ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารีกรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จทรงเป็นประธานในพิธีลาสิกขาพระนวกะโพธิ44 รูป ในโครงการบรรพชาอุปสมบทหมู่และปฏิบัติธรรมถวายเป็นพระกุศลฯ ในโอกาส 10 ปีโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ณ พระอุโบสถ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ เมืองกุสินารา รัฐอุตตรประเทศสาธารณรัฐอินเดีย
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 07.00 น.ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งออกจากวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ เมืองกุสินารา รัฐอุตตรประเทศ ไปยังปรินิพพานวิหาร ณ สาลวโนทยาน โดยมี พระธรรมโพธิวงศ์ (วีรยุทฺโธ) เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยาและหัวหน้าพระธรรมทูตสายอินเดีย-เนปาล คณะพระนวกะโพธิ ผู้ปฏิบัติธรรมและพุทธศาสนิกชนชาวไทย เฝ้าฯรับเสด็จ โดยเสด็จพระดำเนินเข้าสู่ยังปรินิพพานวิหาร ที่ภายในมีพระพุทธรูปปางปรินิพพาน ซึ่งเป็นจุดจำลองการดับขันธปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ทรงกระทําประทักษิณในพระวิหาร ทรงถวายผ้าห่มและทรงสักการะพระพุทธรูปปางปรินิพพาน ทรงสักการะปรินิพพานสถูป
จากนั้นทรงฉายพระรูปหมู่กับพระนวกะโพธิ44 รูป ในโครงการบรรพชาอุปสมบทหมู่และปฏิบัติธรรมถวายเป็นพระกุศลฯ เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ณ ด้านหน้าปรินิพพานวิหาร แล้งจึงเสด็จไปยังสถานพยาบาลกุสินาราคลินิก เพื่อทรงเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยแพทย์อาสากรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขจากประเทศไทยจากนั้นเสด็จยังมกุฏพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพุทธสรีระองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงจุดธูปเทียนสักการะมกุฏพันธนเจดีย์ สังเวชนียสถานแห่งสุดท้ายสถานที่แห่งการสิ้นธาตุเหลือธรรม จากนั้นทรงประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ทรงปิดทองและวางพวงมาลัยทรงถวายผ้าไตร และทรงกระทำประทักษิณรอบมกุฏพันธนเจดีย์
ต่อมา เสด็จยังวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ทรงปลูกต้นสาละ แล้วเสด็จยังพระอุโบสถ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ทรงเป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีลาสิกขาพระนวกะโพธิทั้ง 44 รูป ในโครงการบรรพชาอุปสมบทหมู่และปฏิบัติธรรม ถวายเป็นพระกุศล ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารี เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปีโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ณ พระอุโบสถ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ โดยมี สมเด็จพระมหาธีราจารย์กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พระนวกะโพธิได้ทำพิธีกล่าวคำขอขมาต่อพระรัตนตรัย กล่าวคำลาสิกขาจากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสีขาวกลับมายังพระอุโบสถเพื่อรับศีลห้า สมเด็จพระมหาธีราจารย์ประธานฝ่ายสงฆ์ กล่าวสัมโมทนียกถา ทรงหลั่งทักษิโณทก ผู้ลาสิกขาเข้าเฝ้ากราบพระบาทน้อมสำนึกในพระกรุณาธิคุณ ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และองค์ประธานผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลจุฬาภรณ์
ต่อมาในเวลา 17.00 น. ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จทรงสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ถวายผ้าไตรแด่พระสงฆ์จำนวน 10 รูป ในการบำเพ็ญพระกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระราชทานโค 2 ตัวแก่ผู้แทนชุมชนอินเดีย ต่อมาพระราชทานพระวโรกาสให้ นายชุติทร คงศักดิ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงนิวเดลี เบิกผู้มีจิตศรัทธาให้การสนับสนุนกิจกรรมวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์และร่วมบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระอัธยาศัยเข้าเฝ้ารับพระราชทานของที่ระลึก
จากนั้นเสด็จไปยังพระมหาธาตุเจดีย์เฉลิมราชศรัทธา เพื่อทรงสักการะพระบรมสารีริกธาตุ โดยพระมหาธาตุเจดีย์ฯ นี้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างเพื่อเป็นเครื่องบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และถวายเป็นพระราชกุศลแด่ บูรพมหากษัตริย์แห่งพระราชจักรีวงศ์ พร้อมทั้งพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ในการจัดสร้าง และโปรดเกล้าฯให้นำพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระองค์กลับคืนสู่แดนที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน โดยนำมาบรรจุไว้ ณ พระมหาธาตุเจดีย์แห่งนี้ ต่อมาทรงเจริญสมาธิตามพระอัธยาศัย แล้วจึงเสด็จกลับ
ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ซึ่งเป็นนาคเอก ในโครงการบรรพชาอุปสมบทหมู่และปฏิบัติธรรมถวายเป็นพระกุศลฯ ในโอกาสครบรอบ 10 ปีโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ระหว่างวันที่ 15-23 กุมภาพันธ์ 2563 กล่าวภายหลังจากลาสิกขาว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ที่ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงมีต่อคณะผู้บรรพชาอุปสมบทหมู่ ทรงขลิบผมให้ทุกคนด้วยพระองค์เอง พระราชทานผ้าไตรสิกขาให้กับสามเณรนวกะทั้ง 44 รูป อีกทั้ง เสด็จทรงเป็นประธานในพิธีบรรพชาอุปสมบทหมู่ ณ วัดไทยพุทธคยา และพิธีลาสิกขาพระนวกะโพธิ ณ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ รวมถึงทรงตักบาตรสามเณรนวกะ และทรงปรุงอาหารเพื่อถวายเพลให้กับภิกษุและสามเณรนวกะ ซึ่งคณะผู้บรรพชาอุปสมบทหมู่ต่างซาบซึ้งและปลื้มปีติเป็นล้นพ้น
ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นพิธีบรรพชาอุปสมบทหมู่ ณ วัดไทยพุทธคยา พระนวกะโพธิทั้ง 44 รูป ได้เดินทางจาริกแสวงบุญ ณ 4 พุทธสังเวชนียสถาน คือ สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงธรรมเทศนา และปรินิพพาน ในสาธารณรัฐอินเดีย และสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล พร้อมทั้งปฏิบัติธรรมถวายเป็นพระกุศลแด่ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี น้อมถวายให้ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ด้วยทรงมุ่งมั่นพระหฤทัยที่จะทำให้ประชาชนชาวไทยมีสุขภาพดีและมีโอกาสเข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม โดยเฉพาะการรักษาโรคมะเร็ง ซึ่งเป็นพระปณิธานที่ทรงก่อตั้งโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และดำเนินมาจนถึง 10 ปีในวันนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี