หลังจากที่องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประกาศรับรองขึ้นทะเบียนนวดไทยเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ที่กรุงโบโกตา ณ สาธารณรัฐโคลอมเบีย เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2562 สร้างความยินดีแก่ประชาชนชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหารร่วมกับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม มูลนิธิทุนพระพุทธยอดฟ้าในพระบรมราชูปถัมภ์ โรงเรียนแพทย์แผนโบราณ วัดพระเชตุพน มูลนิธิสิริวัฒนภักดี บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และ ภาคีเครือข่ายด้านการนวดไทย จัดงาน “ฉลองนวดไทยมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมและงานสัปดาห์วันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ” ระหว่างวันที่ 29ตุลาคม-2 พฤศจิกายน 2563
ภายในงานประกอบด้วยโซนนิทรรศการ “สดุดีพระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย”, “นวดไทยมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม”, “ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย”, “ฤๅษีดัดตน ต้นกำเนิดนวดไทย” โซน “ศาสตร์นวดไทย สืบสานมรดกโลก” โซนเวทีเสวนา/การแสดง “ทั่วโลก ยลวิจิตร ศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาไทย” ประกอบด้วย กิจกรรม เสวนานวดไทยการแพทย์แผนไทย การแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง การแสดงฤๅษีดัดตน การแสดงศิลปะพื้นบ้านไทย และร่วมช็อปโซนร้านค้า ด้วย โซน “มหัศจรรย์ ตำรับยาสมุนไพรไทย แก้สรรพโรค”โซน “ไร้โรคภัย กินอย่างไรให้เป็นยา” โซน “สืบทอดภูมิปัญญาการแพทย์ไทย” และโซน “ครบเครื่องศาสตร์นวดไทย”
การแสดงชุดฤๅษีดัดตน ตำรับวัดพระเชตุพน
พระราชปริยัติมุนี (รศ.ดร.เทียบ สิริญาโณ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพน กล่าวว่า “ตอนที่องค์การยูเนสโก ประกาศขึ้นทะเบียนรับรองนวดไทย เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ โดยเฉพาะนวดตำรับวัดพระเชตุพนได้มีการจารึกไว้ในจารึกวัดพระเชตุพนเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่ามีความครบถ้วนและสมบูรณ์ทุกประการ ซึ่งจุดกำเนิดการ “นวดไทย” เกิดขึ้นที่วัดพระเชตุพน ปัจจุบันภายในวัดพระเชตุพนยังเป็นที่ตั้งของโรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพน มีการให้บริการและสอนด้านการนวดไทยแก่ผู้สนใจ ดังนั้นองค์ความรู้ด้านการนวดตำรับวัดพระเชตุพนนี้ จึงได้มีการถ่ายทอดแตกแขนงออกไปอย่างกว้างขวางจนถึงปัจจุบันช่วงที่โควิด-19 ยังไม่ระบาดมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมา ยังวัดพระเชตุพนเฉลี่ยวันละประมาณ 6,000-10,000 คน ในจำนวนนักท่องเที่ยวเหล่านี้ มักจองคิวเพื่อขอรับบริการ “นวดไทยตำรับวัดพระเชตุพน”อีกด้วย”
ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า “กระทรวงวัฒนธรรม โดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม มีหน้าที่ส่งเสริมและดำเนินการปกป้องคุ้มครองมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมภูมิปัญญาด้านการนวดไทยเป็นศาสตร์และศิลป์ทางการแพทย์ดั้งเดิมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมท้องถิ่น เป็นการรักษาทางเลือกควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพตามแบบแผนตะวันตก เป็นมรดกภูมิปัญญาที่ได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ปัจจุบันมีองค์กรต่างๆ ที่ส่งเสริมและพัฒนาการนวดไทยกว่า 50 องค์กร รวมไปถึงองค์กรภาควิชาชีพสถาบันการเรียนการสอนและสถานประกอบการเพื่อสุขภาพทั่วประเทศ”
บริการนวดต้นตำรับวัดโพธิ์
ด้าน ฐาปน สิริวัฒนภักดี ไวยาวัจกรวัดพระเชตุพน และกรรมการมูลนิธิสิริวัฒนภักดีกล่าวเพิ่มเติมว่า “จารึกนวดไทย และฤๅษีดัดตน เกิดจากพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) และพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) โปรดสร้างไว้เป็นทาน เมื่อครั้งสถาปนาและปฏิสังขรณ์วัดพระเชตุพน จนเปรียบเทียบว่า “วัดพระเชตุพน เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย” และเป็นแหล่งเล่าเรียนสรรพวิชาความรู้ภูมิปัญญาไทยหลายแขนง ในบรรดาสรรพวิชา “จารึกวัดโพธิ์” ซึ่งมีทั้งหมด 1,440 ชิ้น ซึ่งได้รับขึ้นทะเบียนเป็น มรดกความทรงจำแห่งโลก โดยองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ (UNESCO) โดยในจำนวนนั้น มี 60 ชิ้นพิเศษ จารึกเกี่ยวกับการนวดไทยไว้ เป็นหลักฐานองค์ความรู้การนวดไทย ที่มีความสมบูรณ์ครบถ้วนมากที่สุดในปัจจุบัน จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ(UNESCO) ปี 2562 อีกด้วย และเมื่อวัดพระเชตุพนจะจัดงาน “ฉลองนวดไทยมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” ซึ่งเป็นโอกาสที่จะเผยแพร่ความรู้และภูมิปัญญาด้านสุขภาพของประเทศไทย ทั้งการนวดไทย และฤๅษีดัดตน ที่มีทั้งจารึกตำรา และรูปหล่อฤๅษีดัดตน นับเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับมวลมนุษยชาติ ซึ่งผมในฐานะคนไทยและไวยาวัจกร ของวัดพระเชตุพน รู้สึกยินดีในการจัดงานฉลองและได้มีโอกาสร่วมในครั้งนี้ด้วย”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี