสิตเป็นพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ.2520 และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์มหาจักรีบรมราชวงศ์
รัฐบาลได้ตั้งชื่อถนนซูเปอร์ไฮเวย์จากดินแดงไปรังสิตว่า “ถนนวิภาวดี-รังสิต” เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ความกล้าหาญเสียสละและจงรักภักดีของพระองค์ท่าน
ถึงแม้ว่าพระองค์หญิงได้สิ้นพระชนม์ไปกว่า 43 ปีแล้วแต่คุณงามความดีของท่านยังคงอยู่ในความทรงจำของชาวใต้ชาวสุราษฎร์ธานี ได้กำหนดวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของทุกปี คือวันที่16 กุมภาพันธ์ เป็น “วันวิภาวดี”เพื่อทำพิธีสดุดีและบำเพ็ญกุศลถวาย ณ พระอนุสาวรีย์ 5 แห่งทั่วจังหวัดสุราษฎร์ธานี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี