“ชีวิตที่ไม่เคยหยุดเรียนรู้” เปิดประวัติ พ.ต.ท.ดร.ปุริมพัฒน์ ธนาพันธ์สิริ กับบทบาทใหม่ในฐานะอาจารย์พิเศษ
พ.ต.ท.ดร.ปุริมพัฒน์ ธนาพันธ์สิริ ตำแหน่ง นายเวรผู้บัญชาการยุทธศาสตร์ตำรวจ จบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 59 จบปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ และปริญญาเอกสาขารัฐประศาสนศาสตร์ ผู้ที่โดดเด่น น่าจับตามองทั้งในสายงานตำรวจที่มากความสามารถทางด้านการสืบสวนปราบปรามอาชญากรรม และการบริหารงานเรียกได้ว่าครบเครื่อง และอนาคตไกลเลยทีเดียว ที่ช่วงนี้ผันตัวจากมือปราบสู่วงการวิชาการ รับบทเป็นอาจารย์พิเศษประจำมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เส้นทางชีวิตจะเป็นมาอย่างไรทางเราจะมาเล่าให้ฟัง
อะไรที่ทำให้ตัดสินใจให้มาเป็นตำรวจ?
ผมเชื่อว่า ตำรวจ เป็นความใฝ่ฝันในวัยเด็กของคนหลายๆคน ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2543 หลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง หลายอาชีพที่เคยรุ่งเรืองกลับต้องตกงาน อาชีพราชการเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มั่นคงและสามารถดูแลครอบครัวได้ แล้วราชการไหนล่ะที่สามารถดูแลครอบครัวของเราไปพร้อมกับ ดูแลผู้อื่นได้ด้วย ตำรวจจึงเป็นคำตอบของผมในขณะนั้น จากผู้สมัครทั่วประเทศกว่า 30,000 คนสามารถเข้าศึกษาในโรงเรียนนายร้อยตำรวจได้เพียง 250 คนเท่านั้น ถือว่าก้าวแรกของการแข่งขันนั้นไม่ง่ายเลยทีเดียวต้องผ่านการทดสอบทั้งความรู้ความสามารถ สภาพร่างกาย และสภาพจิตใจอีกหลายขั้นตอนเลยก็ว่าได้และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ผมได้เริ่มอาชีพที่ผมรัก
แอบรู้มาว่านอกจากความสามารถด้านการสืบสวน ปราบปรามอาชญากรรมแล้ว ส่วนตัวยังสนใจเรื่องธุรกิจอีกด้วย?
ใช่ครับ เพราะครอบครัวผมทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ตและส่วนตัวเองก็สนใจด้านอสังหาริมทรัพย์ และการเงินเป็นพิเศษอีกด้วย ผมชอบศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ รู้สึกว่าโลกมันเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก ถ้าเราไม่ปรับตัวไม่คอยหาความรู้เพิ่มเติม ก็จะไม่ทันโลก แต่ด้วยงานราชการที่ค่อนข้างแน่น ผมจึงเลือกหาความรู้ใหม่ๆทางออนไลน์ และลงเรียนคอร์สระยะสั้น ที่มีโอกาสได้พบกับบุคคลหลากหลายอาชีพ ทั้งราชการ และนักธุรกิจ ที่ประสบความสำเร็จหลายด้านตลอดจนได้มีการพูดคุยและแลกเปลี่ยนมุมมอง นั่นเองเป็นวิธีที่ทำให้ผมได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ต่างๆ
อะไรทำให้ตัดสินใจมารับบทบาทอาจารย์เพิ่มเติม?
เมื่อได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ให้ไปสอนที่มหาวิทยาลัย ทำให้ความฝันของผมที่จะได้แบ่งปันความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ที่มี ให้กับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการพัฒนาตนเองและพัฒนาประเทศ ผมรู้สึกยินดีมากครับ ที่ได้รับบทบาทนี้และจะทำให้เต็มที่แม้ตารางเวลาค่อนข้างแน่นทั้งงานราชการ และงานที่ปรึกษาบริษัทเอกชนหลายแห่ง แต่เมื่อโอกาสมาถึงผมไม่เคยปล่อยให้มันผ่านไปครับ และจะทำให้ดีที่สุด
อยากจะฝากอะไรถึงคนรุ่นใหม่
อาชีพตำรวจเป็นอาชีพที่ผมรักและภาคภูมิใจเป็นอาชีพที่ใกล้ชิดกับประชาชน บางครั้งก็น่าน้อยใจเพราะมีประชาชนบางส่วนที่มองอาชีพของเราในแง่ร้าย ก็เหมือนกับทุกอาชีพแหละครับมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ผมใช้เวลาอย่างเต็มที่ในอาชีพตำรวจ และหลังจากเลิกงานก็จะให้เวลากับการศึกษาและพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
เพราะยุคนี้ความรู้ไม่ได้อยู่แค่ในห้องเรียนและความรู้ในใบปริญญาก็ไม่เพียงพออีกต่อไป
ต้องขอบคุณครอบครัวครับที่เข้าใจ เราจึงสามารถทำสิ่งที่เราชอบได้หลายอย่าง ผมขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่มีความฝัน และทำมันให้ได้ ถึงแม้หนทางจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ถ้าเราได้ทำในสิ่งที่เรารัก เวลาเจออุปสรรคเราจะฝ่าฟันมันไปได้ด้วยความสุขครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี