ถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงการการโรงแรมและการท่องเที่ยว ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้งโรงแรมดุสิตธานี ถึงแก่อนิจกรรมในวัย 99 ปี เมื่อเย็นของวันอาทิตย์ที่3 พฤษภาคม 2563 การนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ณ ศาลา100 ปี ปิยมหาราชอนุสรณ์ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม และพระราชทานพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม รวม 3 คืน โดยในพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม มี พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ประธานองคมนตรี, อาสา สารสิน อดีตราชเลขาธิการ, ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา, พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี, คณะผู้บริหาร บริษัท เอ็ม บี เคจำกัด (มหาชน), บันเทิง ตันติวิท, ศุภเดชพูนพิพัฒน์, ผาณิต พูนศิริวงศ์, สุเวทย์ธีรวชิรกุล และ อภิชาต รมยะรูป จากธนาคารกรุงเทพ, คณะกรรมการโอสถสภา, คณะกรรมการโรงพยาบาลสุขุมวิท ร่วมในพิธี โดยมี บุตรชาย-บุตรสาว ชนินทธ์-วิภาดา โทณวณิก, สินีเธียรประสิทธิ์, สุนงค์-พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ขอบพระคุณแขกที่มา
ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้งโรงแรมดุสิตธานี ที่ถือเป็นโรงแรมห้าดาวแห่งแรกของไทยสัญลักษณ์แลนด์มาร์ค หัวมุมถนนสีลม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรื้อถอนเพื่อสร้างโครงการมิกซ์ยูสที่ทันสมัย มูลค่า 3.6 หมื่นล้านบาทที่จะเปิดบริการอีกครั้งใน 3 ปีข้างหน้า
ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการโรงแรมที่โดดเด่นในประเทศไทย ด้วยปณิธานที่มุ่งมั่นในการสร้างโรงแรมของคนไทยให้มีคุณภาพดีทัดเทียมกับโรงแรมในต่างประเทศที่ท่านเคยสัมผัส แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความเป็นไทย ไม่ว่าจะเป็นชื่อของโรงแรม หรือบุคลากรที่นำเอาเสน่ห์ของวัฒนธรรมไทยมาเผยแพร่ด้วย ซึ่งผลงานของท่านมีส่วนช่วยวางรากฐานด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญแก่ประเทศไทยในปัจจุบัน ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ตกหลุมรักอุตสาหกรรมโรงแรมเมื่อท่านเดินทางไปมหานครนิวยอร์กในปี 2489 โดยมีความตั้งใจที่จะเดินทางไปศึกษาต่อด้านกฎหมาย แต่เมื่อท่านได้มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมชมโรงแรมต่างๆ ในนิวยอร์ก ท่านก็ได้ค้นพบความชอบของตัวเอง และตัดสินใจเดินทางกลับมาเมืองไทยในปี 2490 พร้อมแรงบันดาลใจที่จะสร้างโรงแรมหรูในไทยให้เทียบเท่าโรงแรมระดับสากลขึ้น ซึ่งในสมัยนั้น สังคมไทยมีการปกครองโดยผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ และอุตสาหกรรมการโรงแรมแทบไม่มีคนรู้จัก แต่ท่านมุ่งมั่นและทำการเปิดโรงแรมหรูแห่งแรกจนสำเร็จ ด้วยวัยเพียง 26 ปี
ในปี 2492 ท่านผู้หญิงชนัตถ์ เปิดโรงแรมปริ๊นเซสเป็นแห่งแรกขึ้นที่ถนนเจริญกรุง ซึ่งเป็นโรงแรมใจกลางเมืองแห่งแรกๆ ที่มีสระว่ายน้ำ ลิฟต์ และเครื่องปรับอากาศ โดยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด
ท่านผู้หญิงชนัตถ์ เล็งเห็นว่าการต้อนรับแบบไทยมีเอกลักษณ์และสามารถช่วยในการพัฒนาประเทศไทยโดยรวมได้ และยังช่วยเป็นตัวแทนในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยให้คนทั่วโลกได้รู้จัก ดังนั้นต่อมาในปี 2513 ท่านจึงได้ลงทุนเปิดโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ที่รูปแบบอาคารมีความสวยงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ด้วยการผสมผสานเอาความเป็นไทยกับความเป็นสากลได้อย่างลงตัว จนได้รับการยกย่องว่าเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว อันหรูหราแห่งแรกๆ ของประเทศไทย และยังติดอันดับเป็นอาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทยในเวลาอีกหลายปีต่อมาหลังจากเปิดให้บริการ
จากความสำเร็จของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ได้ทำการพัฒนาธุรกิจด้วยการเปิดตัวโรงแรมระดับ 5 ดาวที่มีจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมทั้งยังเป็นบุคคลแรกที่ก่อตั้งโรงเรียนการโรงแรม เพื่อพัฒนาบุคลากรในสาขานี้ขึ้นในประเทศไทยในปี 2536 ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น วิทยาลัยดุสิตธานี สถาบันการศึกษาด้านการโรงแรมและบริหารการท่องเที่ยว รวมถึงยังดึงสถาบันสอนศิลปะการทำอาหารที่มีชื่อเสียงระดับโลก อย่างสถาบัน เลอ กอร์ดอง เบลอ ของประเทศฝรั่งเศส เข้ามาร่วมเปิดโรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ในปี 2550
ด้วยความอุทิศตนในการพัฒนาการท่องเที่ยวและการศึกษาของไทย ท่านผู้หญิงชนัตถ์ จึงได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.) มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.) และประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.) จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ โดยได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็น “ท่านผู้หญิง” เมื่อวันที่5 พฤษภาคม 2543 ล่าสุด ในวัย 97 ปี
ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ “SHTM Lifetime Achievement Award”จาก The Hong Kong Polytechnic Universityสถาบันการศึกษาด้านการท่องเที่ยวและโรงแรมชั้นนำของโลก เมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่บุคคลที่มีความโดดเด่นด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวและการโรงแรมทั้งในฮ่องกง ระดับภูมิภาคและทั่วโลก การจากไปในครั้งนี้นับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงการการโรงแรม หญิงเหล็กผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และเป็นบุคคลสำคัญท่านหนึ่งในสังคมไทย คุณงามความดีของท่านจะจารึกในประวัติศาสตร์
สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Sasin School of Management) ร่วมกับ ซีพีเอฟ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น และ เทสโก้ โลตัส ร่วมแสดงความยินดีกับทีมผู้ชนะโครงการ Business Triathlon 2020 by Sasin การแข่งขันการเรียนรู้เชิงปฏิบัติจริงที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาปริญญาตรีจากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ร่วมแก้ไขโจทย์จากกรณีศึกษาทางธุรกิจจริงและนำเสนอแผนกลยุทธ์ที่เหมาะสมตลอดระยะเวลา 1 เดือน
การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศได้ถูกจัดขึ้นผ่านการถ่ายทอดสดทาง Facebook เมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา โดยนักศึกษาจะต้องนำเสนอแผนธุรกิจโครงการนำร่องให้กับผู้บริหารของแต่ละบริษัท ดังนี้ ชัยยุทธทิพย์สุวรรณพร รองกรรมการผู้จัด การอาวุโสด้าน Retail, พจน์ สกุลถาวร รองกรรมการผู้จัดการด้าน Commercial และ กฤษฎิ์คงธนดารากร รองกรรมการผู้จัดการด้าน TalentAttraction and Acquisition จากซีพีเอฟ,ชลวิทย์ สุขอุดม ผู้อำนวยการกลุ่มบริหารองค์ความรู้และส่ง เสริมสังคม บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด, ไพศาล จิตรีการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส คอมพานี (1933) จำกัดและ วรภัทร ชวนะนิกุล ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด จากสิงห์คอร์เปอเรชั่น รวมถึงคณะผู้บริหารจากเทสโก้ โลตัส
ภายหลังจากการนำเสนอผลงานกันอย่างเข้มข้น ทีมที่ชนะเลิศภายใต้โจทย์การแข่งขันจากซีพีเอฟ ได้แก่ทีม Strikers จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ทีมชนะเลิศ ภายใต้โจทย์การแข่งขันจากสิงห์ คอร์เปอเรชั่น ได้แก่ ทีม Prestige Co. จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และทีมชนะเลิศภายใต้โจทย์การแข่งขันจากเทสโก้โลตัส ได้แก่ ทีม Benthree จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ ทั้งนี้ ทีมรองชนะเลิศอันดับ 1 และรองชนะเลิศอันดับ 2 ภายใต้โจทย์การแข่งขันจากซีพีเอฟ ได้แก่ ทีม Extremaจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ทีม CAPE จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากการแข่งขันของสิงห์ คอร์เปอเรชั่น ได้แก่ ทีม DumplingConsulting จากจุฬาฯ และ ทีม No Brand จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และการแข่งขันของเทสโก้ โลตัส ได้แก่ ทีม Marmalade จากจุฬาฯ และ ทีม Acestasy จากจุฬาฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี