วันพุธ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568
คนที่เข้ารับการอบรมกับโรงเรียนชาวนาจำเป็นต้องมีคุณสมบัติพื้นฐานประการสำคัญข้อแรกคือต้องเป็นคน ข้อต่อมาคือต้องไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม และ
ข้อสุดท้ายคือต้องมีความตั้งใจเรียนรู้การจัดการกับชีวิตของตนเองได้อย่างเป็นระบบ
แนวหน้าวาไรตี้สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัยพาคุณไปสัมผัสและสนทนากับบุคคลต่างๆ อาทิ ผู้จัดการโรงเรียน และผู้เข้ารับการอบรมในโรงเรียนชาวนา หรือชื่อเป็นทางการคือมหาวิชชาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์ซึ่งเวลาเราเรียกชื่อสั้นๆ อย่างไม่เป็นทางการว่าโรงเรียนชาวนาพุทธเศรษฐศาสตร์ ซึ่งอยู่ในศูนย์วิปัสสนาสากล ไร่เชิญตะวันจังหวัดเชียงราย
เรียนถามคุณณัชชารีย์ นุธรรม ผู้จัดการโรงเรียนชาวนาว่าโรงเรียนนี้เปิดมากี่ปีแล้วครับ รับนักเรียนมาแล้วกี่รุ่นครับ รุ่นหนึ่งรับผู้เข้าศึกษากี่คนครับ
ณัชชารีย์ โรงเรียนชาวนา หรือโรงเรียนชาวนาพุทธเศรษฐศาสตร์เริ่มทำการเรียนการสอนมาตั้งแต่ ปี 2556 รับนักเรียนปีละ 1 รุ่น ดังนั้นโรงเรียนนี้จึงมีนักเรียนมาแล้วรวม 7 รุ่น ในปี 2562 โรงเรียนนี้ท่านเจ้าคุณอาจารย์ ว. วชิรเมธี หรือปัจจุบันคือ ท่านเจ้าคุณพระเมธีวชิโรดม ได้ตั้งชื่อให้คือ มหาวิชชาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์โรงเรียนแห่งนี้รับนักศึกษารุ่นละ 1 ร้อยคนค่ะ โดยรับครอบครัวละ 1 คนเท่านั้น หมายความว่าหากมาจากครอบครัวเดียวกัน ก็มีสิทธิ์เข้ารับการอบรมได้เพียง 1 คน
เท่านั้น เพราะเราต้องการให้ครอบครัวอื่นๆ เข้ารับการอบรมอย่างทั่วถึงกันค่ะ

ระยะเวลาในการเรียน การอบรมนานกี่ปี หรือกี่เดือนครับ แล้วเรียนทุกวันไหมครับ
ณัชชารีย์ หลักสูตรมีระยะเวลา 1 ปี เราเรียนกันเฉพาะวันเสาร์เท่านั้น เรียนกันเต็มวันเลยค่ะ เพราะฉะนั้นปีหนึ่งก็เรียนกัน 52 ครั้ง เริ่มตั้งแต่เวลา 9 นาฬิกา เลิกเรียนเวลา 16 นาฬิกา ก่อนเรียนเราจะไหว้พระสวดมนต์ก่อน แล้วหลังจากนั้นเราจึงเริ่มเรียนกัน ผู้ให้การอบรมนักเรียนก็คือปราชญ์ชาวบ้านผู้ที่ได้รับความเชื่อถือจากคนในชุมชนโดยจะอบรมด้านต่างๆ ทั้งการใช้ชีวิต ความเป็นอยู่ การทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยความสุจริต ซื่อสัตย์ มีความอุตสาหะพยายามและเน้นการเกื้อกูลแบ่งปันกันในหมู่ผู้เข้ารับการอบรม และสอนให้ผู้เรียนสามารถแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้ด้วยตนเอง และช่วยเหลือกันและกันเพื่อให้ปัญหาผ่านพ้นไปได้ สอนให้ประหยัดมัธยัสถ์ สอนให้เมตตารักสรรพสัตว์ และทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ เพราะทุกสิ่งอย่างเป็นเพื่อนร่วมโลกของมนุษย์ทั้งสิ้น
ผู้เข้ารับการอบรมที่นี่ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้างครับ
ณัชชารีย์ เจ้าคุณอาจารย์บอกไว้ว่า ต้องเป็นคนก่อนเป็นอันดับแรก ถ้าเป็นคนแล้ว เราอนุญาตให้เข้ารับการอบรมได้เลย
นอกจากความเป็นคนแล้ว ยังต้องมีคุณสมบัติอื่นใดอีกไหม เพราะคนมีหลายชนิด ทั้งคนดี คนเลว คนบ้าคนไม่ปกติ
ณัชชารีย์ เมื่อเป็นคนแล้ว ข้อต่อมาคือต้องเป็นคนที่ตั้งใจจะเข้ามาหาความรู้ และตั้งใจเรียนไปกับเรา ต้องมีความตั้งใจจริงค่ะ
มีข้อกำหนดเรื่องอายุไหมครับ ต่ำสุดหรือสูงสุดกี่ปีครับ
ณัชชารีย์ ไม่ได้กำหนดเรื่องอายุของผู้เข้าเรียนไว้ตายตัวค่ะ ตอนนี้เรามีนักเรียนที่อายุน้อยที่สุดคือ 12 ปี เป็นนักเรียนชั้นมัธยม 1 ส่วนผู้ที่อายุมากที่สุดคือ 78 ปี เรามีคนหลากหลายอายุมาเรียนรวมกันค่ะ

หลักสูตรในการเรียนทั้งหมด 52 ครั้ง มีเรื่องอะไรที่สำคัญๆ บ้างครับ
ณัชชารีย์ หลักสูตรพื้นฐานของโรงเรียนชาวนามีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 หลักสูตร คือด้านพุทธธรรมพุทธเกษตร พุทธเศรษฐศาสตร์ และพุทธวัฒนธรรม โรงเรียนของเราอยู่กับพระสงฆ์ ดังนั้นต้องศึกษาพระธรรมคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอันดับแรก วิชาด้านนี้ได้รับการถ่ายทอดความรู้จากเจ้าคุณอาจารย์ และพระอาจารย์อีกหลายรูป ส่วนเรื่องพุทธเกษตร ก็เน้นเรื่องทำการเกษตรแบบพุทธ เน้นการเกษตรที่ไม่เบียดเบียนโลก โดยเน้นด้านเกษตรอินทรีย์ ส่วนเรื่องของพุทธเศรษฐศาสตร์ คำนี้หลายคนอาจไม่เข้าใจลึกซึ้ง ท่านเจ้าคุณอาจารย์จึงให้ใช้คำว่า วิชาการจัดการบริหารชีวิต จัดการบริหารการเงินในชีวิตประจำวัน และตัวสุดท้ายคือพุทธวัฒนธรรม ที่เน้นเรื่องความเข้าใจในรากเหง้าความเป็นมาของเราทุกคน ความเป็นมาของชุมชน ของสังคมที่เรากำเนิดและอาศัย และเน้นเรื่องของขนบธรรมเนียม ประเพณีวัฒนธรรม โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับดนตรี กวีศิลป์ เจ้าคุณอาจารย์อธิบายให้พวกเราฟังว่า เมื่อคนเรารู้เรื่องของดนตรี กวีศิลป์แล้วจะช่วยทำให้จิตใจของคนเราละเอียดอ่อนมากขึ้นสามารถยกระดับให้สูงจากสัตว์ได้ และยังช่วยในการผ่อนคลายของชีวิตได้ด้วย ทั้งหมดนี่คือทั้งสี่ด้านที่เราเน้นหนักในโรงเรียนชาวนาค่ะ
ผู้เรียนต้องเป็นคนเชียงรายเท่านั้นไหมครับ
ณัชชารีย์ ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นคนเชียงรายค่ะ แต่ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นคนเชียงรายค่ะ เพราะคงสะดวกในการเดินทางมาเรียนกับเรา แต่ก็มีคนที่มาจากจังหวัดใกล้ๆ เชียงรายเข้ามาเรียนกับเราด้วยนะคะ เช่น มาจากพะเยา ค่ะแต่ถ้าเป็นคนจากจังหวัดอื่นๆ ต้องการมาเรียนกับเราเราก็ยินดีต้อนรับนะคะ แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องที่พัก เพราะเราไม่มีที่พักให้กับนักเรียนค่ะ ต้องหาที่พักเอง

หลังจากผลิตผู้ที่ศึกษาในทั้ง 7 รุ่นไปแล้ว โรงเรียนพบว่าผลผลิตทั้งหมดสามารถบรรลุสิ่งที่โรงเรียนตั้งเป้าประสงค์ไว้ได้มากน้อยเพียงใด
ณัชชารีย์ เรามีตัวชี้วัดสามตัวคือ มีความรู้หรือไม่ สามารถทำงานในชีวิตประจำวันได้จริงหรือไม่ และสามารถเอาชีวิตให้รอดได้หรือไม่ นักเรียนที่เรียนจบจากโรงเรียน
ชาวนาไม่มีใบประกาศนียบัตรใดๆ ที่จะนำไปใช้สมัครงานในหน่วยราชการหรือบริษัทห้างร้านเอกชนใดๆ แต่จะได้รับใบสำเร็จคนละใบ แต่โรงเรียนก็มั่นใจว่าตลอดระยะเวลาที่คุณเรียนกับเรานั้น คุณต้องมีวิชาติดตัวไปบ้าง ต้องมีความรู้ที่สามารถใช้ทำงานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดีและต้องเป็นนายของตัวเองได้ เราเน้นให้นักเรียนเป็นเจ้านายของตัวเอง หากพูดถึงตัวชี้วัดก็เน้นไปที่ อยู่รอด อยู่ได้ และอยู่ดี อยู่รอดคือรอดด้วยวิชาชีพ เช่นบางคนทำนามา 40 ปี แต่ยังยากจน ยังเป็นหนี้เป็นสิน ชีวิตของตนเองและคนในครอบครัวไม่มีความสุข เราก็สอนให้เข้าแก้ปัญหาตรงนี้ให้ได้ ต้องลดหนี้สิน ต้องมีความสุขในชีวิต ต้องวางแผนชีวิตได้ ส่วนอยู่ได้คือต้องวางแผนชีวิตให้ได้ ต้องอยู่ให้ได้ในทุกสภาวะ ต้องคิดได้ และคิดเป็น เช่นเมื่อเป็นเกษตรกร ก็ต้องทำการเกษตรโดยไม่ทำลายธรรมชาติ ไม่ทำร้ายตัวเองด้วย ต้องทำเกษตรแบบอินทรีย์ ต้องเพิ่มผลผลิตการเกษตรด้วยสิ่งที่เรามี โดยไม่ต้องใช้สารเคมีและสารพิษใดๆ ต้องลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ ต้องไม่ก่อหนี้ให้กับตนเองโดยไม่จำเป็น พูดง่ายๆ คือชีวิตต้องไม่มีหนี้สินรุงรังล้นพ้นตัว และข้อสุดท้ายคืออยู่ดี คืออยู่ด้วยความดี อยู่อย่างมีประโยชน์กับสังคม ต้องแบ่งปัน และต้องสามารถขยายความรู้ที่ได้เรียนไปให้กับสังคมด้วย โรงเรียนชาวนาเน้นกับตัวเองตลอดเวลาว่า เราคือศูนย์เรียนรู้ของชาวบ้าน เรามีศูนย์เรียนรู้กระจายไปทั้งหมด 120 แห่ง ซึ่งแต่ละแห่งมีนักเรียนของเราเป็นผู้ให้ความรู้ เช่นความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ เป็นต้น และเราคาดว่าจะขยายศูนย์เรียนรู้ให้ได้เพิ่มขึ้นอีก 150 ศูนย์ในปี 2563
.jpg)
ช่วยยกตัวอย่างว่าศูนย์เรียนรู้ทำอะไรบ้างครับ สอนอะไรบ้างครับ
ณัชชารีย์ เช่นการเปิดโลกทัศน์ด้านการเรียนรู้ในการทำอาชีพเกษตร ตัวอย่างคือ ศูนย์การเกษตรอินทรีย์โดยนักเรียนชาวนาเปิดบ้านเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ แล้วให้ผู้อื่นเข้าไปเรียนไปฝึก เมื่อมีผู้คนเข้าไปเรียนรู้แล้ว นักเรียนของเราก็สามารถเปิดบ้านของตนเองให้เป็น Home Stay ได้ คือสถานที่แห่งนั้นเป็นทั้งศูนย์เรียนรู้แหล่งดูงาน และมีบ้านพัก เช่นบางคนมีความรู้ด้านการทำปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักจากมูลวัวมูลควายและเศษวัชพืชและเศษอาหาร หรือให้ความรู้ด้านการเลี้ยงสัตว์ การแปรรูปผลผลิตการเกษตร ทั้งหมดนี้นอกจากให้ความรู้แล้ว ยังได้รับผลตอบแทนในด้านการเงินกลับมาด้วย คือมีรายได้นั่นเอง
พูดได้ไหมว่าโรงเรียนชาวนาช่วยเปลี่ยนชีวิตของนักเรียนให้ดีกว่าเดิม
ณัชชารีย์ ก็คงไม่ผิดที่จะพูดเช่นนั้นนะคะ เพราะโรงเรียนแห่งนี้เน้นในเรื่องธรรมะ และพุทธธรรม ผู้เรียนกับเราต้องปฏิบัติธรรมเป็นประจำ ต้องเป็นคนมีเมตตาธรรม เราเน้นให้โรงเรียนชาวนาเป็นที่สำหรับสร้างมิตรภาพ และร่วมกันสร้างความดีเพื่อส่วนรวม นักเรียนที่มาเรียนกับเราทุกคนมีความสุข มีความผูกพันระหว่างกัน ช่วยเหลือกัน หลายคนมาหาความรู้ และนำความรู้ที่มีมาแลกเปลี่ยนกันตลอดเวลา แรกๆ นั้น เขามาแบบยังไม่รู้จักกันมากนักแต่ผ่านไปไม่นาน เขาทั้งหมดเกิดความรู้สึกดีๆ ต่อกัน แบ่งปันกันในทุกสิ่ง เช่น แบ่งปันอาหารกันเอง บางคนยกหม้อข้าวหม้อแกงมาแบ่งให้เพื่อนได้กิน เวลาครอบครัวใดมีปัญหาก็ช่วยกัน ใครเจ็บใครป่วยก็ช่วยกันดูแล เวลามีงานศพก็ไปช่วยกัน เราทุกคนให้กำลังใจกันและกัน และเราก็ต้องกลุ่มอริยะสะสมทรัพย์ เพื่อช่วยเหลือกันและกันในด้านการเงินเมื่อยามจำเป็น ขออนุญาตประชาสัมพันธ์โรงเรียนชาวนานะคะ โรงเรียนจะรับสมัครนักเรียนรุ่นใหม่ในเดือนมีนาคม 2563 และจะเปิดสอนรุ่นใหม่ในเดือนพฤษภาคม 2563 ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้ทางเพจชื่อมหาวิชชาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์ หรือเพจชื่อโรงเรียนชาวนา
.jpg)
วันนี้ผมและคณะ ในนามตัวแทนของหนังสือพิมพ์แนวหน้า และคนอ่านแนวหน้ามามอบโคกระบือทั้งหมด 27 ตัวให้กับนักเรียนโรงเรียนชาวนา อยากเรียนถามผู้จัดการโรงเรียนชาวนาว่า จะดูแลและบริหารจัดการโคกระบือเหล่านี้อย่างไรเพื่อให้สามารถได้ประโยชน์สูงสุดสำหรับชุมชน
ณัชชารีย์ ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณหนังสือพิมพ์แนวหน้า และผู้ร่วมบริจาคเงินเพื่อโครงการไถ่ชีวิตโคกระบือกับแนวหน้าที่มอบสัตว์ทั้ง 27 ตัวให้กลุ่มของเราในวันนี้ หากพูดถึงความตั้งใจจริงของกลุ่มแล้ว เราทุกคนต้องการอนุรักษ์โคกระบือไว้ และพวกเราก็ไม่บริโภคเนื้อโคและกระบือด้วย กลุ่มเราต้องการให้สังคมลดการบริโภคเนื้อวัวและเนื้อควาย และเนื้อสัตว์ใหญ่ทุกชนิด กลุ่มของเราต้องการขยายพันธุ์วัวควายเพื่อนำมูลของพวกเขาไปใช้ในการเกษตรแบบอินทรีย์ และใช้เพื่อการผลิตก๊าซชีวมวลสำหรับชุมชน และเราก็ยังต้องการสอนให้ลูกหลานของเราในชุมชนมีความรักและเมตตาต่อวัวควาย เพราะเขาเป็นสัตว์ที่มีคุณต่อเรามาตั้งแต่โบราณ วัวควายที่ได้ในครั้งนี้จะถูกกระจายไปตามบ้านของสมาชิก แล้วแต่ละครอบครัวต้องดูแลเลี้ยงดูเขาให้ดี ไม่ฆ่าไม่ขายพวกเขาอย่างเด็ดขาดเวลาเขาตกลูกออกมา ก็ต้องเลี้ยงดูให้ดี แล้วสมาชิกสามารถนำวัวควายไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตรร่วมกันได้
ต่อจากนี้ไป เราจะพูดคุยกับนักเรียนโรงเรียนชาวนาที่รับวัวควายไปเลี้ยงดู ท่านแรกคือ ร.ต.ต.สุวิทย์ กาศอุดม ซึ่งเป็นนักเรียนโรงเรียนชาวนารุ่นที่ 7 ขอเรียนถามว่าเหตุใดจึงสมัครเข้าเรียนที่นี่ครับ
ร.ต.ต.สุวิทย์ เพราะเห็นว่าโรงเรียนนี้สอนด้านเรื่องการอยู่แบบพอเพียง สอนให้ช่วยเหลือกัน และสอนด้านการใช้ชีวิตแบบไม่ทำลายและทำร้ายโลกและทำร้ายเพื่อนมนุษย์ครับ
ปกติทำนาปลูกข้าวหรือทำไร่ทำสวนปลูกอะไรครับ
ร.ต.ต.สุวิทย์ ผมทำนาครับ ทำนา 5 ไร่ หลังจากเกษียณราชการแล้ว ผมกลับไปทำนา เพราะเป็นอาชีพดั้งเดิมของพ่อแม่ของผมครับ นอกจากทำนาแล้ว ผมก็ทำไร่ทำสวนด้วยครับ ทำแบบผสมผสานครับ คือปลูกข้าว และปลูกผักผลไม้ครับ
.jpg)
ใช้สารเคมีในการทำนาทำไร่ทำสวนไหมครับ
ร.ต.ต.สุวิทย์ ผมไม่ใช้สารเคมีเลยครับ ทุกอย่างปราศจากสารเคมี และไม่ใช้ปุ๋ยเคมีด้วยครับ
แล้วได้ผลผลิตดีไหมครับ
ร.ต.ต.สุวิทย์ ผลผลิตที่ได้ก็ดีนะครับ แบ่งขายได้บ้าง แจกจ่ายให้ญาติพี่น้องและเพื่อนๆ ได้บ้าง แล้วยังเหลือไว้กินอีกด้วยครับ
ขายมากกว่าแจกหรือแจกมากกว่าขายครับ
ร.ต.ต.สุวิทย์ แจกมากกว่าขายครับ เพราะรู้จักกันเกือบทั้งนั้น ขายกันไม่ลงครับ
วันนี้ได้รับกระบือไปเลี้ยงดู ตั้งใจจะนำเขาไปทำประโยชน์อะไรบ้างครับ
ร.ต.ต.สุวิทย์ ผมจะนำเขาไปเลี้ยงครับ ไม่ต้องการใช้งานหนักกับเขาเลยครับ อยากให้เขามีความสุข ผมคิดถึงสมัยที่ผมเป็นเด็กลูกชาวนา ที่บ้านผมมีควาย ผมเคยอยู่กับควายมาก่อน เคยเล่นกับเขา วันนี้ผมก็จะกลับไปอยู่กับควายอีกครับ ผมไม่ต้องการใช้งานเขาครับ อยากเลี้ยงเขาให้ดี เพราะเขาเคยช่วยพ่อแม่ผมปลูกข้าวมาก่อน

ถ้าควายที่ได้ไปตกลูกออกมาจะนำลูกเขาไปทำอะไรครับ
ร.ต.ต.สุวิทย์ เลี้ยงเขาต่อไปครับ ไม่ขายเขาอย่างแน่นอนครับ เวลาเขาตกลูก ผมก็ต้องแจ้งโรงเรียนชาวนาให้ทราบ เพื่อให้ทางโรงเรียนแจ้งกับผู้บริจาคให้ทราบก่อน แล้วถ้าผู้บริจาคต้องการให้ผมเลี้ยงดูเขาต่อไป ผมก็ยินดีเลี้ยงเขาครับ ผมรับรองว่าจะไม่ทำให้เขาต้องลำบาก ผมอยากให้เขามีชีวิตที่สุขสบายครับ ผมจะไม่เฆียนตีเขา ไม่ทำร้ายเขาไม่ใช้ความรุนแรงใดๆ กับเขาและอยากให้ทุกคนรักวัวรักควายด้วยครับ เมื่อเขาเจ็บป่วยก็ต้องรักษาเขาให้ดีที่สุดครับ และอยากให้คนเรารักสัตว์ทุกชนิดที่เป็นเพื่อนร่วมโลกของเราครับ เรารักชีวิตของเรา วัวควายและสัตว์ก็รักชีวิตของเขาไม่ต่างจากเราครับ
เราจะไปสนทนากับ คุณมณฑาทิพย์ จันทร์หล้าฟ้า นักเรียนชาวนาอีกรายที่ได้รับวัวควายไปเลี้ยงดู ขอเรียนถามว่าจะนำวัวควายที่ได้ในวันนี้ไปทำประโยชน์อะไรครับ
มณฑาทิพย์ ต้องการนำมูลวัวมูลควายไปทำปุ๋ยคอกเพื่อใช้ในการปลูกพืช กลุ่มของดิฉันทำการเกษตรแบบอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมีในการปลูกพืชทุกชนิด โรงเรียนชาวนาเน้นเรื่องการเกษตรอินทรีย์ ซึ่งตรงกับการทำงานของพวกดิฉันอยู่แล้ว ดังนั้นวัวและควายที่ได้รับมอบในวันนี้จึงจะช่วยให้กลุ่มดิฉันมีมูลวัวและควายมากขึ้น ที่ผ่านมานั้นกลุ่มของดิฉันเคยซื้อมูลวัวมูลควายเพื่อนำไปทำปุ๋ยคอก แต่ต้องเสียเงินเพื่อซื้อแพงมากนะคะ วันนี้เราได้วัวควายมาเพิ่มก็ทำให้เราลดการซื้อมูลวัวควายจากที่อื่นได้ค่ะ
ทำไมไม่ใช้ปุ๋ยเคมีครับ บางคนบอกว่าปุ๋ยเคมีให้ผลผลิตการเกษตรดีกว่าปุ๋ยคอก
มณฑาทิพย์ ปุ๋ยเคมีมีราคาแพง แล้วยังทำให้ดินที่เราใช้ปลูกพืชเสื่อมโทรมด้วย ดินที่ใช้ปุ๋ยเคมีจะแข็งกว่าดินที่ใช้ปุ๋ยคอก ดิฉันไม่ใช้ปุ๋ยเคมี เพราะเห็นจากเพื่อนบ้าน
ว่าปุ๋ยเคมีทำให้ดินเสื่อมโทรม แต่บ้านที่ใช้ปุ๋ยคอกนั้นมีดินดีกว่า และที่สำคัญคือเวลาเรารับประทานผักผลไม้ที่ใส่ปุ๋ยเคมีนั้น เราก็ได้รับสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกายเข้าไปด้วย แต่พืชผักผลไม้ที่ใช้ปุ๋ยคอกไม่มีอันตรายต่อตัวเราไม่มีสารเคมีสะสมด้วย

จะดูแลวัวควายที่ได้รับไปอย่างไรครับ
มณฑาทิพย์ ก่อนอื่นต้องขอบคุณหนังสือพิมพ์แนวหน้า และผู้ร่วมบริจาคทุกคนค่ะ ส่วนวัวควายที่ได้รับไปดูแลนั้น ดิฉันจะดูแลเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุด ดิฉันระลึกถึงบุญคุณของวัวควายตลอดเวลา เพราะเขาเคยช่วยพ่อแม่ปูย่าตายายของดิฉันปลูกข้าวเลี้ยงครอบครัวดิฉันมาก่อน และดิฉันก็อยากชวนให้คนไทยลดการกินเนื้อวัวเนื้อควายนะคะ ขอเน้นว่าวัวควายมีบุญคุณกับคนเรามาก เขาช่วยบรรพบุรุษของเราทำไร่ทำนามาก่อน อยากให้ทุกคนรักและเมตตาวัวควายมากๆ ค่ะ เขาเป็นสัตว์ใหญ่ที่มีคุณต่อเรา เขารักชีวิตของเขาไม่ต่างไปจากเรารักชีวิตของเรา อย่าเฆี่ยนตี อย่าฆ่าเขาเลยนะคะ
คุณสามารถพบรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความบันเทิง รายการ แนวหน้าวาไรตี้ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา16.00-16.25 น. ทางโทรทัศน์TNN2 ช่อง 784 ดิจิทัลทีวี หรือ True Visions 8และชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTube ผู้หญิงแนวหน้าby คุณแหน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี