เนื่องด้วยวิกฤติการแพร่ของโรคระบาดโควิด-19 ในประเทศไทยและทั่วโลก ทำให้มีผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเป็นจำนวนมากและมีแนวโน้มความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นโรคอุบัติใหม่ บุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งโรงพยาบาลและสถานพยาบาลที่มีจำกัดจึงไม่เพียงพอ ยิ่งกว่านั้นอุปกรณ์การแพทย์สำหรับโรคอุบัติใหม่นี้ยังขาดแคลนเป็นอย่างมาก
ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยบุคลากรทางการแพทย์และโรงพยาบาลอย่างเป็นรูปธรรม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดตั้งโครงการหุ่นยนต์และอุปกรณ์สนับสนุนการแพทย์ในสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 เพื่อสร้างหุ่นยนต์ และ อุปกรณ์สนับสนุนการแพทย์ในโรงพยาบาล ที่ทำงานได้จริง ใช้ง่าย สะดวก ทำความสะอาดเชื้อได้ง่าย งบประมาณต่ำ ไม่กินพื้นที่ทำงาน ไม่เสียเวลาการติดตั้งมากนัก และควรเป็นระบบที่คุ้นเคยและเรียนรู้ได้ง่าย โดย ทีมงานจึงเลือกนำอุปกรณ์ที่ต้องใช้อยู่แล้วในโรงพยาบาล คือ รถเข็น ส่งอาหารผู้ป่วยมาปรับระบบการควบคุมการเคลื่อนที่ระยะไกลได้ นั่นคือที่มาของหุ่นยนต์ “Pinto” ปิ่นโตQuarantine Delivery robot พร้อมระบบสื่อสารดูแลผู้ป่วยระยะไกลกับแพทย์และพยาบาล Quarantine Tele-presence ได้โดยเป้าผลิตจำนวน 100 ชุด เพื่อมอบให้โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ
ในการนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขอพระราชทานน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายหุ่นยนต์ปิ่นโตแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อพระราชทานให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ตามพระราชอัธยาศัย จำนวน 20 ตัว ที่ยังคงอยู่ระหว่างการดำเนินการผลิต แต่โดยทั้งนี้ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงได้ขอพระราชทานหุ่นยนต์ปิ่นโตจำนวน 1 ตัว สร้างเสร็จเรียบร้อยพร้อมใช้งานแล้ว เพื่อนำไปติดตั้งที่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย เมื่อวันศุกร์ที่ 3 เมษายน 2563
ศ.ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ และ รศ.ดร.วิทยาวัณณสุโภประสิทธิ์ ผู้อำนวยการ International
School of Engineering และหัวหน้าทีมงานโครงการหุ่นยนต์และอุปกรณ์สนับสนุนการแพทย์ในสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 หรือทีม CURoboCovid โดยทีมงานประกอบด้วย กลุ่มคณาจารย์ ดร.สุรัฐ ขวัญเมืองจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และกลุ่ม Startup ของศิษย์เก่าคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ คือ บริษัท HG Robotics และ Obodroid. ได้เปิดเผยว่า
ทีมงานได้นำหุ่นยนต์ปิ่นโตไปทำการทดสอบการใช้งานจริงแล้วที่โรงพยาบาลหลายโรงแล้วตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมและในวันที่ 29 มีนาคม 2563 หุ่นยนต์ “Pinto” Quarantine Delivery Robot พร้อมระบบสื่อสารทางไกล Quarantine Tele Presence ติดตั้งที่แผนกฉุกเฉิน โรงพยาบาลรามาธิบดีและได้ผลลัพธ์ของประสิทธิภาพการใช้งานและความพึงพอต่อในการใช้งานของบุคลากรทางการแพทย์นั้นเป็นอย่างดี
ถือได้ว่า หุ่นยนต์ “Pinto” ตัวนี้ค่อนข้างเป็นคำตอบที่ถูกใจและตรงใจในการช่วยในการปัญหาของเหล่าบุคลากรทางแพทย์ในการรับมือกับสถานการณ์วิกฤตินี้ ซึ่งหุ่นยนต์ปิ่นโตนี้ที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก ทำให้สามารถเคลื่อนที่รอบตัวคนไข้บนเตียงได้ดูแลทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคได้ง่าย ไม่สะสมให้เป็นแหล่งเพาะเชื้อแพร่ต่อไปได้อีกที่สำคัญอีกหนึ่งประเด็น คือ ไม่จำเป็นต้องทำการติดตั้งเครื่องมือหรือโครงสร้างอื่นใดเพิ่มเติมเพื่อที่จะใช้งานหุ่นยนต์นี้ จึงทำให้แพทย์และพยาบาลสามารถใช้งานได้ทันที จะช่วยทำให้สามารถปฏิบัติงานดูแลรักษาผู้ป่วยได้จากระยะไกลโดยไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าไปใกล้กับผู้ป่วย ช่วยลดความเสี่ยงของแพทย์และพยาบาล รวมถึงยังช่วยลดการใช้งานของชุดป้องกันตนเองที่ถึงว่าเป็นสิ่งขาดแคลนอยู่ในขณะปัจจุบันนี้
ทั้งนี้ ทางทีมเราได้ดำเนินการติดตั้งและใช้งานที่โรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คือ โรงพยาบาลรามาธิบดี แผนกฉุกเฉิน หุ่นยนต์ปิ่นโต 1 ตัวและ Quarantine Telepresence จำนวน 6 เครื่อง และที่โรงพยาบาลจักรีนฤบดินทร์ติดตั้งระบบ Quarantine Telepresence จำนวน 17 เครื่อง ก่อนที่จะดำเนินการติดตั้งให้โรงพยาบาลอื่นๆ ต่อไป
นอกจากนี้แล้วทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยังมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและผลิตอุปกรณ์สนับสนุนการแพทย์ที่มีความจำเป็นสำหรับการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโรคระบาดโควิด-19 เช่นเครื่องทดแทนเครื่องช่วยหายใจ เป็นต้น เพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของบุคลากรทางการแพทย์ในสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี