CSTD ประเทศไทย ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม จัดงาน 7th CSTD Thailand Dance Grand Prix 2020 เวทีแข่งขันศิลปะการเต้นมาตรฐานสากลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2563 เฟ้นหาสุดยอดนักเต้นเยาวชนตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันในเวทีระดับนานาชาติ ณ ประเทศสิงคโปร์ ทั้งนี้ ผู้ที่สามารถคว้าถ้วยพระราชทาน ประเภท คะแนนรวมบุคคลสูงสุด ได้แก่ นางสาวนภัสสร ตัณฑเทอดธรรม จากสถาบัน Point Studio และประเภทสถาบันยอดเยี่ยม ได้แก่ ZEN & Soloist Bangkok Dance Academy
สถาบัน The Commonwealth Society of Teachers of Dancing หรือ CSTD ประเทศไทย ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม, สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย และสถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย และสถาบัน CSTD ประเทศออสเตรเลีย จัดการแข่งขันศิลปะการเต้นระดับประเทศ 7th CSTD Thailand Dance Grand Prix 2020 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2563 ซึ่งได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 10-13 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ เพื่อเฟ้นหาสุดยอดนักเต้นเยาวชนตัวแทนประเทศไทย ไปแข่งขันในเวทีระดับนานาชาติ ณ ประเทศสิงคโปร์ โดยในปีนี้ได้มีนักเต้นเยาวชนและระดับมืออาชีพร่วมประชันความสามารถบนเวทีมากถึง 21 สถาบันจากทั่วภูมิภาคของประเทศ มีเยาวชนเข้าแข่งขันถึง 1,396 คน และมีการแข่งขันมากถึง 736 ชุดการแสดง
วัลลภา ปัจฉิมสวัสดิ์ แสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลถ้วยพระราชทาน
การแข่งขัน 7th CSTD Thailand Dance Grand Prix 2020 ในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมเป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมมอบถ้วยรางวัลแก่ผู้ชนะบนเวที โดยได้เผยถึงงานในครั้งนี้ว่า กระทรวงวัฒนธรรม มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนในการสนับสนุนการจัดการแข่งขันศิลปะการเต้นครั้งที่ 7 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “7thCSTD Thailand Dance Grand Prix 2020” ซึ่งศิลปะการเต้น นับว่าเป็นศิลปะที่ก่อให้เกิดสุนทรียภาพ ด้ายการใช้ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการไม่ต่างจากศิลปะร่วมสมัยแขนงอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันหลายประเทศได้นำศิลปะการเต้นเป็นสื่อในการถ่ายทอดวัฒนธรรมของตนให้นานาประเทศได้รู้จักกันอย่างแพร่หลาย กระทรวงวัฒนธรรมในฐานะองค์กรภาครัฐ ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ศิลปะการเต้นแบบร่วมสมัยมาต่อยอดทุนวัฒนธรรมของประเทศ จึงขอชื่นชนที่ได้เห็นผลงานและความมุ่งมั่นของสถาบัน CSTD ประจำประเทศไทยในการส่งเสริมเยาวชน และพัฒนาศิลปะการเต้นอย่างต่อเนื่อง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเยาวชนที่เดินทางเข้าร่วมงานการแข่งขันจะได้ใช้โอกาสนี้แสดงความสามารถและศักยภาพด้านการเต้นให้นานาชาติระดับอาเซียนได้ประจักษ์ในความสามารถของเยาวชนไทย มุ่งสู่ความเป็นมืออาชีพในอนาคตต่อไป
ด้านผู้จัดงาน นางสาววัลลภาปัจฉิมสวัสดิ์ ผู้แทนสถาบัน CSTDประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า คณะผู้จัดงานการแข่งขันศิลปะการเต้นระดับประเทศ 7th CSTD Thailand Dance Grand Prix 2020 รู้สึกซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานถ้วยรางวัล สถาบันยอดเยี่ยม และคะแนนรวมบุคคลสูงสุดถึง 2 รางวัล มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2559 ในครั้งนี้เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้ได้มีนักเต้นเยาวชนและระดับมืออาชีพร่วมประชันความสามารถบนเวทีมากถึง 21 สถาบันจากทั่วภูมิภาคของประเทศ มีเยาวชนร่วมเข้าแข่งขันถึง 1,396 คน มีการแข่งขันมากถึง 736 ชุด
การแสดงโดยรูปแบบการแข่งขันเปิดให้แข่งขันตั้งแต่รุ่นอายุต่ำกว่า 5 ปี จนถึงระดับอาชีพ และมีการแข่งขันการเต้นหลากหลายรูปแบบ ทั้ง Classical Ballet(บัลเลต์คลาสสิก), Lyrical Ballet(บัลเลต์ตามอารมณ์เพลง), Demi-Character (นำเสนอเรื่องราวผ่านการเต้น), Modern Jazz Dance (แจ๊สแดนซ์), Contemporary Dance (เต้นร่วมสมัย), Hip-Hop (ฮิปฮอป), National Dance (ระบำประจำชาติ), Song & Dance (ร้องและเต้น), Ballet Repertoire (อุปรากรบัลเลต์), Improvisation (คิดท่าสดบนเวที) เป็นต้น โดยการแข่งขันในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเฟ้นหาสุดยอดนักเต้นเยาวชนตัวแทนประเทศ ให้มีโอกาสก้าวสู่การแข่งขันในเวทีระดับนานาชาติ ร่วมกับอีก10 ประเทศ ในการแข่งขันการเต้นบนเวทีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย-แปซิฟิกใน Asia-Pacific Dance Competition ครั้งที่ 22 ณ ประเทศสิงคโปร์ ในปี 2564
อิทธิพล คุณปลื้ม รมว.กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวเปิดงาน
ทั้งนี้ ผู้ที่สามารถคว้าถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2563 ประเภท คะแนนรวมบุคคลสูงสุดได้แก่ นางสาวนภัสสร ตัณฑเทอดธรรมอายุ 16 ปี จากสถาบัน Point Studio และประเภทสถาบันยอดเยี่ยม ได้แก่ ZEN & Soloist Bangkok DanceAcademy
การจัดงานในครั้งนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรที่เล็งเห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาศาสตร์การเต้นของเยาวชนไทยจาก กระทรวงวัฒนธรรม, สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย และสถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยสถาบัน CSTD ประเทศออสเตรเลีย และโรงละครอักษรา รวมไปถึงผู้ร่วมสนับสนุนการแข่งขันทุกคนในการร่วมกันพัฒนาเยาวชนไทยและบุคลากรที่มีความสามารถในระดับอาชีพให้มีความก้าวหน้าในศิลปะการเต้นในประเทศไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการขยายเครือข่ายวงการศิลปะการเต้นทั้งภายในประเทศและต่างประเทศเชื่อมโยงและขยายวงกว้างต่อไปไม่รู้จบ จนกลายเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศได้
“ด้วยพันธกิจของสถาบัน CSTD ประเทศไทย ที่มุ่งมั่นให้ความสำคัญกับศิลปะการเต้นของเยาวชนไทย พร้อมกับการยกระดับให้มีความทัดเทียมนานาประเทศ สานฝันปั้นให้เด็กไทยมีการพัฒนาศักยภาพให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นไป รวมถึงยังช่วยรักษาและเผยแพร่มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของศิลปะคนไทย ทั้งยังเปิดพื้นที่ให้เป็นเวทีแห่งการแสดงออกร่วมกันของเหล่านักเต้นไทยจากทั่วภูมิภาค ต่อยอดไปสู่ระดับสากล”นางสาววัลลภา กล่าวปิดท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี