ภาวะโรคอ้วนในประเทศไทย มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนพฤติกรรรมของคนไทยในการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเกิดโรคต่างๆ หนึ่งในนั้นคือโรคนิ่วในถุงน้ำดี ปัจจุบันการผ่าตัดรักษานิ่วในถุงน้ำดีเป็นวิธีการรักษาที่ตรงจุด และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่อาจลุกลามไปถึงขั้นเสียชีวิต
นายแพทย์วีรยุทธ เอื้อวิเศษวงศ์ ศัลยแพทย์ทั่วไป โรงพยาบาลเวชธานี อธิบายว่าเมื่อรับประทานอาหารโดยเฉพาะอาหารที่มีไขมัน ร่างกายจะขับน้ำดีออกมาเพื่อช่วยย่อยไขมัน ทำให้ไขมันแตกตัวจับกับน้ำย่อยตามระบบย่อยอาหารของร่างกาย โดยต้นทางของน้ำดี จะถูกผลิตมาจากตับและเก็บไว้ในถุงน้ำดี ซึ่งในน้ำดีมีส่วนประกอบหลายอย่างหากองค์ประกอบของน้ำดีมีความไม่สมดุล ประกอบกับรับประทานอาหารที่มีไขมันปริมาณมาก จะทำให้เกิดการตกตะกอนเป็นก้อนนิ่วอยู่ในถุงน้ำดี ปัญหาที่ตามมา หลังจากที่มีนิ่วในถุงน้ำดี คืออาจมีอาการปวดท้องรุนแรง ตาเหลือง ตัวเหลือง หรือมีภาวะช็อกจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ จากการเกิดภาวะแทรกซ้อนหากก้อนนิ่วไปอุดตันตามส่วนต่างๆ ได้แก่
นิ่วอุดตันบริเวณปากถุงน้ำดี มีความเสี่ยงเกิดภาวะถุงน้ำดีอักเสบ ทั้งชนิดอักเสบไม่รุนแรง และชนิดอักเสบรุนแรงมากถึงขั้นติดเชื้อในกระแสเลือด และเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันไม่ดี มีโรคประจำตัว หรือมีอายุที่มากขึ้น
นิ่วอุดตันบริเวณท่อน้ำดี ทำให้น้ำดีไม่สามารถไหลลงมาที่ลำไส้ แต่ไหลย้อนกลับไปที่ตับ จะส่งผลให้เกิดภาวะตาเหลือง ตัวเหลืองหรือท่อน้ำดีอักเสบได้
นิ่วอุดตันบริเวณปลายท่อน้ำดี มีความเสี่ยงเกิดภาวะตับอ่อนอักเสบ เนื่องจากอยู่ใกล้กับท่อตับอ่อนที่มีหน้าที่ขับน้ำย่อยออกมา ทำให้น้ำย่อยออกไม่ได้และไหลย้อนกลับไปที่เนื้อของตับอ่อน มีหลายระดับความรุนแรง หากอักเสบรุนแรงมาก อาจเกิดภาวะช็อกและเสียชีวิตได้
นอกจากนี้ ในลำไส้ของเรามีเชื้อโรคอยู่ หากมีการอุดตันจนน้ำดีไหลลงมาชะล้างไม่ได้ อาจเพิ่มโอกาสที่จะมีเชื้อโรคเข้าไปในท่อน้ำดี และเกิดภาวะท่อน้ำดีอักเสบ มีอาการตาเหลือง ตัวเหลืองร่วมกับมีไข้หนาวสั่นได้เพราะฉะนั้นหากเคยมีอาการของภาวะต่างๆ เหล่านี้ หรือข้อบ่งชี้อื่นๆ เช่นมีความผิดปกติของถุงน้ำดี นิ่วมีขนาดใหญ่มากกว่า 1-2 ซม. ตรวจพบติ่งเนื้อในถุงน้ำดีร่วมกับนิ่วหรือเป็นผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคเลือดบางชนิด ควรได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัด
ความเข้าใจผิดของคนส่วนใหญ่ มักคิดว่าการรักษานิ่วในถุงน้ำดีสามารถรักษาด้วยการรับประทานยา หรือยิงคลื่นเสียงในการสลายนิ่ว แต่ในความเป็นจริงการรักษาที่เป็นวิธีเฉพาะเจาะจงและได้ผลดีที่สุดกับโรคนี้ คือการผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออก ซึ่งไม่มีความอันตรายหรือก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย เนื่องจากถุงน้ำดีเป็นเพียงที่กักเก็บน้ำดีเท่านั้น เมื่อผ่าตัดออกน้ำดียังคงถูกผลิตมาจากตับเช่นเดิม
ปัจจุบัน การผ่าตัดรักษานิ่วในถุงน้ำดี จะใช้วิธีการผ่าตัดส่องกล้อง ทำให้มีแผลขนาดเล็กประมาณ 5 มม.-1 ซม. เจ็บตัวน้อย ฟื้นตัวเร็ว กลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ไว ต่างจากการผ่าตัดเปิด ที่จะทำให้มีแผลขนาดใหญ่อยู่ใต้ชายโครง ซึ่งเป็นบริเวณที่อยู่ใกล้หน้าอก อาจส่งผลกระทบต่อการหายใจหลังผ่าตัด เนื่องจากอาจเจ็บแผล และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ ข้อจำกัด ใครบ้างที่ผ่าตัดได้-การผ่าตัดปัจจุบันไม่ใช่การผ่าตัดรุนแรงเหมือนในอดีต เพราะฉะนั้น ถ้าคนไข้ไม่ได้มีโรคประจำตัวรุนแรงหรือมีการติดเชื้อที่รุนแรงเกินไป ก็สามารถผ่าตัดได้ยกเว้น คนที่มีถุงน้ำดีอักเสบและติดเชื้อรุนแรงมีความไม่คงที่ของสัญญาณชีพ อาจจะต้องไปรักษา ลดและระบายการติดเชื้อออกก่อน แล้วจึงเข้ารับการผ่าตัดต่อไป
“การผ่าตัดรักษานิ่วในถุงน้ำดี ไม่ใช่การผ่าตัดที่น่ากลัวเหมือนในอดีต เพราะฉะนั้นถ้าผู้ป่วยที่ไม่ได้มีโรคประจำตัวรุนแรง หรือมีการติดเชื้อที่รุนแรง หรือมีสัญญาณชีพที่ไม่คงที่ สามารถเข้ารับการรักษาได้ทั้งหมด ซึ่งหลังจากผ่าตัดถุงน้ำดีออกแล้ว สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ยกเว้นในกรณีรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง อาจเกิดอาการท้องอืดเหมือนอาหารไม่ย่อยหรืออาจมีไขมันบางส่วนอาจจะออกมากับอุจจาระ เป็นไขมันลอย แต่ไม่ได้เป็นอาการที่อันตรายอะไร” นายแพทย์วีรยุทธ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี