ปัจจุบันการทำงานเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากและมีการแข่งขันสูง ซึ่งองค์กรต่างๆ ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความท้าทาย รวมถึงพยายามสร้างสิ่งแวดล้อมในการทำงานให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงบนยุคที่คนเราไม่ได้พิจารณาเลือกองค์กรที่มีชื่อเสียง ค่าตอบแทน หรือสวัสดิการที่ดีเท่านั้น แต่องค์กรนั้นๆ จะต้องสร้างความสุขให้เกิดขึ้นในที่ทำงานด้วย โดยเฉพาะในยุคแห่งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 ที่ทำให้วิถีการดำเนินชีวิตและการทำงานต้องเปลี่ยนไปอย่างมาก โดยหลายองค์กรต้องเผชิญและรับมือกับวิกฤตินี้อย่างเต็มที่ ซึ่งการรับมือในบางองค์กรไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อความสุขของบุคลากรหรือพนักงานได้ ไม่ว่าจะเป็นการตัดทอนค่าใช้จ่าย หรือลดสวัสดิการบางอย่าง เป็นต้น
สำหรับบริษัทยาข้ามชาติชั้นนำแห่งหนึ่งของโลกอย่าง “ไฟเซอร์” ที่ยืนหยัดเคียงข้างผู้ป่วยและคนไทยมากว่า 60 ปี ได้มอบสวัสดิการพิเศษและการดูแลสุขภาพของพนักงานอันเป็นการป้องกันพนักงานให้ห่างไกลจากโควิด-19 รวมถึงโรคหวัดตามฤดูกาล การให้ประกันสุขภาพและประกันชีวิตสำหรับโควิด-19 และอื่นๆ ส่งผลให้เกิดความสุขและความรักในองค์กรที่มากยิ่งขึ้นของพนักงาน ซึ่งประจักษ์ในนโยบายของบริษัทฯ ที่ผู้บริหารดำเนินการให้เกิดขึ้นจริงเป็นรูปธรรมในการให้ความสำคัญกับสุขภาพ สวัสดิการและความปลอดภัยของพนักงานเป็นหลัก รวมถึงการทำบริษัทให้เป็นสุดยอดที่ทำงานและเป็นองค์กรในฝันของพนักงานและคนทำงาน ซึ่งเป็นความสุขและความพึงพอใจที่เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เกิดจากวัฒนธรรมการเคารพในความหลากหลายและการมีส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่ง (Diversity and Inclusion) หรือ ดีแอนด์ไอ (D&I) และค่านิยมขององค์กร (Corporate Values) ที่ล้วนเสริมสร้างก่อให้เกิดความรัก ความสุข ความพึงพอใจ และความภาคภูมิใจในองค์กรขึ้นในหมู่พนักงาน
ศศิวิมล วงศ์ไวโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายบุคคล บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ให้ทัศนะเกี่ยวกับวัฒนธรรมดังกล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า “ไฟเซอร์ ตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของความแตกต่างและหลากหลายของพนักงานในการร่วมกันขับเคลื่อนองค์กรและธุรกิจไปสู่เป้าหมายและความเป็นเลิศในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไฟเซอร์ ที่มีสาขาตั้งอยู่ทั่วโลกจึงจำเป็นอย่างยิ่งในการติดต่อประสานงานกับเพื่อนร่วมงานที่มีความหลากหลายทั้งเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา วัฒนธรรม รูปลักษณ์ภายนอก ค่านิยม ความเชื่อ ทัศนคติและประสบการณ์ส่วนบุคคล เป็นต้น ทางบริษัทในประเทศไทยจึงให้คุณค่าและยอมรับในความแตกต่างหลากหลายของเพื่อนร่วมงานซึ่งทุกคนสามารถมีส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งและได้รับการยอมรับโดยเท่าเทียมกัน ทั้งนี้สามารถกล่าวได้อย่างเต็มภาคภูมิว่า ไฟเซอร์ ประเทศไทย เป็นองค์กรที่เคารพในสิทธิความเท่าเทียม มีความเสมอภาค (Equity) ซึ่งเป็นหนึ่งในค่านิยมหลักขององค์กร ปราศจากซึ่งอคติและการกีดกันในเรื่อง ดีแอนด์ไอ (D&I) ซึ่งทำให้บริษัทสามารถเป็นองค์กรแห่งความคิดสร้างสรรค์เพราะพนักงานมีความเข้าใจดีในเรื่อง ดีแอนด์ไอ มีความกล้าในการแสดงออก กล้านำเสนอความคิดใหม่ๆ และทำงานกันอย่างเต็มศักยภาพ
โดยนับถือและให้เกียรติซึ่งกันและกัน ทั้งยังให้ความร่วมมือกันอย่างดีทำให้พนักงานทำงานอย่างมีความสุข เกิดความสนุกสนานเบิกบานใจสะท้อนอีกหนึ่งค่านิยมขององค์กรคือ Joy”
จีรศรี จิตตรัตน์เสนีย์ ผู้ทำหน้าที่เลขาฯ ให้แก่ผู้จัดการใหญ่ เป็นตัวแทนพนักงานในเรื่องความหลากหลายในวัย (Age Diversity) ซึ่งปัจจุบันนี้เธอเข้าสู่วัยเกษียณแล้วแต่ยังได้รับความไว้วางใจจากบริษัทให้ทำหน้าที่ต่อ ซึ่งคุณจีรศรีได้บอกความรู้สึกว่า “ดีใจที่หัวหน้างานและองค์กรเห็นคุณค่าในความรู้ความสามารถโดยเฉพาะอย่างยิ่งประสบการณ์ของเธอในการทำหน้าที่ตามตำแหน่งความรับผิดชอบ ส่วนเรื่องวัยไม่เป็นปัญหาหรืออุปสรรคในการทำงานที่ไฟเซอร์ เธอได้รับความเคารพและให้เกียรติอย่างดีจากเพื่อนร่วมงานทุกเพศวัยทำให้เธอทำงานอย่างมีความสุขความสบายใจในทุกวันพร้อมขอบคุณองค์กรที่ให้โอกาสเธอได้ทำงานในวัยเกษียณทำให้เธอมีสุขภาพกายใจที่แข็งแรง และทำให้เธอได้มีปฏิสัมพันธ์กับสังคมเพื่อนร่วมงานต่างวัยที่ทำให้เธอได้เรียนรู้และมีความทันสมัยตามทันโลกที่เปลี่ยนไปและสิ่งสำคัญที่สุดคือมีความภาคภูมิใจในตนเองที่เธอยังมีคุณค่าในวัยเกษียณ”
ในส่วนของ เลิศวิทย์ เกตุชาติ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของพนักงานที่ได้รับการยอมรับให้เป็นผู้บริหารเยาวชนคนรุ่นใหม่ (Young Leadership) ผู้ที่เป็นตัวอย่างของการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารที่อายุน้อยจากผลงานและความรู้ความสามารถ “เมื่อผลงานและความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์บวกกับมีความพร้อมทุกคนสามารถได้รับโอกาสที่เข้ามาเสมอ เพราะที่ไฟเซอร์ทุกคนมีโอกาสก้าวหน้าเติบโตในสายอาชีพตามความสามารถและผลงานไม่ใช่ตามระบบอาวุโสหรือเพราะอยู่มาก่อนหรืออยู่มานาน ผมดีใจที่ได้รับการยอมรับและความเชื่อมั่นไว้วางใจในขีดความสามารถของผมซึ่งเพื่อนร่วมงานที่ขึ้นตรงต่อผมที่มีความอาวุโสกว่าก็ให้เกียรติ รับฟังความคิดเห็นของกันและกันและสนับสนุนการทำงานของผมอย่างดี ทำให้ผมทำงานอย่างสบายใจ ไร้กังวลและมีความสุขกับทีมงานคุณภาพ”
สังคมในปัจจุบันนี้มีการยอมรับและเปิดกว้างมากขึ้นในเรื่องความแตกต่างเพศสภาพและรสนิยมทางเพศ (Sexual orientation) ซึ่งไฟเซอร์นั้นเป็นอีกหนึ่งองค์กรชั้นนำในระดับแนวหน้าที่สนับสนุนให้พนักงานทุกคนมีทัศนคติที่เปิดกว้างยอมรับความแตกต่างของเพื่อนร่วมงานรวมถึงทุกเพศสภาพ โดยทุกคนต้องได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียม เสมอภาค ไร้ซึ่งการกีดกัน และเคารพในความแตกต่างโดยปราศจากอคติ
ปัจจุบัน บุณยเกตุ เป็นอีกคนหนึ่งที่มีความสามารถในฐานะผู้นำอายุน้อย ซึ่งสามารถสร้างผลงานที่ดีเป็นที่ประจักษ์และยอมรับจนได้รับโอกาสเลื่อนตำแหน่งจากผู้แทนยาเป็นผู้นำที่ต้องบริหารทีมขายนับสิบชีวิตคุณปัจจุบันให้ความคิดเห็นว่า “ไฟเซอร์ ประเทศไทย เป็นสุดยอดองค์กรในฝันเพราะนอกจากสวัสดิการต่างๆ ที่บริษัทดูแลพนักงานอย่างดีมากแล้ว เขาคิดว่าไฟเซอร์เป็นองค์กรที่ทุกคนให้เกียรติและเคารพช่วยเหลือซึ่งกันและกันไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก และให้การยอมรับเพื่อนร่วมงานในทุกเพศสภาพ โดยทุกๆ คนสามารถแสดงศักยภาพในการทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มกำลังความสามารถและเป็นแบบอย่างของผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ตนเอง”
“ไฟเซอร์” ได้ดำเนินการเรื่อง D&I อย่างจริงจังโดยเห็นได้จากการมีผู้บริหารที่เป็นเพศหญิง อยู่จำนวนหนึ่งซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ
นุจรีย์ พงษ์ประภาพันธ์ ผู้มีอายุการทำงานกับไฟเซอร์มายาวนานกว่า 20 ปี เธอมีความสุขกับการทำงานในบริษัทที่มีสภาพแวดล้อมในการทำงานดี เอื้อต่อการเสริมสร้างความเข้าใจและร่วมมือกันทำให้เกิดความรักความสามัคคีเป็นนํ้าหนึ่งใจเดียวกัน ที่สำคัญเป็นองค์กรที่ให้โอกาสอย่างเสมอภาค โดยเธอคิดว่าเรื่อง D&I ในที่ทำงานเป็นเรื่องที่ต้องมีและต้องทำให้เกิดเป็นรูปธรรมด้วยกลยุทธ์และแบบแผนการดำเนินงานไม่ใช่แค่การ “มีก็ดี” ซึ่งการทำให้เกิดผลสำเร็จได้ในองค์กรนั้นทุกคนต้องทำในสิ่งที่ได้พูดไว้
ซานดีฟ มิตรา ผู้บริหารซึ่งเป็นตัวแทนของพนักงานที่มีความแตกต่างเรื่องเชื้อชาติได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์และมุมมองในฐานะของคนอินเดียซึ่งทำงานร่วมกับคนไทยราว 300 คน ว่า แม้จะเป็นชนกลุ่มน้อยในองค์กรเขาก็ไม่รู้สึกถึงการถูกเลือกปฏิบัติหรืออคติที่เพื่อนพนักงานมีต่อเขา ซึ่งเขาเองมีความภาคภูมิใจที่ได้ทำงานในบริษัทที่พนักงานทุกคนล้วนมีความสำคัญโดยการได้เป็นส่วนหนึ่งและมีส่วนร่วมในองค์กร เขามีความสุขในการทำงานกับไฟเซอร์ ที่ส่งเสริมและสนับสนุนเรื่องการยอมรับและเห็นคุณค่าของการมีส่วนร่วมโดยเพื่อนพนักงานมีความเข้าใจและยอมรับวัฒนธรรมที่หลากหลายด้วยความเคารพในความแตกต่างและลักษณะเฉพาะของเพื่อนร่วมงานแต่ละคน “ผมเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมว่าคนที่มีความสุขในการทำงานโดยมีมุมมองที่หลากหลายจะสามารถสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นและยอดเยี่ยม”
นอกจากนี้ มนทิรา ขันทอง หนึ่งในผู้บริหารของ ไฟเซอร์ ประเทศไทย ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปลูกฝังวัฒนธรรม D&I ในองค์กรว่า “การเสริมสร้างวัฒนธรรมเรื่องความหลากหลายนั้น คือการให้คุณค่าและยอมรับนับถือในความแตกต่างของกันและกันรวมถึงการให้แต่ละคนที่มีความแตกต่างหลากหลายเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรโดยไม่มองข้ามความสำคัญเพราะเชื่อมั่นว่าจะเป็นสิ่งที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และเพิ่มพูนศักยภาพทางธุรกิจเนื่องจากเราจะมองหาแนวคิดใหม่ๆ และวิธีการที่แตกต่างอยู่เสมอในการรับมือกับความท้าทายต่างๆรวมถึงในการแก้ไขปัญหาและการสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจ ซึ่งเชื่อว่าวัฒนธรรมดังกล่าวจะสร้างความเป็นเอกภาพในความแตกต่างให้เป็นพลังที่ไม่สิ้นสุดในการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายและความสำเร็จ”
“การบรรเลงเพลงนั้นหากใช้เครื่องดนตรีหลากหลายชนิดมาบรรเลง ย่อมส่งผลให้เกิดความไพเราะ น่าฟังมากขึ้นกว่าการบรรเลงด้วยเครื่องดนตรีเพียงชนิดเดียวไฟเซอร์ก็เช่นกัน เรารวมพนักงานที่มีความหลากหลายแตกต่างกัน ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนองค์กรแม้แต่ผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย เราให้โอกาสความเท่าเทียมกัน พนักงานจะได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพและมีศักดิ์ศรีในความเท่าเทียมกันของเพื่อนมนุษย์ โดยเราปลูกฝังในเรื่อง D&I ให้เป็นเรื่องสำคัญของบริษัทที่พนักงานจะต้องมีความเข้าใจและยึดถือปฏิบัติให้เกิดเป็นเอกภาพและสร้างสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่เปี่ยมไปด้วยความรัก ความสามัคคี เข้าอกเข้าใจ เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่งล้วนเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ในการขับเคลื่อนบริษัทไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและให้พนักงานทำงานอย่างมีความสุขโดยแสดงศักยภาพของแต่ละคนออกมาอย่างเต็มที่ส่งผลดี
ต่อความก้าวหน้าของบริษัท และสามารถรักษาพนักงานที่มีคุณภาพไว้ได้ อีกทั้งสามารถดึงดูดทั้งคนเก่งและดีให้มาร่วมงานได้มากยิ่งขึ้น ยิ่งตอกย้ำการเป็นองค์กรในฝันที่แท้จริงของคนทำงาน” คุณศศิวิมล กล่าวทิ้งท้าย
การทำงานอย่างมีความสุข เบิกบานใจ (Joy) ในองค์กรที่ได้รับการปฏิบัติอย่างเสมอภาค (Equity)ให้เกียรติ ยอมรับนับถือซึ่งกันและกัน ทำให้พนักงานกล้า (Courage) ที่จะแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างหรือนำเสนอความคิดใหม่ๆ ซึ่งล้วนส่งเสริมให้เกิดความเป็นเลิศ(Excellence) ในองค์กร โดยสะท้อนค่านิยมหลัก 4 ตัวของไฟเซอร์ ที่ได้ปลูกฝังและดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี