ไมเกรน คือ ภาวะปวดศีรษะที่มีความรุนแรงมากกว่าอาการปวดศีรษะทั่วไปหลายเท่า โดยมักเกิดขึ้นบริเวณด้านใดด้านหนึ่งของศีรษะ หรือทั้งสองข้างก็ได้ อีกทั้งยังเกิดขึ้นบ่อย โดยอาจจะมีหรือไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า และส่วนใหญ่มักจะปวดข้างเดิมซ้ำๆ บางกรณีอาจมีความรู้สึกไวต่อแสง เสียง และกลิ่น ส่งผลให้คลื่นไส้และอาเจียนได้
นอกจากนี้ ไมเกรน ยังเป็นโรคที่พบได้ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงผู้สูงอายุ เนื่องมาจากปัจจัยทางพันธุกรรม ความเครียด ฮอร์โมนเพศโรคประจำตัว และการใช้ยาบางชนิดต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ทั้งนี้พบว่าผู้หญิงจะเป็นไมเกรนมากกว่าผู้ชายประมาณ 3 เท่า โดยหากเกิดในหญิงตั้งครรภ์จำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยและให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ
สำหรับสาเหตุของไมเกรนในคุณแม่ตั้งครรภ์ พญ.ธนินจิตรา พูลเพชรพันธุ์ รพ.สมิติเวช เผยว่าคุณแม่ตั้งครรภ์อาจต้องประสบภาวะปวดศีรษะได้ตลอดเวลา บางครั้งอาจเป็นภาวะปวดไมเกรน หรือปวดศีรษะธรรมดา แต่บางกรณีอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคภัยอื่นๆ โดยเฉพาะภาวะครรภ์เป็นพิษได้ ดังนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์ควรทำความเข้าใจถึงสาเหตุของการเกิดไมเกรน ดังนี้
l การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์อาจส่งผลให้เกิดภาวะปวดศีรษะได้ โดยอาการมักทุเลาลงในไตรมาสที่ 2 ซึ่งเป็นช่วงที่ระดับฮอร์โมนเริ่มคงที่และร่างกายสามารถปรับตัวได้แล้ว
l การยืนหรือการนั่งที่ไม่เหมาะสม ส่วนใหญ่เกิดในช่วงการตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 3 ซึ่งครรภ์ของคุณแม่เริ่มใหญ่ขึ้น ส่งผลให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ต้องแบกรับน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น หากคุณแม่ตั้งครรภ์มีอิริยาบทที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลให้ปวดศีรษะได้เช่นกัน ซึ่งภาวะปวดศีรษะในช่วงนี้ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเกิดจากภาวะความดันโลหิตสูงหรือครรภ์เป็นพิษ หากพบอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์ทันที
l ขาดสารอาหารและความหิว เพราะกลัวน้ำหนักขึ้นมากเกินไปในช่วงตั้งครรภ์ ทำให้คุณแม่อดอาหาร จนขาดสารอาหารหรือรู้สึกหิวระหว่างวัน
l พักผ่อนน้อย เนื่องจากนอนได้ลำบากขึ้น หรือรู้สึกอึดอัดจนนอนไม่ค่อยหลับ
l การงดการดื่มชา กาแฟ เมื่อร่างกายไม่ได้รับกาเฟอีนเหมือนเดิม ส่งผลให้ปวดศีรษะได้
l ความวิตกกังวลและความเครียด ส่งผลโดยตรงกับอาการปวดศีรษะ
l ขาดน้ำ คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ไม่อยากเข้าห้องน้ำบ่อย อาจแก้ปัญหาด้วยการดื่มน้ำน้อยลง จนเกิดภาวะขาดน้ำ และปวดศีรษะ
สัญญาณเตือนที่ควรพบแพทย์ทันที ในระหว่างปลายไตรมาสที่ 2 จนถึงไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ อาการปวดศีรษะอาจเกิดจากภาวะการเจ็บป่วยอื่นๆ ที่เป็นอันตรายต่อครรภ์และตัวคุณแม่ โดยเฉพาะภาวะครรภ์เป็นพิษ ความดันโลหิตสูงรวมถึงความผิดปกติของตับและไต ดังนั้น หากมีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง แม้รับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล แล้วยัง
ไม่หาย หรือหากมีอาการปวดศีรษะร่วมกับอาการอื่นเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีได้แก่ อาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นแบบฉับพลันมีไข้ และคอแข็ง, ตาพร่ามัว มีปัญหาการมองเห็น, เสียดท้องเวียนศีรษะ คลื่นไส้, น้ำหนักตัวเพิ่มเร็วเกินไป, มือ หรือใบหน้าบวม
การรักษาไมเกรนในคุณแม่ตั้งครรภ์ คุณแม่ทุกคนคงไม่อยากทานยาใดๆ ระหว่างการตั้งครรภ์ แต่หากเกิดภาวะปวดศีรษะ อาจทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล ร่วมกับการรักษาแบบ
ประคับประคองอื่นๆ เช่นการประคบเย็น การนวดผ่อนคลายการนอนพัก การฟังเพลง แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้ยาแก้ปวดอื่นๆ ที่มีความแรงมากขึ้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยาทุกครั้ง เนื่องจากยาแก้ปวดบางตัวมีผลต่อการบีบตัวของมดลูก อาจส่งผลต่อการคลอดก่อนกำหนดหรือมดลูกบีบตัวน้อยกว่าปกติ
ส่วนการป้องกันไมเกรนระหว่างตั้งครรภ์ หลีกเลี่ยงอาหารกระตุ้นภาวะไมเกรน เช่น ผงชูรส น้ำตาลเทียม ชีส ไวน์ ช็อกโกแลตชา และกาแฟ, ดื่มน้ำปริมาณมาก,พักผ่อนให้เพียงพอ หากนอนไม่เต็มที่ในช่วงกลางคืน อาจหาเวลางีบช่วงกลางวันบ้าง, เมื่อมีอาการปวดศีรษะควรนอนพักในห้องที่เงียบสงบ และไม่มีแสงจ้า,ใช้วิธีประคบเย็น ด้วยผ้าขนหนูและน้ำแข็งบริเวณศีรษะ, หลีกเลี่ยงการซื้อยาแก้ปวดศีรษะและยาไมเกรนมารับประทานเอง ควรพบแพทย์เพื่อพิจารณาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม และตรวจดูว่ามีอันตรายต่อการตั้งครรภ์หรือไม่,รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมถึงดื่มน้ำให้เพียงพอทุกวัน และไม่ควรลดน้ำหนักในช่วงตั้งครรภ์เด็ดขาด และพบแพทย์เพื่อปรึกษาเรื่องการใช้ยาที่อาจส่งผลให้ปวดศีรษะไมเกรน
อาการปวดศีรษะธรรมดาก็สร้างความทุกข์ทรมานให้ผู้ป่วยทุกเพศทุกวัย แต่การปวดศีรษะไมเกรนนั้นมีความรุนแรงและเพิ่มความเจ็บปวดมากขึ้นอีกเท่าทวี ดังนั้นการรู้เท่าทันทั้งการป้องกัน อันตราย และการสังเกตอาการเบื้องต้น เพื่อรีบพบแพทย์ จึงเป็นหนทางคลายความเจ็บปวดที่มีประสิทธิภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี