แนวหน้าวาไรตี้สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย พาคุณผู้อ่านไปจังหวัดเชียงใหม่เพื่อสนทนากับ ดร.จุไรรัตน์ จุลจักรวัฒน์ สุภาพสตรี ผู้มากความสามารถ เพราะมีบทบาทหน้าที่การงานมากมาย แต่วันนี้ ดร.จุไรรัตน์ขอสวมหมวกคนเชียงใหม่ผู้ปรารถนาจะเห็นบ้านเกิดของตนเองมีความงดงามตามวิถีล้านนาที่ผสานความทันสมัยได้อย่างลงตัว
ขออนุญาตไม่กล่าวถึงรายละเอียดตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ ที่ ดร.จุไรรัตน์ได้รับมา ในอดีต รวมถึงที่ยังดำรงอยู่ในปัจจุบัน เช่น สมาชิกสภาขับเคลื่อนประเทศ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ กกต. จังหวัดเชียงใหม่ และอาจารย์สอนด้านรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ แต่จะขอชวนสนทนาในฐานะผู้ที่เกิดและโตในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ต้องการเห็นเชียงใหม่งดงามและน่าอยู่ ขอถามว่าเชียงใหม่วันนี้กับวันวานเมื่อวันที่ ดร.จุไรรัตน์เกิดมาเมื่อ 50 ปีกว่า ๆ นั้น มีความแตกต่างกันเพียงใดแล้วปัญหาหมอกควันพิษที่เกิดในเชียงใหม่จะสามารถขจัดให้หมดไปได้ไหมครับ
ดร.จุไรรัตน์ : เมื่อพูดถึงเชียงใหม่ในการรับรู้ของตัวเองแล้ว ขอยืนยันว่ายังเป็นเมืองที่น่าอยู่ไม่เสื่อมคลาย แม้เชียงใหม่วันนี้จะต่างจากวันวานอย่างมากมาย หลายคนอาจวิจารณ์ว่าเชียงใหม่ไม่มีจิตวิญญาณของล้านนาอีกต่อไปแล้ว แต่ก็ขอยืนยันว่าเชียงใหม่ยังหลงเหลือจิตวิญญาณของล้านนา แม้บางส่วนจะถูกทำลายไปแล้วก็ตาม เวลาพูดคำว่าเมืองเชียงใหม่ขึ้นมา คนที่รู้จักเชียงใหม่เป็นอย่างดีจะมีแววตาบ่งบอกประกายของความสุข คิดถึงดอยสูงเสียดฟ้าที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี และมีเมฆลอยปกคลุมยอดดอย คิดถึงรอยยิ้มของผู้คน คิดถึงน้ำใจไมตรีของคนเมือง คิดถึงขนบประเพณีที่งดงามและทรงคุณค่า แล้วก็นึกถึงอาหารการกินที่แสนสมบูรณ์ กล่าวได้ว่าเชียงใหม่มีเสน่ห์มากจริงๆ กล่าวได้ว่ามากจนติดอันดับต้นๆ ของโลกก็ไม่ผิด แล้วเมื่อพูดถึงการคมนาคมระหว่างเชียงใหม่กับเมืองสำคัญๆ ของประเทศไทยก็แสนสะดวก เพราะมีเส้นทางการบินเชื่อมถึงกัน แล้วก็ยังมีเส้นทางการบินเชื่อมกับเมืองสำคัญๆ ของโลกอีกด้วย แต่ที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนก็คือเชียงใหม่มีสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศอยู่ด้วย สิ่งที่พูดมาเพียงคร่าวๆ นี้คือความงดงามและมนต์เสน่ห์ของเชียงใหม่ แน่นอนว่าเชียงใหม่ในวันนี้เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมาก ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาของโลกที่ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาแต่ประเด็นสำคัญคือในฐานะคนเมืองแท้ๆเราต้องการเห็นเชียงใหม่คงความงดงามไว้ดังเดิมแต่ก็ไม่ปฏิเสธความเจริญก้าวหน้าของโลกที่เข้ามาสู่เมืองเชียงใหม่อย่างรวดเร็ว แล้วทำให้ทั้งสองสิ่งนี้ก้าวเดินควบคู่ไปอย่างสมดุล ระยะหลังๆ นี้ เชียงใหม่มีชื่อเสียงในแง่ลบมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องมลพิษทางอากาศที่ทำให้เชียงใหม่ถูกระบุว่ามีสภาพอากาศเลวร้ายติดอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งเราก็ต้องยอมรับความจริง แต่เราก็ต้องหันกลับมาศึกษาวิเคราะห์ว่าอะไรคือต้นเหตุของปัญหานี้ ก็พบว่ามีสองปัจจัยหลักคือ การกระทำของมนุษย์ และจากผลของปรากฏการณ์ของโลก ในที่นี้ขอกล่าวถึงการกระทำของมนุษย์ก่อน ซึ่งก็ต้องศึกษาว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง ก็จะพบว่าคนที่มีส่วนทำให้เกิดมลภาวะทางอากาศก็มีทั้งคนเมืองที่ยังคงปฏิบัติตามวิถีดั้งเดิมนับจากอดีต เช่น เผาป่าล่าสัตว์ และเผาป่าเพื่อหาของป่า หาเห็ด เป็นต้นส่วนอีกกลุ่มคือ กลุ่มผลประโยชน์ที่เข้ามาก่อปัญหาในเชียงใหม่ โดยเฉพาะพวกที่เขามาทำการเกษตรเชิงเดี่ยวที่ต้องการพื้นที่มากๆ หลายพันหลายหมื่นไร่ และยังมีอีกกลุ่มที่ต้องกล่าวถึงคือ ผู้มีหน้าที่กำหนดนโยบายสาธารณะของจังหวัดและระดับประเทศ ต้องยอมรับว่าทั้งสามกลุ่มนี้มีส่วนสำคัญในการเกิดและแก้ปัญหามลภาวะทางอากาศของเชียงใหม่ โดยเฉพาะคนในกลุ่มกำหนดนโยบายสาธารณะนั้น เราจำเป็นต้องตั้งคำถามแรงๆ ว่ามีความจริงใจในการแก้ปัญหานี้หรือไม่ และต้องถามว่าบางรายแสวงหาผลประโยชน์จากเงินงบประมาณแผ่นดินที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาหรือไม่ โดยส่วนตัวแล้วยังมั่นใจว่าปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ หากตั้งใจจะแก้ไขอย่างจริงจัง แต่ที่ยังคงเกิดปัญหาอยู่นั้นน่าจะเกิดมาจากการไม่เอาจริง หรือการแสวงหาผลประโยชน์โดยคนบางกลุ่ม ขอย้ำว่าปัญหานี้แก้ได้ด้วยความร่วมมือของคนในท้องที่และผู้กำหนดนโยบายสาธารณะ
เชียงใหม่ในช่วงต้นปีที่เต็มไปด้วยหมอกควันพิษ กับเชียงใหม่ในวันนี้แตกต่างกันมากเหลือเกิน เพราะหมอกควันพิษหมดไปมีแต่ความชุ่มชื่นของน้ำฝนมาแทน ต้นไม้เขียวขจี อากาศบริสุทธิ์มากโดยเฉพาะหลังฝนตกใหม่ๆ แล้วที่สำคัญช่วงนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวมากมายจนดูเหมือนล้นเมืองเชียงใหม่ นี่คือสวรรค์จริงๆ เราจะสามารถเก็บรักษาบรรยากาศแบบนี้ไว้ได้ไหมครับ
ดร.จุไรรัตน์ : ขออนุญาตใช้คำเมืองว่าในยามนี้เจียงใหม่งามแต๊ๆ เจ้า ใครที่ได้มาเยือนเชียงใหม่ยามนี้บอกตรงกันว่าคือสวรรค์จริงๆ แต่อาจจะมีปัญหามากพอสมควรกับเรื่องรายได้ที่เกิดจากการท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวน้อยก็ทำให้ผู้ค้าขายมีรายได้ลดลง แต่เราก็ต้องช่วยกันแก้ปัญหานี้ด้วยการชักชวนคนไทยเที่ยวกันเอง การมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวมากๆ อาจทำให้การค้าขายดีขึ้นก็จริง แต่ก็มีปัญหาอื่นตามมาด้วย อย่างเช่นช่วงโควิด-19ระบาดหนัก หลายคนวิตกว่าเศรษฐกิจเชียงใหม่จะย่ำแย่แน่ แต่ต้องไม่ลืมว่าปัญหานี้เกิดขึ้นทั่วโลก ดังนั้นเราจึงต้องคิดว่าเราจะแก้ปัญหานี้อย่างไร เอาตัวรอดจากปัญหาได้อย่างไร ในขณะที่ธุรกิจการท่องเที่ยวและบริการของเชียงใหม่ต้องประสบปัญหาเพราะเชื้อโควิด-19 เราก็ต้องใช้เวลาช่วงนี้ปรับปรุงพัฒนาบ้านของเราให้กลับมาสมบูรณ์และงดงาม เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะกลับมาในยามที่เชื้อโรคตัวนี้ถูกปราบลงได้เรื่องของการจัดการกับเชื้อโรคร้ายตัวนี้คงต้องเป็นหน้าที่ของผู้กำหนดนโยบายหลักคือรัฐบาล แต่ประชาชนทุกคนก็ต้องระมัดระวังตัวเองเพื่อให้รอดพ้นจากโรคนี้ ขอยืนยันว่าเชียงใหม่วันนี้ยังมีทุนสังคมที่มั่นคงมาก เราสามารถใช้ทุนสังคมที่เรามีฟื้นฟูเชียงใหม่ได้โดยไม่ยาก และรับรองว่าเชียงใหม่จะงดงามมากกว่าเดิม ธรรมชาติที่ถูกทำลายไปแล้วจะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้อย่างแน่นอนด้วยความร่วมมือของทุกฝ่าย แล้วเชียงใหม่จะผงาดกลับมาเป็นเพชรเม็ดงามของโลกใบนี้ ขอแค่เพียงเราทุกคนต้องช่วยกันดูแลบ้านของเรา ไม่มีใครดูแลบ้านของเราได้ดีเท่ากับเจ้าของบ้าน และอยากชวนให้ใครก็ตามที่มาเที่ยว หรือมาอยู่เชียงใหม่โปรดมีจิตสำนึกรักเชียงใหม่ และช่วยกันดูแลหวงแหนเชียงใหม่ด้วย วันนี้เชียงใหม่อาจดูเงียบเหงาไม่มีนักท่องเที่ยวล้นหลาม แต่เราก็สามารถชวนกันเที่ยวเชียงใหม่ได้คนไทยเที่ยวกันเอง ไม่จำเป็นต้องให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามายึดเมืองเชียงใหม่จนไม่เหลือพื้นที่ไว้สำหรับคนไทยได้ซึมซับความงามของเมือง แน่นอนว่าเราไม่ได้กีดกันนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่เราไม่อยากให้นักท่องเที่ยวต่างชาติไหลบ่าเข้ามาท่วมจนกลายเป็นทำลายเชียงใหม่ ไม่อยากให้ทรัพยากรธรรมชาติของเชียงใหม่ถูกทำลาย ไม่ว่าจะโดยชาวบ้านหรือผู้มีอิทธิพลระดับประเทศ เรื่องเหล่าอยู่ในความรับผิดชอบของประชาชน นักการเมืองท้องถิ่น และรัฐบาลไทย
ขอถามปัญหาคลาสสิกที่คนไทยและต่างชาติเบื่อมากในเชียงใหม่ คือปัญหาค่าโดยสารรถสองแถวแดงที่หลายคนบ่นว่าแพงมาก จะแก้ปัญหานี้ได้ไหม ทำไมเชียงใหม่ไม่มีระบบขนส่งมวลชนที่ดีได้มาตรฐานกว่านี้ปัญหาอยู่ตรงไหนครับ แล้วอยากให้ทิ้งท้ายว่าเชียงใหม่จะกลับมางดงามได้ด้วยกรรมวิธีใดครับ
ดร.จุไรรัตน์ : พูดตามตรงนะคะ มีความพยายามแก้ปัญหานี้มาตลอด แต่ก็แก้ไม่ลุล่วงสักที ทั้งๆ ที่โลกใบนี้มันพัฒนาไปไกลมาก แต่ปัญหานี้ก็ยังคงอยู่ การพัฒนาเมืองเชียงใหม่ยังมีอุปสรรคอีกมาก ปัญหาอาจมาจากการยึดติดในกรอบเดิมๆ วิธีคิดเดิมๆ โดยคนเดิมๆ และกลุ่มผลประโยชน์เดิมๆ โดยส่วนตัวแล้วไม่ปฏิเสธว่ารถสองแถวแดงคือเอกลักษณ์ของเชียงใหม่ และอยากให้รักษาเอาไว้ เพราะมันคือสิ่งของคู่กับเชียงใหม่แต่เราต้องยกระดับมาตรฐานของสี่ล้อแดงเชียงใหม่ให้ได้ สี่ล้อแดงต้องอยู่ต่อไป แต่ต้องมีมาตรฐานการให้บริการ ต้องมีระบบจัดการที่ดีโปร่งใสได้มาตรฐาน คนขับสี่ล้อแดงต้องอยู่ได้ และมีรายได้ที่พอกับการดำรงชีพ ส่วนผู้ใช้บริการก็ต้องได้รับความสะดวกสบายและจ่ายค่าโดยสารอย่างเป็นธรรม อันที่จริงปัญหาสี่ล้อแดงเชียงใหม่เป็นปัญหาที่เล็กมาก แต่เมื่อเกิดปัญหาแต่ละครั้งจะทำให้คนขับสี่ล้อแดงส่วนใหญ่ถูกประณามไปทั้งหมด ทั้งๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นคนน่ารักมีน้ำใจ แต่เมื่อมีคนทำเลวรายหนึ่ง ทุกคนเลยแย่ไปหมด จริงๆ รถสี่ล้อแดงมีการติดป้ายแสดงราคาไว้แล้ว แต่คนขับบางคนก็ยังมีนิสัยเอาเปรียบผู้โดยสาร โดยเฉพาะนักท่องเที่ยว จึงทำให้เกิดภาพลบอยู่เป็นระยะๆ ดิฉันยืนยันว่าปัญหานี้แก้ไขได้ไม่ยาก ทั้งนี้จังหวัดต้องเข้ามาดูแลและกำหนดมาตรฐานชัดเจน ในขณะเดียวกันนักการเมืองระดับท้องถิ่น และเหล่าบรรดา สส. ของเชียงใหม่ต้องจริงใจแก้ปัญหานี้ อย่าลืมว่าเชียงใหม่มี สส. จากพรรคการเมืองพรรคเดียวกัน ทำไม สส. เหล่านั้นไม่เข้าไปแก้ปัญหานี้อย่างจริงๆ จังๆ ทำไมปล่อยปัญหาไว้ หรือมีอะไรอยู่เบื้องหลังของปัญหา สส. เชียงใหม่ต้องเห็นปัญหาของเชียงใหม่ และต้องแก้ปัญหาของเชียงใหม่ให้ได้ ต้องทำความยั่งยืนให้กับเชียงใหม่ นอกจากนี้นักการเมืองระดับท้องถิ่นของเชียงใหมอีก 211 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเช่น อบต. เทศบาล และอบจ. หากคนกลุ่มนี้มองเห็นปัญหาของเชียงใหม่ แล้วตั้งใจแก้ปัญหาจริงๆ รับรองว่าปัญหาจะหมดไปในเวลาอันรวดเร็วแต่คำถามคือ ตั้งใจจริงที่จะแก้ปัญหาหรือไม่ จริงๆ แล้วดิฉันอยากเห็นเชียงใหม่เป็นจังหวัดจัดการตนเอง แต่เวลาพูดคำนี้ต้องอธิบายให้ชัดเจนมิฉะนั้นจะถูกบิดเบือนเจตนารมณ์ได้ การจัดการตัวเองของเชียงใหม่ ไม่ใช่การแยกดินแดน แต่คือการจัดการแก้ปัญหาภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยตนเอง แต่ยังทำงานบูรณาการกับรัฐบาลดังเดิม แต่ต้องทำงานได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น ใช้เทคโนโลยีเข้ามาแก้ปัญหาต่างๆ มีการตระเตรียมคนที่มีความรู้ความสามารถแท้จริงในการทำงานของจังหวัด มีมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจตามแบบสากล แต่ยังคงเอกลักษณ์เชียงใหม่ไว้ให้ได้ และที่สำคัญคือเราต้องปลูกฝังสั่งสอนลูกหลานให้รักบ้านเกิดเมืองนอนรักทรัพยากรธรรมชาติ รักขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น เห็นความสำคัญทุ่งนาป่าเขาต้นไม้สายน้ำ ต้องสอนให้เขารู้ว่าการจุดไม้ขีดไฟเพียงหนึ่งก้านแล้วโยนเข้าไปในป่าจะทำให้เกิดภัยพิบัติต่อบ้านเมืองของเรามากมายเพียงใด และสอนให้เขาเรียนรู้โลกยุคใหม่ควบคู่ไปกับอารยธรรมของคนเมือง เพื่อให้เขาผสมผสานสิ่งดี ๆ เข้าด้วยกันได้ด้วยตัวของเขาเอง หากเขารักบ้านเกิดเมืองนอนแล้ว เขาจะช่วยกันรักษาบ้านเมืองของเขาไว้ตลอดไป ไม่ยอมให้ใครทำลาย และเขาก็ไม่ทำลายบ้านเมืองของเขาด้วย
คุณจะได้พบกับรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความบันเทิง รายการแนวหน้าวาไรตี้ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา16.00-16.25 น. ทางโทรทัศน์ TNN 2ช่อง 784 ดิจิทัลทีวี หรือ True Visions 8 และชมรายการ ย้อนหลังได้ที่ YouTube แนวหน้าวาไรตี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี