นอกจาก Barcelona จะเป็นเมืองของนักท่องเที่ยวสายกินแล้ว ที่นี่ยังเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่ชอบเครื่องหอมและน้ำหอมด้วย สถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งที่นักท่องเที่ยวสายเครื่องหอมต้องไปให้ได้เมื่อมาถึงเมืองบาร์เซโลนา ศูนย์กลางวัฒนธรรมและแฟชั่นระดับโลกก็คือ มิวเซียมน้ำหอม หรือ Museum de Perfume มิวเซียมที่อยู่ห่างกับ El Nacionalเพียงแค่ 2 บล็อก และก่อตั้งขึ้นบนถนนPaseo de Gracia ใกล้ Casa Battaloที่ออกแบบโดย Antonio Gaudi ตั้งแต่ปี 1961 และเปิดทำการกลางปี 1963 นี้ ก่อตั้งขึ้นเพื่อบอกเล่าเรื่องราวและจัดแสดงวิวัฒนาการของขวดน้ำหอมทั่วโลกตั้งแต่อดีตกาล
เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าประวัติของน้ำหอมเก่าแก่พอๆ กับประวัติศาสตร์ของมนุษย์ น้ำหอมถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกเชื่อว่า เกิดเมื่อมนุษย์ผู้หนึ่งต้องจุดไฟเพื่อให้ได้แสงสว่าง และไปจุดเอาไม้หอมที่มีกลิ่นจรุงใจจึงนำเสนอไม้หอมนั้นเพื่อบูชาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนแสดงความนับถือ ประวัติศาสตร์การใช้น้ำหอมที่ได้รับการจารึกไว้ในบันทึกของชาวสุเมเรียนครั้งแรกพบในอารยธรรมเมโสโปเตเมียเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันหอมและน้ำหอม การใช้เครื่องหอมสำหรับชนชั้นสูงครั้งแรกพบในสุสานของพระนาง Schubab แห่ง Sumer ที่มีอายุ 3500 ปีก่อนคริสตกาล นอกจากนี้ในบันทึกของ Gilgamesh ก็มีการกล่าวถึงเครื่องสำอางและน้ำหอมเช่นกัน
เรื่องราวของน้ำหอมที่ได้รับการบันทึกอย่างเป็นเรื่องเป็นราวอีกอารยะก็คือ อียิปต์ วิถีชีวิตของชาวอียิปต์นอกจากผูกพันกับพระเจ้ารวมทั้งฟาโรห์แล้ว ชีวิตของชาวอียิปต์ยังผูกพันกับแม่น้ำไนล์ด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งพระซึ่งมีห้องปฏิบัติการเป็นของตัวเองจึงเป็นแหล่งผลิตน้ำหอมเพื่อใช้สักการะทวยเทพในเทศกาลต่างๆ ส่งผลให้คนรุ่นหลังได้มีโอกาสศึกษาเรื่องราวจากจารึกในกระดาษปาปิรุส หลังจากที่พระเข้าไปในโบสถ์เพื่อสักการะพระเจ้าแล้ว พวกเขาก็จะประพรมตัวเองด้วยน้ำหอมเฉกเช่นเดียวกับฟาโรห์ เมื่อประชาชนส่วนหนึ่งมั่งคั่งขึ้น พวกเขาก็รับเอาวัฒนธรรมการใช้น้ำหอมจากพระและฟาโรห์มาด้วย
ในเยรูซาเรมนั้น ช่วงเวลาที่มีการใช้น้ำหอมมากที่สุดคือ ช่วงเวลาที่พระนางชีบาที่มาจากอียิปต์นำน้ำหอมเข้ามาในอาณาจักรพระเจ้าโซโลมอนจนทำให้ชาวเยรูซาเลมได้มีประสบการณ์กับการใช้น้ำหอมและเครื่องสำอาง นับจากนั้นมาน้ำหอมก็กลายเป็นของที่มีการกล่าวถึงทั่วไปในหน้าประวัติศาสตร์ จวบจนกระทั่งในประวัติศาสตร์กรีก เทพเจ้ากรีกแทบทุกองค์ก็มีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับน้ำหอมโดยเฉพาะอย่างยิ่งเทพเจ้าหลายองค์ใน Olympus ก็สอนให้มนุษย์ทั้งชายหญิงรู้จักการใช้น้ำหอม สถานที่ผลิตน้ำหอมที่แท้จริงที่สำคัญแห่งหนึ่งก็คือเกาะ Crete และอาณานิคมที่รวมซีเรียและเกาะอื่นในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน น้ำหอมจากแหล่งเหล่านี้เข้าสู่อุตสาหกรรมได้ผ่านทางเมืองต่างๆ ของประเทศกรีก แม้กรีกจะไม่ใช่ประเทศผลิตน้ำหอม แต่ชาวกรีกกลับทรงอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมน้ำหอมผ่านการออกแบบภาชนะใส่น้ำหอม เป็น 7 แบบ เช่นรูปภูมิศาสตร์ สัตว์ ตัวละครในนิยายกรีกปรัมปรา
หลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า อุตสาหกรรมน้ำหอมขึ้นที่ขีดสุดอีกครั้งในยุคเรอเนสซองส์ที่เมืองเวนิซและฟลอเรนซ์จากภาชนะใส่น้ำหอมในสมบัติของตระกูลเมดิซี่ เมื่อ Catherine de Midici ไปแต่งงานกับพระเจ้าเฮนรี่ที่สอง นางได้นำ Renato ผู้ผลิตน้ำหอมส่วนตัวจากฟลอเรนซ์ติดตัวไปปารีสด้วยจนทำให้ปารีสกลายเป็นเมืองน้ำหอมจวบจนปัจจุบัน หลังจากน้ำหอมเดินทางถึงปารีส ชาวเมืองปารีสชั้นสูงซึ่งไม่นิยมอาบน้ำก็ชื่นชอบการใช้น้ำหอมมาก และได้กระจายสู่คหบดี ในช่วงปฏิวัติฝรั่งเศส ตลาดน้ำหอมหยุดชะงักลง แต่กิโยตินเครื่องตัดศีรษะนักโทษได้ทำให้กลิ่นน้ำหอมของชนชั้นสูงที่ถูกทำโทษกระจายสู่ชาวปารีสพื้นเมืองในที่สุด
นักท่องเที่ยวที่มาเยือนมิวเซียมน้ำหอมจะได้ชื่นชมและศึกษาขวดน้ำหอมกว่า 5,000 ชิ้น ที่มีตั้งแต่สมัยอียิปต์ กรีก อีทรัสกันโรมัน อาหรับ เรื่อยมาจวบจนปัจจุบันตามวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งมิวเซียมเพื่อบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของน้ำหอม ขวดน้ำหอมที่ผู้รักงานศิลปะได้คัดสรรชิ้นงานที่ถูกประดิดประดอยขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของความหอม การจัดแสดงแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นแก้ว น้ำมัน กลิ่นตัวน้ำหอมและขวด โดยจัดเรียงลำดับตามเวลาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และส่วนที่เกี่ยวข้องอุตสาหกรรมน้ำหอมตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 18 ถึงปัจจุบันโดยจัดเรียงตามยี่ห้อที่มิได้เรียงตามเวลาเฉกเช่นเดียวกับส่วนแรก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี