สุนัขและแมวควรได้รับการขูดหินปูนหรือไม่

เมื่อพบว่าสุนัขและแมวมีหินปูน ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อให้สัตวแพทย์ช่วยประเมินว่าควรได้รับการขูดหินปูนแล้วหรือยัง หากสุนัขและแมวมีหินปูนมาก ควรได้รับการวางยาสลบและทำการขูดหินปูนเนื่องจากหากปล่อยไว้หินปูนจะเป็นแหล่งที่อยู่ของเชื้อโรคทำให้เกิดปัญหาเหงือกอักเสบ, โรคปริทนต์, กระดูกหักจากการติดเชื้อจากโรคปริทนต์ตามมาได้ และเมื่อเกิดขึ้นแล้ววิธีเดียวที่จะกำจัดหินปูนออกได้คือ การขูดหินปูน

การขูดหินปูนในสุนัขและแมวจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องวางยาสลบสุนัขและแมวเพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งต่อตัวสุนัขและแมวเอง และผู้ปฏิบัติงาน การวางแต่ยาซึมแล้วทำการขูดหินปูนอาจทำให้สัตว์เครียด หวาดกลัว ดิ้นรน จนทำให้ได้รับบาดเจ็บได้

ทำอย่างไรเมื่อต้องการให้สุนัขได้รับการขูดหินปูน

พาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกาย โดยสัตวแพทย์จะทำการตรวจร่างกายโดยทั่วไป และประเมินสภาพช่องปากของสุนัขอย่างคร่าวๆ ทำการเจาะเลือดเพื่อตรวจสุขภาพว่าสุนัขมีสุขภาพแข็งแรงเหมาะสมที่จะได้รับการวางยาสลบ และขูดหินปูน โดยเจ้าของสัตว์ต้องงดน้ำ 6 ชั่วโมง งดอาหารนาน 12 ชั่วโมง ก่อนเวลานัดเนื่องจากในการวางยาสลบจะทำให้สุนัขสูญเสียความสามารถในการไอ, กลืน หากมีอาหารอยู่ในกระเพาะ อาจเกิดการสำลักเข้าปอดทำให้เสียชีวิตได้ และในการวางยาสลบควรใช้ยาดมสลบในการทำให้สุนัขสลบตลอดการขูดหินปูนเนื่องจากยาดมสลบมีความปลอดภัยมากกว่ายาสลบชนิดฉีด เนื่องจากยาดมสลบอาศัยปอดในการกำจัดยาเป็นหลักทำให้ควบคุมระดับความตื้น, ลึก ของการสลบได้ดีกว่ายาสลบชนิดฉีดซึ่งโดยปกติจะถูกทำให้หมดฤทธิ์ที่ตับ ขับออกทางไต ซึ่งต้องพึ่งพาร่างกายของสัตว์มากกว่ายาดมสลบ และการสอดท่อช่วยหายใจแต่ต่อเข้ากับท่อนำยาสลบ และออกซิเจนยังเป็นการป้องกันไม่ให้มีละอองน้ำและละอองจากการขูดหินปูนกระเด็นเข้าหลอดลมอีกด้วย และเมื่อขูดหินปูนเสร็จแล้วควรทำการขัดฟันด้วยผงขัดฟันเพื่อลบรอยขีดข่วนที่เกิดจากเครื่องมือที่ใช้ในการขูดหินปูน เพื่อให้ผิวฟันเรียบ ลดการสะสมของคราบอาหารและจุลินทรีย์ที่ผิวฟันลงได้ โดยเมื่อคราบจุลินทรีย์ที่สะสมที่ผิวฟันชั่วระยะเวลาหนึ่งก็จะเกิดการตกตะกอนของแร่ธาตุในน้ำลายเกิดเป็นหินปูนขึ้น ในกรณีที่ฟันโยกมากสัตวแพทย์อาจทำการถอนฟันนั้นออก และทำการเย็บเหงือก และหากมีการถอนฟัน หรือเหงือกอักเสบมากสัตวแพทย์มักจะจ่ายยาปฏิชีวนะและยาลดอักเสบให้กินติดต่อกันประมาณ 1 สัปดาห์ ภายหลังถอนฟันแล้วควรให้สุนัขกินอาหารนิ่มประมาณ 2 สัปดาห์ และให้กินน้ำเยอะๆ หลังอาหารเพื่อลดปริมาณเศษอาหารที่จะติดตามปมไหม และภายหลังถอนฟัน 1 เดือนเจ้าของควรเริ่มหัดให้สุนัขยอมรับการแปรงฟัน และทำการแปรงฟันให้แก่สุนัขวันละ 1 ครั้ง ทุกวันไปจนตลอดชีวิต

เจ้าของจะช่วยดูแลสุขภาพช่องปากของสุนัขและแมวด้วยตนเองได้อย่างไรบ้าง

เจ้าของสามารถดูแลสุขภาพช่องปากสุนัขและแมวด้วยตนเองได้ โดยสามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่ การแปรงฟัน ให้สัตว์เลี้ยงกินอาหารที่มีความสามารถในการขัดฟัน กินอาหารว่างที่มีคุณสมบัติช่วยขัดฟัน ให้เล่นของเล่น ในกรณีที่สัตว์เลี้ยงมีอายุมากเจ้าของควรหมั่นสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นโดยควรเปิดปากสัตว์เลี้ยงดูเพื่อดูว่ามีก้อนเนื้องอกเกิดขึ้นหรือไม่ ควรทำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นควรรีบพาไปพบแพทย์

เจ้าของจำเป็นต้องแปรงฟันให้แก่สุนัขและแมวหรือไม่

เจ้าของควรทำการแปรงฟันให้แก่สุนัขและแมว เนื่องจากการแปรงฟันเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดคราบอาหาร และคราบจุลินทรีย์ที่มาสะสมบนฟัน ซึ่งคราบอาหาร และคราบจุลินทรีย์หากปล่อยทิ้งไว้จะเกิดการตกตะกอนของแร่ธาตุในน้ำลายกลายเป็นหินปูน โดยควรแปรงฟันวันละครั้ง

เมื่อไหร่จึงควรเริ่มหัดให้สุนัขและแมวยอมรับการแปรงฟัน

ควรเริ่มหัดให้สุนัขและแมวยอมรับการแปรงฟันตั้งแต่ยังเป็นลูกสัตว์ โดยเริ่มหัดแปรงฟันเมื่อลูกสุนัขมีฟันแท้ขึ้นครบหมดแล้ว (โดยปกติลูกสุนัขจะมีฟันแท้ขึ้นครบที่อายุประมาณ 6 เดือน) เพราะหากแปรงฟันในช่วงที่ผลัดฟันจะก่อให้เกิดความเจ็บปวดแก่ลูกสุนัข ลูกสุนัขจะไม่ชอบการแปรงฟัน ในสุนัขที่โตเต็มที่แล้วก็สามารถเริ่มหัดให้ยอมรับการแปรงฟันได้ โดยการหัดต้องเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป และเป็นไปในทางให้รางวัล กล่าวชม และต้องอาศัยความอดทนและความใจเย็นมากกว่าหัดเมื่อสุนัขยังเป็นลูกสุนัข

อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการแปรงฟันให้แก่สุนัขและแมวมีอะไรบ้าง

อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการแปรงฟันให้แก่สุนัขและแมวประกอบด้วย ยาสีฟัน และแปรงสีฟัน โดยยาสีฟันที่ใช้ควรเป็นยาสีฟันที่ผลิตขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับสุนัขและแมว เนื่องจากมีกลิ่น และรสที่สุนัขและแมวชื่นชอบ อาจมีส่วนช่วยทำให้สุนัขและแมวยอมรับการแปรงฟันได้ง่ายขึ้น และยาสีฟันสำหรับสุนัขและแมวบางชนิดยังผสมเอนไซม์ และสารตั้งต้นบางอย่างที่มีความสามารถในการจับตัวกับน้ำลายแล้วเกิดเป็นสารที่ออกฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรคภายในช่องปากสุนัขและแมว

สำหรับแปรงสีฟันนั้นควรใช้แปรงสีฟันที่ผลิตขึ้นเฉพาะสำหรับสุนัขและแมว ซึ่งมีขนอ่อนนุ่ม แปรงมีทั้งแบบที่มีด้ามจับยาว และแบบสวมนิ้ว สามารถเลือกใช้ได้ตามถนัด

ถ้าจะหัดให้สุนัขและแมวยอมรับการแปรงฟันต้องทำอย่างไรบ้าง

วิธีการฝึกให้สุนัขและแมวยอมรับการแปรงฟัน ประกอบด้วย

1.ฝึกให้สุนัขและแมวชินกับการมีสิ่งของอยู่ในปาก โดยเอานิ้วจุ่มน้ำซุปเนื้อสัตว์แล้วยื่นให้สุนัขและแมวเลีย แล้วนำนิ้วไปถูบริเวณเหงือกและฟันของสุนัขและแมวเบาๆ พร้อมกับกล่าวชมและให้รางวัล ทำเช่นนี้ประมาณ 2 สัปดาห์

2.พันผ้าก๊อซที่นิ้วแล้วจุ่มน้ำซุปเนื้อสัตว์ จากนั้นถูผ้าก๊อซรอบฟันพร้อมกับกล่าวชม และให้รางวัล ทำเช่นนี้ประมาณ 2 สัปดาห์

3.ฝึกให้สุนัขและแมวคุ้นเคยกับรสชาติของยาสีฟันให้แก่สุนัขและแมว โดยป้ายยาสีฟันลงบนนิ้วให้สุนัขและแมวเลีย จากนั้นป้ายยาสีฟันลงบนเหงือก และฟันของสุนัขและแมวพร้อมทั้งกล่าวชม และให้รางวัล ทำเช่นนี้ประมาณ 1-2 สัปดาห์

4.เริ่มแปรงฟันให้แก่สุนัขและแมว โดยเริ่มจากซี่ที่เข้าถึงง่าย เช่น ฟันตัด ฟันเขี้ยว แปรงโดยให้ขนแปรงทำมุม 45 องศา กับรอยต่อระหว่างเหงือก และฟัน พร้อมทั้งกล่าวชมสุนัขและแมวไปด้วย เมื่อสุนัขและแมวยอมรับการแปรงฟันแล้วจึงค่อยๆ เพิ่มจำนวนฟันที่จะแปรงในแต่ละครั้ง จนแปรงฟันได้ทั้งปาก

ในแต่ละขั้นตอนเจ้าของต้องอดทน ใจเย็น หมั่นกล่าวชมเชย และให้รางวัลแก่สุนัขและแมวทุกครั้ง เพื่อให้สุนัขและแมวชื่นชอบและไม่ต่อต้านการแปรงฟัน เจ้าของอาจจะเหนื่อยมากกว่าสุนัขและแมวจะยอมแปรงฟัน แต่เชื่อเถอะว่าผลดีที่ได้จากการแปรงฟันคุ้มค่ากับความเหนื่อยของคุณแน่นอน

เราสามารถให้สุนัขและแมวกินอาหารที่มีความสามารถในการขัดฟันได้ทุกช่วงชีวิตหรือไม่

อาหารที่มีความสามารถในการขัดฟันเป็นอาหารที่ผู้ผลิตให้มีขนาดใหญ่ มีเส้นใยสูง เมื่อสุนัขและแมวเคี้ยวอาหารเส้นใยเหล่านี้จะช่วยขัดฟันสุนัขและแมวทำให้คราบฟันหลุดออกขณะเคี้ยวอาหาร แต่อาหารดังกล่าวมีเส้นใยสูงจึงมีพลังงานต่ำ ทำให้ไม่เหมาะกับสุนัขและแมวเด็ก สุนัขและแมวตั้งท้อง สุนัขและแมวให้นม และสุนัขและแมวที่มีกิจกรรมสูง และอาหารดังกล่าวยังลดการสะสมของคราบฟันได้เฉพาะบริเวณของฟันที่มีการบดเคี้ยวเท่านั้น

มีข้อควรระวังในการให้อาหารว่างที่มีคุณสมบัติช่วยขัดฟันหรือไม่

อาหารว่างที่มีคุณสมบัติช่วยขัดฟัน มักเป็นอาหารที่มีความน่ากินสูง รสชาติอร่อย ให้พลังงานสูง ดังนั้นหากให้ปริมาณมากเกินไปอาจทำให้สุนัขและแมวอ้วนได้

เราจะเลือกของเล่นได้อย่างไรจึงจะเหมาะสม

การที่สุนัขกัดแทะของเล่นเป็นการลดการสะสมของคราบฟันอย่างหนึ่งแต่ของเล่นที่ให้แก่สุนัขไม่ควรแข็งเกินไป เนื่องจากหากของเล่นแข็งมากอาจทำให้ฟันของสุนัขแตกหรือหักได้ เวลาเลือกให้ลองเอาของเล่นตีที่หน้าแข้งของเรา ของเล่นที่แข็งแล้วทำให้หน้าแข้งของเราเจ็บ ก็มักจะมีความแข็งมากพอที่จะทำให้ฟันของสุนัขเกิดการแตกหักได้เวลาแทะของเล่นนั้น

โรคในช่องปากสุนัขและแมว ได้แก่ เหงือกอักเสบ โรคปริทนต์ ฝีรากฟัน สามารถป้องกันได้โดยการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอโดยเจ้าของ ซึ่งความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากให้แก่สุนัขและแมว และเริ่มต้นที่จะหันมาดูแลสุขภาพของปากสุนัขและแมวของตน เพื่อที่จะให้เพื่อนที่ดีที่สุดของเราใช้ชีวิตร่วมกับเราอย่างมีความสุขตราบจนสิ้นอายุขัย