ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ที่ปรึกษาคณะกรรมการจัดสร้างพระฯ ประธานในพิธีจุดเครื่องทองน้อย ถวายบังคมพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร
คณะกรรมการจัดสร้างพระสมเด็จองค์ปฐม (พระพุทธเจ้าพระองค์แรกในพุทธันดร) “พระพุทธเมตตา” เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ ปี 2554โดย เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระเมตตาทรงรับเป็นประธานที่ปรึกษาฝ่ายสงฆ์การจัดสร้างพระฯ ซึ่งมีพระอาจารย์ธาตุ อธิปัญโญ เจ้าอาวาสวัดเทพประทาน เป็นที่ปรึกษาการจัดสร้างพระฯ
คณะกรรมการฯ ได้เริ่มตอกเสาเข็มต้นแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556 และด้วยพระมหาบารมีในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นผลให้มหาชนชาวไทยทั่วประเทศ รวมทั้งพุทธศาสนิกชนในประเทศต่างๆ มีจิตศรัทธามีส่วนร่วมในโอกาสพิเศษที่หาได้ยากยิ่งในงานมหากุศลครั้งประวัติศาสตร์นี้ ส่งผลให้คณะกรรมการฯได้รับความสนับสนุนปัจจัยไปดำเนินการก่อสร้างฯ ได้อย่างต่อเนื่อง
การจัดสร้างพระสมเด็จองค์ปฐม “พระพุทธเมตตา” มีขนาดใหญ่มาก คือ หน้าตักกว้าง 29 เมตร สูง 45 เมตร (เท่ากับตึก 15 ชั้น) ทำด้วยนิลรัตนะทั้งองค์ และจะมีการตกแต่งประดับผิวองค์พระฯ เพิ่มเติมด้วยพลอยรัตนะ เพื่อให้งดงามสมพระเกียรติยิ่งขึ้น ขณะนี้ได้หล่อองค์พระฯ โดยเข้าแบบและติดตั้งเหล็กเสริมและเทคอนกรีตผสมนิลแล้ว ที่ระดับความสูง +15 เมตร และคาดว่าจะสามารถจัดสร้างพระสมเด็จองค์ปฐมฯ แล้วเสร็จปลายปี 2564 และตกแต่งประดับผิวองค์พระสมบูรณ์ในต้นปี 2565 โดยมีวัตถุประสงค์ของการจัดสร้างพระฯ เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554, เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา สืบอายุพระพุทธศาสนา เพื่อปกป้องคุ้มครองประเทศชาติและมนุษยชาติให้เกิดความสุขสันติ เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่พระพุทธองค์ทรงมีพระพุทธดำรัสพยากรณ์ให้เป็นศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนาของโลกในยุคหลังพุทธกาล ชาวไทยจึงต้องรักษาพระพุทธศาสนาไว้ให้ดี พลังบารมีแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย จะคอยช่วยเหลือและคุ้มครองโลกมนุษย์ให้ปลอดจากภัยสงคราม ภัยโรคระบาด และภัยจากวิบากกรรมอื่นๆ โดยเฉพาะในยามที่บ้านเมืองวิกฤติเช่นนี้ และจัดสร้างด้วย “นิลรัตนะ” จะปัดเป่าภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง โรคาพยาธิ และสิ่งไม่ดีต่างๆ ให้หมดสิ้นไป,เพื่อให้พระสมเด็จองค์ปฐม “พระพุทธเมตตา” เป็นอนุสรณ์สถิตอยู่คู่กับอาคารปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ 84 พรรษาปี พ.ศ. 2550 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และกระทรวงมหาดไทย ร่วมกันจัดสร้างเพื่อจารึกไว้ในแผ่นดินตลอดกาล และเพื่อให้เป็นสมบัติของประเทศและชาวโลก
ประธานในพิธีถวายสักการะพระราชจันทโมลี เจ้าคณะจังหวัดจันทบุรี
คณะกรรมการจัดสร้างพระสมเด็จองค์ปฐมฯ ได้รับอนุญาตให้เชิญตราสัญลักษณ์งานฉลองเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ไปประดิษฐาน ณ ผ้าทิพย์บนฐานพระสมเด็จองค์ปฐม “พระพุทธเมตตา” และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ได้เสด็จไปทรงวางศิลาฤกษ์อาคารฐานพระสมเด็จองค์ปฐม “พระพุทธเมตตา” ที่วัดเทพประทาน อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี เมื่อปี 2554
การจัดสร้างพระพุทธรูปด้วยนิลรัตนะนี้ เชื่อกันว่า จักมีอานิสงส์สูงสุด คือ อสงไขยกัปป์ และการสร้างพระพุทธรูปด้วยวัตถุธาตุใดก็ตาม จัดว่าได้สะสมมหากุศล มหาบารมีให้เกิดขึ้น อันจะเป็นอุปนิสัยปัจจัยแก่มนุษยสมบัติ สวรรคสมบัติ นิพพานสมบัติ และพุทธสมบัติในกาลต่อไปเบื้องหน้า ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมถวายพระราชกุศลฯ ครั้งประวัติศาสตร์นี้ ยังคงบริจาคสมทบการจัดสร้างได้ โดยนำเงินเข้าบัญชีวัดเทพประทาน ธนาคารกรุงไทยธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ สาขาสอยดาว หรือสถานทูตไทยในประเทศต่างๆ ทั่วโลก หรือโทรศัพท์ 085-1148900, 089-2153455,081-6219797 ใบอนุโมทนาสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ผู้บริจาคเงินตั้งแต่ 20,000 บาท คณะกรรมการจัดสร้างพระสมเด็จองค์ปฐมฯ จะจารึกนามของผู้บริจาคไว้ที่อาคารฐานพระฯ สำหรับผู้บริจาคเงินจำนวนมากจะได้รับการจารึกนามในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี