ดิฉันในฐานะบุคคลในราชสกุลอาภากรก็ปลื้มใจที่คนไทยจำนวนไม่น้อยยังระลึกถึงกรมหลวงชุมพรฯ เสมอมา แล้วก็พยายามยึดแบบอย่างของพระองค์ท่านเป็นแนวทางดำเนินชีวิตมาโดยตลอด อะไรที่ช่วยเหลือสังคมได้ก็จะทำทันทีโดยไม่รีรอ
รายการแนวหน้าวาไรตี้สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย พาคุณไปสนทนากับ หม่อมราชวงศ์ จิยากร อาภากร เสสะเวช ประธานมูลนิธิราชสกุลอาภากร เนื่องในวันอาภากร วันที่ 19 พฤษภาคม โดยไปสนทนากับท่านที่วิหารน้อยของราชสกุลอาภากรและสุริยง ณ สุสานหลวงจุฬาลงกรณ์ราชสันตติวงศ์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
l กราบเรียนถามความสำคัญของวันอาภากรครับ
ม.ร.ว.จิยากร วันอาภากรคือวันที่ระลึกถึงวันสิ้นพระชนม์ของ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระนามเดิมคือ พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ ต้นราชสกุลอาภากร ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกรมหลวงชุมพรฯ สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่19 พฤษภาคม 2466 ดังนั้นทหารเรือไทยจึงจัดงานวันอาภากรเพื่อเทิดพระเกียรติพระองค์ในฐานะพระบิดาแห่งกองทัพเรือไทยเพราะท่านทรงมีคุณูปการมากมายกับความเจริญก้าวหน้าของกองทัพเรือไทย หลังจากทรงสำเร็จการศึกษาด้านทหารเรือจากอังกฤษเมื่อประมาณ 120 ปีมาแล้ว ทรงกลับมารับราชการและพัฒนากองทัพเรือไทยให้มีความเจริญก้าวหน้า สามารถยืนอยู่บนลำแข้งของคนไทยได้มากกว่าเดิม ทรงวางรากฐานด้านวิชาการทหารเรือให้ทันสมัยด้วยการสอนนักเรียนทหารเรือของไทยให้สามารถทำได้ด้วยตนเอง เช่น การเดินเรือแบบสากล การวัดแดด ซึ่งสมัยก่อนเราพึงพาต่างชาติเป็นส่วนมาก และทรงกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อขอพระบรมราชานุญาตจัดตั้งหน่วยทหารเรือที่สัตหีบ เพราะทรงเห็นว่ามีชัยภูมิเหมาะสมดังนั้น สัตหีบจึงได้ชื่อว่าเป็นเมืองของทหารเรือซึ่งปัจจุบันสัตหีบเจริญมาก ซึ่งก็แสดงให้เห็นถึงพระวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลของพระองค์ท่านดังนั้นทหารเรือจึงถือเอาวันสิ้นพระชนม์เป็นวันอาภากร แล้วทุกหน่วยของทหารเรือก็ทำพิธีเพื่ออุทิศถวายพระองค์เสมอมาทุกปี ส่วนบุคคลในราชสกุลอาภากรก็ทำบุญอุทิศถวายพระองค์ท่าน ณ วิหารน้อยแห่งนี้ค่ะโดยเปิดให้ประชาชนและหน่วยงานต่างๆ เข้ามาถวายสักการะพระองค์ท่าน ณ วิหารน้อยด้วย ซึ่งก็มีผู้คนมากมายเข้ามากราบถวายสักการะ ดิฉันเห็นแล้วก็ปลื้มใจมาก เพราะคนไทยยังระลึกถึงคุณความดีของพระองค์ท่าน แม้ท่านจะสิ้นพระชนม์ไปเกือบ 100 ปีแล้วก็ตาม ส่วนทหารเรือไทยก็ยังระลึกถึงพระองค์ท่านเสมอมา ดังจะเห็นได้ว่าทุกหน่วยงานของกองทัพเรือยังคงนำเพลงพระนิพนธ์เดินหน้า ของพระองค์ท่านไปเปิดเป็นเพลงประจำของกองทัพเรือ
l แต่เท่าที่ผมพบก็คือ คนอื่นๆ แม้ไม่ใช่ทหารเรือก็ยังจัดงานที่ระลึกถึงวันอาภากรด้วยนะครับ แสดงว่าคนไทยจำนวนมากยังรักและระลึกถึงกรมหลวงชุมพรฯ ซึ่งคนไทยจำนวนมากถวายพระนามกรมหลวงชุมพรฯ ว่าเสด็จเตี่ย
ม.ร.ว.จิยากร ดีใจค่ะ ดีใจที่ได้ยินเรื่องดีๆ เช่นนี้ และดีใจมากที่เวลาไปยังที่ต่างๆ จังหวัดต่างๆ แล้วได้เห็นศาลของกรมหลวงชุมพรฯ แสดงว่าท่านยังทรงอยู่ในความทรงจำดีๆ ของประชาชน ประชาชนอาจจะเห็นว่าท่านทรงเป็นที่พึ่งทางใจในยามทุกข์ร้อนได้ ก็จึงสร้างศาลกรมหลวงชุมพรฯไว้ตามที่ต่างๆ มากมาย หลายคนบอกดิฉันว่าเวลามีความทุกข์ก็ไปกราบท่าน กราบแล้วสบายใจ บางคนบอกว่าเวลามีทุกข์ร้อนก็ไปขอให้ท่านช่วย ท่านก็ทรงช่วย ดังนั้นในตอนนี้จึงมีศาลกรมหลวงชุมพรฯ เกือบ 300 แห่งทั่วประเทศไทย เพราะคนไทยทุกอาชีพยังคงรักและระลึกถึงพระองค์ท่าน
l ผมขออนุญาตเรียนถามความสำคัญและประวัติของวิหารน้อย แห่งราชสกุลอาภากร และสุริยงด้วยครับ
ม.ร.ว.จิยากร ตามหลักฐานพบว่าวิหารน้อยสร้างมาตั้งแต่รัชสมัยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 อายุก็เกินกว่า 130 ปีแล้วค่ะ รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในเขตวัดราชบพิธฯ ในสวนด้านหลังของวัด เพราะทรงปรารถนาให้ผู้ที่พระองค์ทรงสนิทเสน่หา อาทิ พระมเหสีเจ้าจอมมารดา พระราชโอรส พระราชธิดาในสายของพระองค์ท่านเมื่อเสด็จทิวงคตหรือสิ้นพระชนม์ สิ้นชีพิตักษัย พิราลัย หรือพูดง่ายๆ คือลาจากโลกนี้ไปแล้วจะได้อยู่ร่วมกันในสุสานหลวงแห่งนี้ โดยทั้งหมดมี15 มหาสาขา ซึ่งในสุสานหลวงแห่งนี้จะมีอนุสรณ์สำคัญที่มีศิลปะการก่อสร้างที่งดงามแตกต่างกันไปตามพระราชฐานันดรศักดิ์ ส่วนวิหารน้อยแห่งนี้สร้างด้วยศิลปะแบบโกธิคผสมคลาสสิก สำหรับคุณที่สนใจประวัติวิหารน้อยสามารถหาซื้อหนังสือการบูรณะวิหารน้อย สุสานหลวงวัดราชบพิธฯ ไปอ่านได้ เพื่อจะได้ทราบประวัติโดยละเอียด และทราบประวัติการบูรณะด้วย การบูรณะครั้งล่าสุดสำเร็จจนออกมางดงามดั่งที่เห็นนี้ โดยเฉพาะกระจกสีที่นำมาบูรณะก็ต้องค้นหาแหล่งผลิตในเมืองไทย จนไปพบที่เชียงใหม่ ผนังอาคารก็ซ่อมบำรุงโดยไล่ความชื้นออกแล้วทำใหม่ให้เหมือนของเดิมมากที่สุด กระเบื้องหินอ่อนที่ปูพื้นเป็นของเก่าทั้งหมดในยุคเดิม เราทำความสะอาดขัดล้างใหม่ ทหารเรือเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณซ่อมบำรุง ดิฉันเป็นแม่งานดูแลการซ่อมบำรุง ดิฉันไปขออนุญาตสำนักพระราชวัง และจากสมเด็จพระสังฆราชก่อนเข้ามาบูรณะ เพราะอยู่ในเขตวัดราชบพิธฯและติดต่อกับกรมศิลปากรให้เข้ามาร่วมมือช่วยกันทุกขั้นตอน เมื่อบูรณะเสร็จสมบูรณ์ก็ปลื้มใจมาก บูรณะแล้วงดงาม น่าจะอยู่ในสภาพดีแบบนี้ไปได้อีกอย่างน้อย 50 ปี ส่วนราชสกุลสุริยงมีต้นราชสกุลคือ มหาอำมาตย์ตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นไชยาศรีสุริโยภาสพระนามเดิม พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าสุริยงประยุรพันธุ์ พระราชโอรสในรัชกาลที่ 5ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาโหมด ทรงมีพระเชษฐาร่วมเจ้าจอมมารดา คือ พระเจ้าลูกยาเธอ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
l ในแต่ละปีทางราชสกุลอาภากรเปิดวิหารน้อยในโอกาสใดบ้างครับ
ม.ร.ว.จิยากร เปิดในวันอาภากรทุกปีค่ะ และตั้งใจจะเปิดในอีกโอกาสหนึ่งวันประสูติของกรมหลวงชุมพรฯ คือ19 ธันวาคม แต่ก็อาจจะมีการเปิดในโอกาสพิเศษอื่นๆ เช่น การเสวนาวิชาการเกี่ยวกับราชสกุลอาภากร เป็นต้น
l สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ผมเห็นในวิหารน้อยคือ พระพุทธรูปประทับยืนห้าพระองค์ และพระพุทธรูปประทับนั่งขอความกรุณาพี่หญิงเล่ารายละเอียดคร่าวๆ ให้ฟังด้วยครับ
ม.ร.ว.จิยากร พระพุทธรูปประทับนั่งองค์ที่เป็นประธานอยู่ใกล้กับพระรูปหล่อของกรมหลวงชุมพรฯ ถูกสร้างขึ้นใหม่ เพราะของเดิมถูกโจรกรรมไป ของเดิมเป็นองค์ที่เจ้าคุณพระประยุรวงศ์ หรือเจ้าจอมมารดาแพสร้างไว้ องค์ใหม่นี้สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ท่านให้ทำขึ้นใหม่ โดยจำลองพระอังคีรสในพระอุโบสถวัดราชบพิธฯ โดยมีขนาดย่อมกว่า ส่วนอีก 5 องค์ ที่อยู่คนละด้านกันของอาคารนั้น องค์กลางที่อยู่สูงสุด คือพระพุทธรูปเจ้าจอมมารดาแพ (ปางห้ามญาติ) ขนาดองค์เท่ากับร่างของเจ้าจอมมารดาแพ ส่วนองค์ทางซ้ายเป็นปางห้ามสมุทร องค์ทางขวาปางรำพึง องค์ด้านล่างอีกสององค์เป็นปางห้ามสมุทรเหมือนกัน แต่สององค์ล่างจะพิเศษมาก ตรงที่จีวรงามมาก ทำเป็นลายดอกพิกุลห่มเฉียงปิดอังสาขวา เจ้าจอมมารดาแพคือพระสนมเอกในรัชกาลที่ 5
ดังนั้นวิหารน้อยจึงสร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่ต่างจากพระอนุสรณ์สถานของสมเด็จพระบรมราชินี ซึ่งเป็นไปตามพระราชฐานันดรศักดิ์ของแต่ละพระองค์ ขอเล่าให้ฟังถึงพระพุทธรูปทั้ง 5 องค์ ต่ออีกนิดค่ะ เมื่อเข้ามาบูรณะวิหารน้อยเราก็ต้องบูรณะพระพุทธรูปด้วย เพราะทรุดโทรมมาก จึงลอกเอาทองของเดิมออกแล้วนำเข้าพิธีพุทธาภิเษก ทำเป็นเหรียญสองด้าน ด้านหนึ่งคือกรมหลวงชุมพรฯ อีกด้านคือพระอังคีรส เหรียญทำเป็นรูปใบโพธิ์ ทำขึ้นเพื่อหาเงินสมทบทุนมูลนิธิราชสกุลอาภากร หากมีผู้สนใจ โปรดติดต่อที่มูลนิธิราชสกุลอาภากรโทรศัพท์ 02-4682696, 096-9514895,084-6425577 แต่ของมีจำนวนจำกัดค่ะส่วนพระรูปหล่อของกรมหลวงชุมพรฯ ทรงชุดทหารเรือ และรูปหล่อหมอพร ที่มูลนิธิฯ ทำขึ้นเพื่อระดมทุนซื้อเครื่องมือแพทย์ให้กรมแพทย์ทหารเรือนั้นยังคงมีเหลืออยู่อีกเล็กน้อย หากสนใจก็ติดต่อสอบถามที่ได้ที่มูลนิธิฯ เช่นกันค่ะ และในโอกาสที่ปีนี้ เป็นปีที่ครบ 120 ปี ของการที่กรมหลวงชุมพรฯเสด็จกลับจากอังกฤษมารับราชการในกองทัพเรือไทย ทางมูลนิธิฯ ก็จะจัดงานเพื่อเทิดพระเกียรติของพระองค์ท่าน โดยการจัดเสวนาวิชาการ การผลิตสารคดีเกี่ยวกับพระกรณียกิจของพระองค์ท่านในด้านทหารเรือและด้านการแพทย์แผนไทย ตามตำรับหมอพรก็จะขอเชิญชวนให้ประชาชนติดตามสารคดีและการเสวนาวิชาการที่จะเกิดขึ้นเป็นลำดับก็จะต้องขอความร่วมมือจากแนวหน้าช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบเหมือนเดิมค่ะ
คุณสามารถพบรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความบันเทิง รายการแนวหน้าวาไรตี้ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์เวลา 16.00-16.25 น. ทางโทรทัศน์TNN 2 ช่อง 784 ดิจิทัลทีวี หรือ True Visions 8 และชมรายการ ย้อนหลังได้ที่ YouTube ผู้หญิงแนวหน้า byคุณแหน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี