สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินไปในพิธีบำเพ็ญกุศล 100 ปีชาตกาลพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ณ พระอุโบสถวัดราชบพิตรสถิตมหาสีมารามในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2563 ในการนี้มูลนิธิวิภาวดีรังสิต ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานผ้าไตร10 ไตร เพื่อถวายพระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์ และสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระกรุณาเสด็จลงทรงเป็นประธานสงฆ์ในพิธีบำเพ็ญกุศลถวายดังกล่าว นอกจากนี้ มูลนิธิวิภาวดีรังสิต ได้ขออาราธนาพระภิกษุและสามเณรสดับปกรณ์และฉันภัตตาหารเพลทั้งพระอาราม
เนื่องด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ทรงเป็นปูชนียบุคคลไทยพระองค์หนึ่งที่ได้สนองพระเดชพระคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมพระชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตั้งแต่ต้นรัชกาลที่ 9 พระองค์ได้ทรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์ เพื่อที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในถิ่นทุรกันดารภาคใต้ให้ดีขึ้นและได้สิ้นพระชนม์ขณะปฏิบัติพระราชภารกิจแทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์2520
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ทรงมีพระนามเดิมว่าหม่อมเจ้าวิภาวดี รัชนี เป็นธิดาในพระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์(พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส ต้นราชสกุลรัชนี) และหม่อมเจ้าพรพิมลพรรณ(วรวรรณ) รัชนี ประสูติเมื่อวันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ.2463ทรงมีอนุชาร่วมพระบิดาพระมารดาเดียวกันหนึ่งพระองค์ คือ หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี
พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ทรงศึกษาที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัยจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แล้วจึงศึกษาหลักสูตรสมบูรณ์ศึกษาที่โรงเรียนนี้เพิ่มเติมอีก 3 ปี ทรงสำเร็จการศึกษาเมื่อ พ.ศ.2485 ภายหลังที่ทรงสำเร็จการศึกษาแล้ว พระองค์หญิงได้ทรงรับใช้พระบิดาอย่างใกล้ชิดพระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดีในวงการประพันธ์ในนาม “น.ม.ส.” ทรงได้รับการยกย่องว่าเป็น “กวีเอก” ผู้หนึ่งของกรุงรัตนโกสินทร์ คล้ายพระบิดาพระองค์หญิงทรงพระปรีชาสามารถหลายประการ โดยเฉพาะทางอักษรศาสตร์ ทรงเขียนเรื่องสำหรับเด็ก เมื่อพระชันษาเพียง 14 ปี และทรงใช้นามปากกาว่า “ว.ณ ประมวญมารค”ทรงนิพนธ์นวนิยายเรื่อง ปริศนา รัตนาวดีเจ้าสาวของอานนท์ ฯลฯ อีกทั้งสารคดีเรื่องตามเสด็จ ปากีสถานต่อมาทรงนิพนธ์นวนิยายอิงประวัติศาสตร์เรื่อง พระราชินีนาถวิกตอเรีย คลั่งเพราะรัก ฯลฯ นอกจากนั้นยังได้ทรงนิพนธ์เรื่องสั้น รวมทั้งบทละครวิทยุด้วย
พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ทรงเสกสมรสกับหม่อมเจ้าปิยะรังสิต รังสิต เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2489 โดยทรงเป็นคู่สมรสคู่เดียวที่ได้รับพระราชทานน้ำพระมหาสังข์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงมีธิดา 2 คน คือ หม่อมราชวงศ์วิภานันท์ และ หม่อมราชวงศ์ปรียนันทนา รังสิต
พระองค์หญิงทรงเข้ารับราชการสนองพระเดชพระคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงในการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรภาคต่างๆ ในราชอาณาจักร ตั้งแต่พ.ศ.2500 และต่อจากนั้นได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้โดยเสด็จในตำแหน่งนางสนองพระโอษฐ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศรวม 25 ประเทศ
ในระยะ 10 ปีสุดท้ายของพระชนม์ชีพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้พระองค์หญิงปฏิบัติพระราชภารกิจแทนพระองค์ในด้านการพัฒนาพื้นที่ทุรกันดารภาคใต้ ทรงนำหน่วยพระราชทานไปช่วยเหลือประชาชนในท้องที่ที่ไกลและทุรกันดารที่สุด โดยมิได้ทรงย่อท้อต่อความยากลำบากในการเดินทางหรือที่พักแรม เมื่อพระองค์หญิงเสด็จที่ใดก็ได้นำความไปกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และต่อมาความเจริญก็ค่อยๆ ไปถึงที่นั่น จนในที่สุดชาวบ้านจึงได้ขนานพระนามว่า “เจ้าแม่” พระองค์หญิงทรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์เพื่อที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นด้วยการเสด็จเยี่ยมเยียนพาแพทย์ไปรักษาพยาบาลคนที่เจ็บป่วย จัดสิ่งของหยูกยาไปช่วยชาวบ้านที่ยากไร้หรือประสบภัย แจกอุปกรณ์การศึกษาแก่เด็กนักเรียน แนะนำการงานอาชีพและส่งเสริมศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านตามพระราชเสาวนีย์ของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทั้งยังคงนำสิ่งของพระราชทานไปเยี่ยมบำรุงขวัญเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร พลเรือน สมาชิกกองอาสาสมัครรักษาดินแดน แม้ในเขตที่มีผู้ก่อการร้ายปฏิบัติการอย่างรุนแรง ก็ยังทรงพระอุตสาหะเสด็จไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ถึงแนวหน้า
จนกระทั่งวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2520 ระหว่างทางเสด็จโดยเฮลิคอปเตอร์เพื่อนำสิ่งของพระราชทานไปเยี่ยมบำรุงขวัญเจ้าหน้าที่ที่อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทรงทราบจากวิทยุว่ามีตำรวจตระเวนชายแดนได้รับบาดเจ็บจากกับระเบิด 2 นายด้วยความที่ทรงห่วงใยผู้บาดเจ็บเกรงว่าจะได้รับการรักษาพยาบาลไม่ทันท่วงทีจึงรับสั่งให้นักบินเฮลิคอปเตอร์ร่อนลงเพื่อรับเจ้าหน้าที่ที่บาดเจ็บ 2 นายนั้นไปส่งโรงพยาบาล ขณะนักบินนำเครื่องร่อนลงต่ำใกล้บ้านเหนือคลอง อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้ก่อการร้ายได้ระดมยิงเฮลิคอปเตอร์กระสุนทะลุเข้ามาถูกพระองค์หญิง ทรงได้รับบาดเจ็บสาหัสและสิ้นพระชนม์ก่อนเสด็จถึงโรงพยาบาล
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จึงทรงมีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งให้สถาปนาหม่อมเจ้าวิภาวดี รังสิตเป็น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 4 เมษายน พุทธศักราช 2520 และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์มหาจักรีบรมราชวงศ์
ถึงแม้ว่าพระองค์หญิงได้สิ้นพระชนม์ไป 43 ปีแล้ว แต่คุณงามความดีของท่านยังคงอยู่ในความทรงจำของชาวใต้ ชาวสุราษฎร์ธานี โดยได้กำหนดวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของทุกปีคือวันที่ 16 กุมภาพันธ์ เป็น “วันวิภาวดี” เพื่อทำพิธีสดุดีและบำเพ็ญกุศลถวาย ณ พระอนุสาวรีย์ 5 แห่งทั่วจังหวัดสุราษฎร์ธานี
และเนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีชาตกาล พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต มูลนิธิวิภาวดี รังสิตได้นำพระนิพนธ์เรื่องสั้น 4 เรื่อง เป็นเรื่องที่พระองค์เจ้าวิภาวดี ทรงนิพนธ์และจัดพิมพ์ในหนังสือ “เรื่องหลายรส” มาพิมพ์อีกครั้ง ประกอบด้วยเรื่อง : ตามเสด็จ 14 ประเทศจดหมายจากปารีส ตามเสด็จอิหร่าน และตามเสด็จอเมริกา ครั้งที่ 2 ซึ่งมูลนิธิวิภาวดีรังสิต สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้รับพระราชทานพระบรมฉายาลักษณ์และภาพพระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร มาประกอบในหนังสือ นอกจากนี้ บรรณาธิการผู้เรียบเรียงยังได้ค้นคว้าภาพเพิ่มเติมและนำเอกสารในการตามเสด็จที่ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิตทรงเก็บไว้มาประกอบในหนังสือด้วย
อนึ่ง ปี 2563 นี้ เป็นวาระครบ 60 ปีแห่งการเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศทางราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงผู้ที่อ่านหนังสือเล่มนี้จะมีความรู้สึกว่าได้ร่วมตามเสด็จล้นเกล้าฯ ทั้งสองพระองค์ไปกับ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต ผู้โดยเสด็จในฐานะนางสนองพระโอษฐ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงหนังสือเล่มนี้จึงเป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่ผู้อ่านที่สนใจควรสะสมไว้เป็นที่ระลึก
ผู้สนใจหนังสือดังกล่าวสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ มูลนิธิวิภาวดีรังสิต โทร.02-6514480-90 ต่อ 0 หรือร่วมบริจาคเงินจำนวน 1,000 บาทให้กับมูลนิธิฯ จะได้รับหนังสือ(ปกแข็ง) เพื่อสมนาคุณ 1 เล่ม และบริจาคเงินจำนวน 600 บาท จะได้รับหนังสือ(ปกอ่อน)เพื่อสมนาคุณ 1 เล่ม (ราคาทั้งหมดนี้ยังไม่รวมค่าจัดส่ง)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี