วันอาทิตย์ ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2568
CSTD ประเทศไทย ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม จัดงาน 7th CSTD Thailand Dance Grand Prix 2020 เวทีแข่งขันศิลปะการเต้นมาตรฐานสากลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2563 เฟ้นหาสุดยอดนักเต้นเยาวชนตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันในเวทีระดับนานาชาติ ณ ประเทศสิงคโปร์ ทั้งนี้ ผู้ที่สามารถคว้าถ้วยพระราชทาน ประเภท คะแนนรวมบุคคลสูงสุด ได้แก่ นางสาวนภัสสร ตัณฑเทอดธรรม จากสถาบัน Point Studio และประเภทสถาบันยอดเยี่ยม ได้แก่ ZEN & Soloist Bangkok Dance Academy
สถาบัน The Commonwealth Society of Teachers of Dancing หรือ CSTD ประเทศไทย ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม, สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย และสถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย และสถาบัน CSTD ประเทศออสเตรเลีย จัดการแข่งขันศิลปะการเต้นระดับประเทศ 7th CSTD Thailand Dance Grand Prix 2020 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2563 ซึ่งได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 10-13 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ เพื่อเฟ้นหาสุดยอดนักเต้นเยาวชนตัวแทนประเทศไทย ไปแข่งขันในเวทีระดับนานาชาติ ณ ประเทศสิงคโปร์ โดยในปีนี้ได้มีนักเต้นเยาวชนและระดับมืออาชีพร่วมประชันความสามารถบนเวทีมากถึง 21 สถาบันจากทั่วภูมิภาคของประเทศ มีเยาวชนเข้าแข่งขันถึง 1,396 คน และมีการแข่งขันมากถึง 736 ชุดการแสดง
.jpg)
วัลลภา ปัจฉิมสวัสดิ์ แสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลถ้วยพระราชทาน
การแข่งขัน 7th CSTD Thailand Dance Grand Prix 2020 ในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมเป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมมอบถ้วยรางวัลแก่ผู้ชนะบนเวที โดยได้เผยถึงงานในครั้งนี้ว่า กระทรวงวัฒนธรรม มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนในการสนับสนุนการจัดการแข่งขันศิลปะการเต้นครั้งที่ 7 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “7thCSTD Thailand Dance Grand Prix 2020” ซึ่งศิลปะการเต้น นับว่าเป็นศิลปะที่ก่อให้เกิดสุนทรียภาพ ด้ายการใช้ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการไม่ต่างจากศิลปะร่วมสมัยแขนงอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันหลายประเทศได้นำศิลปะการเต้นเป็นสื่อในการถ่ายทอดวัฒนธรรมของตนให้นานาประเทศได้รู้จักกันอย่างแพร่หลาย กระทรวงวัฒนธรรมในฐานะองค์กรภาครัฐ ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ศิลปะการเต้นแบบร่วมสมัยมาต่อยอดทุนวัฒนธรรมของประเทศ จึงขอชื่นชนที่ได้เห็นผลงานและความมุ่งมั่นของสถาบัน CSTD ประจำประเทศไทยในการส่งเสริมเยาวชน และพัฒนาศิลปะการเต้นอย่างต่อเนื่อง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเยาวชนที่เดินทางเข้าร่วมงานการแข่งขันจะได้ใช้โอกาสนี้แสดงความสามารถและศักยภาพด้านการเต้นให้นานาชาติระดับอาเซียนได้ประจักษ์ในความสามารถของเยาวชนไทย มุ่งสู่ความเป็นมืออาชีพในอนาคตต่อไป
ด้านผู้จัดงาน นางสาววัลลภาปัจฉิมสวัสดิ์ ผู้แทนสถาบัน CSTDประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า คณะผู้จัดงานการแข่งขันศิลปะการเต้นระดับประเทศ 7th CSTD Thailand Dance Grand Prix 2020 รู้สึกซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานถ้วยรางวัล สถาบันยอดเยี่ยม และคะแนนรวมบุคคลสูงสุดถึง 2 รางวัล มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2559 ในครั้งนี้เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้ได้มีนักเต้นเยาวชนและระดับมืออาชีพร่วมประชันความสามารถบนเวทีมากถึง 21 สถาบันจากทั่วภูมิภาคของประเทศ มีเยาวชนร่วมเข้าแข่งขันถึง 1,396 คน มีการแข่งขันมากถึง 736 ชุด
การแสดงโดยรูปแบบการแข่งขันเปิดให้แข่งขันตั้งแต่รุ่นอายุต่ำกว่า 5 ปี จนถึงระดับอาชีพ และมีการแข่งขันการเต้นหลากหลายรูปแบบ ทั้ง Classical Ballet(บัลเลต์คลาสสิก), Lyrical Ballet(บัลเลต์ตามอารมณ์เพลง), Demi-Character (นำเสนอเรื่องราวผ่านการเต้น), Modern Jazz Dance (แจ๊สแดนซ์), Contemporary Dance (เต้นร่วมสมัย), Hip-Hop (ฮิปฮอป), National Dance (ระบำประจำชาติ), Song & Dance (ร้องและเต้น), Ballet Repertoire (อุปรากรบัลเลต์), Improvisation (คิดท่าสดบนเวที) เป็นต้น โดยการแข่งขันในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเฟ้นหาสุดยอดนักเต้นเยาวชนตัวแทนประเทศ ให้มีโอกาสก้าวสู่การแข่งขันในเวทีระดับนานาชาติ ร่วมกับอีก10 ประเทศ ในการแข่งขันการเต้นบนเวทีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย-แปซิฟิกใน Asia-Pacific Dance Competition ครั้งที่ 22 ณ ประเทศสิงคโปร์ ในปี 2564
.jpg)
อิทธิพล คุณปลื้ม รมว.กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวเปิดงาน
ทั้งนี้ ผู้ที่สามารถคว้าถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2563 ประเภท คะแนนรวมบุคคลสูงสุดได้แก่ นางสาวนภัสสร ตัณฑเทอดธรรมอายุ 16 ปี จากสถาบัน Point Studio และประเภทสถาบันยอดเยี่ยม ได้แก่ ZEN & Soloist Bangkok DanceAcademy
การจัดงานในครั้งนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรที่เล็งเห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาศาสตร์การเต้นของเยาวชนไทยจาก กระทรวงวัฒนธรรม, สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย และสถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยสถาบัน CSTD ประเทศออสเตรเลีย และโรงละครอักษรา รวมไปถึงผู้ร่วมสนับสนุนการแข่งขันทุกคนในการร่วมกันพัฒนาเยาวชนไทยและบุคลากรที่มีความสามารถในระดับอาชีพให้มีความก้าวหน้าในศิลปะการเต้นในประเทศไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการขยายเครือข่ายวงการศิลปะการเต้นทั้งภายในประเทศและต่างประเทศเชื่อมโยงและขยายวงกว้างต่อไปไม่รู้จบ จนกลายเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศได้
“ด้วยพันธกิจของสถาบัน CSTD ประเทศไทย ที่มุ่งมั่นให้ความสำคัญกับศิลปะการเต้นของเยาวชนไทย พร้อมกับการยกระดับให้มีความทัดเทียมนานาประเทศ สานฝันปั้นให้เด็กไทยมีการพัฒนาศักยภาพให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นไป รวมถึงยังช่วยรักษาและเผยแพร่มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของศิลปะคนไทย ทั้งยังเปิดพื้นที่ให้เป็นเวทีแห่งการแสดงออกร่วมกันของเหล่านักเต้นไทยจากทั่วภูมิภาค ต่อยอดไปสู่ระดับสากล”นางสาววัลลภา กล่าวปิดท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี