อเล็กซานดรา แมคเคนซี
สหราชอาณาจักร ร่วมกับทรู ดิจิทัล พาร์ค จัดงาน Bangkok Climate Change Hackathon เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้าร่วมค้นหาโซลูชั่นหลากหลายมิติ เพื่อแก้ไขและรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี รวมถึงสร้างความตระหนักให้กับสังคมในการช่วยกันดูแลและแก้ไขภาวะโลกร้อน โดยใช้แนวคิดการทำงานแบบสตาร์ทอัพ เพื่อพัฒนาโซลูชั่นธุรกิจ ซึ่งเป็นกิจกรรมอุ่นเครื่องก่อนงานประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 26(COP26) ที่จะจัดในปีหน้า ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร
นางสาวอเล็กซานดรา แมคเคนซีอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นประเด็นใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คนทั่วโลก ยิ่งเมื่อเกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็นับเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่ส่งผลให้คนใส่ใจและดูแลโลกใบนี้มากขึ้น เพื่อให้สิ่งแวดล้อมกลับคืนสู่สภาพเดิมให้ได้มากที่สุด ซึ่งจากการเล็งเห็นถึงความสำคัญของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สหราชอาณาจักรจึงร่วมมือกับทรู ดิจิทัล พาร์คจัดงาน Bangkok Climate Change Hackathon
“แฮคกาธอนครั้งนี้ จุดประกายให้เกิดโซลูชั่นและนวัตกรรมสำหรับแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรและประเทศไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องเทคโนโลยีสะอาด (Clean Technology) และการสร้างความตระหนักถึงศักยภาพในการฟื้นฟูที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Recovery) จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะเดียวกันยังเป็นกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 26 (COP26) ซึ่งจะจัดขึ้นที่สหราชอาณาจักรในปีหน้าอีกด้วย”
ทีมชนะเลิศ และรองชนะเลิศทั้ง 2 ทีม จากการแข่งขัน Bangkok Climate Change Hackathon
ทั้งนี้ หัวข้อการแข่งขันของBangkok Climate Change Hackathon นั้นสอดคล้องกับหัวข้อการจัดประชุมงาน COP26 ได้แก่ 1.การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างสะอาด (Clean Growth) 2.กลไกด้านการเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Finance) 3.การปรับตัวและการสร้างความมั่นคงเข้มแข็งต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศในอนาคต (Adaptation and Resilience) และ4.การแก้ปัญหาที่อาศัยธรรมชาติเป็นพื้นฐาน (Nature-based solutions)ซึ่งงานนี้มีการจัดสัมมนาออนไลน์ 3 ครั้งเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและหัวข้ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจากวิทยากรที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม สตาร์ทอัพ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐของไทยและต่างประเทศ
“เราได้คัดเลือก 17 ทีม ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย เพื่อร่วมเวิร์กช็อปที่ช่วยพัฒนาแนวความคิดและออกแบบธุรกิจเพื่อความยั่งยืน รวมถึงยังมีเรื่อง Product Prototyping และ Application Development พร้อมทั้ง Perfect the Pitch 101 ที่เสริมทักษะการนำเสนอเพื่อชนะใจนักลงทุน โดยทุกทีมได้รับโอกาสในการพบปะพี่เลี้ยงแบบตัวต่อตัว ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญจากไทยและสหราชอาณาจักรที่นำประสบการณ์มาช่วยแนะนำแต่ละทีมในการประยุกต์ใช้นวัตกรรมในโลกแห่งความจริง”
จากการนำเสนอแนวความคิดและแผนธุรกิจ ปรากฏว่าทีมผู้ชนะคือ 4Change ประกอบด้วย นายศิวกร วัชราเวคิน และนางสาวแพรวพรรณ ชีวมงคล จากคณะวิศวกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นางสาวอภิชาดา อัชนันท์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นางสาววริศรา วัลลภศิริ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนางสาวพิสชาผู้พิพัฒน์หิรัญกุล จาก University of California, Berkley
ทีมชนะเลิศ และรองชนะเลิศทั้ง 2 ทีม จากการแข่งขัน Bangkok Climate Change Hackathon
นางสาววริศรา วัลลภศิริ ตัวแทนทีม 4Change กล่าวถึงไอเดียของทีมว่า เพราะเห็นถึงปัญหาการทิ้งโฟมปักดอกไม้ (Floral Foam) ที่เป็นขยะถึงปีละ 3.4 ล้านชิ้น ซึ่งเป็นประเภทขยะที่คนส่วนใหญ่คาดไม่ถึงว่าจะมีจำนวนมากและสร้างผลกระทบมหาศาลเช่นกัน ทางทีม 4Change จึงเสนอนวัตกรรมใหม่ที่ชื่อว่า Biosys เป็นบล็อกปักดอกไม้ (Floral Block) ที่ย่อยสลายได้ เพราะทำมาจากขยะอาหารและสามารถหมุนเวียนนำกลับไปเป็นปุ๋ยสำหรับปลูกพืชได้“พวกเราเห็นขยะจำนวนมากจากโฟมปักดอกไม้แบบเดิมที่ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงอยากหาแนวทางแก้ปัญหา ซึ่งแฮคกาธอนช่วยพัฒนาความคิดของเราให้เป็นรูปร่าง และออกมาเป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ โดยจากการเข้าร่วมแข่งขันทำให้เราได้ความรู้และทักษะด้านธุรกิจสตาร์ทอัพ ที่สำคัญคือได้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหา
สำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันดูแลและงานนี้ได้ทำให้พวกเราได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมเปลี่ยนแปลงโลกได้เช่นกัน”
ทีม 4Change จะได้รับรางวัลมูลค่ากว่า 360,000 บาท ประกอบด้วยเงินสด 60,000 บาท และสิทธิ์นั่งทำงานที่ Co-working space ของ ทรู ดิจิทัลพาร์ค 1 ปี มูลค่า 270,000 บาท รวมถึงได้เครดิตของ Amazon Web Services มูลค่า 30,000 บาท พร้อมได้รับการสนับสนุนเป็นเวลา 1 ปี จาก Department for International Trade (DIT) ที่ช่วยสตาร์ทอัพเฟ้นหานักลงทุนในสหราชราชอาณาจักรที่มีความสนใจตรงกัน
สำหรับทีมรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ Laika นำเสนอแนวคิดการผลิตอาหารสุขภาพสำหรับสุนัขที่ทำจากแมลง ซึ่งมีปริมาณโซเดียมต่ำกว่าอาหารสุนัขทั่วไป และทีมรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ Sapien มีแนวคิดนำสาหร่ายขนาดเล็กมาปลูกบนพื้นผิวอาคารด้านนอก ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าจากเครื่องปรับอากาศและช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศเพื่อลดมลพิษทางอากาศ อีกทั้งยังนำสาหร่ายไปใช้ในการผลิตน้ำมันชีวภาพได้อีกด้วย โดยผู้ชนะทั้ง 3 ทีมจะร่วมนำเสนอแนวคิดที่มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์เมืองทองธานี ในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี