วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568
AI เพื่อสิ่งแวดล้อม โครงการ “Sensor for All”
ไมโครซอฟท์สานต่อพันธกิจในการเสริมศักยภาพให้กับทุกคนและทุกองค์กรนำโครงการระดับโลก “AI for Good”สู่ประเทศไทย เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาต่อยอดนวัตกรรม AI สรรสร้างแนวคิดและแนวปฏิบัติใหม่ที่ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับคนไทยในทุกระดับและทุกภูมิภาค บนพื้นฐานของความปลอดภัยและไว้ใจได้ สร้างความอุ่นใจให้กับทุกคน โดยโครงการนี้จะเปิดโอกาสให้นักคิด นักสร้างสรรค์ในไทยได้ใช้ศักยภาพทางเทคโนโลยีเต็มรูปแบบจากคลาวด์ และ AI ของไมโครซอฟท์ เพื่อจุดประกายการพัฒนาสังคมให้ยั่งยืน เปิดกว้าง และเท่าเทียมยิ่งขึ้น
โครงการ AI for Good ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2561 โดยปัจจุบันครอบคลุมการพัฒนาใน 5 ด้านได้แก่ AI for Earth - การแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลก, AI for Health-การสร้างเสริมสุขภาพทั้งในระดับตัวบุคคลและชุมชน, AI for Accessibility-การเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้มีความบกพร่อง, AI for Humanitarian Action-การยกระดับการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ผู้อพยพและไร้ถิ่นฐาน พร้อมปกป้องสิทธิมนุษยชน รวมไปถึงความต้องการพื้นฐานของผู้หญิงและเยาวชน และ AI for CulturalHeritage-การรักษามรดกและภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมให้คงอยู่ต่อไปอย่างมีคุณค่า
นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับประเทศไทยแล้ว เส้นทางการพัฒนานวัตกรรม AI เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น และยังมีโอกาสอีกมากให้เราได้ค้นหาและสร้างสรรค์ต่อไป ในภาคธุรกิจ AI ได้พิสูจน์ตัวเองไปแล้วในฐานะเทคโนโลยีที่สามารถขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจให้พลิกรูปแบบและเติบโตต่อไปได้ แต่เราเชื่อว่า AI สามารถยังมีศักยภาพอีกมากในการทำให้โลกของเราเติบโตอย่างยั่งยืนยิ่งขึ้น สร้างโอกาสให้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน และยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับทุกคน เรากำลังเปลี่ยนความเชื่อนี้ให้กลายเป็นความจริงผ่านโครงการ AI for Good ซึ่งพร้อมสนับสนุนให้นักคิดในประเทศไทยได้นำเทคโนโลยีมาสานฝันของพวกเขาให้เป็นจริง”
.jpg)
เมธาวี ทัศนาเสถียรกิจ
AI เพื่อความเท่าเทียม : วัลแคน โคอะลิชั่นเปิดประตูสู่โอกาสจาก AI ให้กับผู้ที่มีความบกพร่อง โดย บริษัท วัลแคน โคอะลิชั่น ธุรกิจเพื่อสังคมที่มุ่งพัฒนา AI ด้วยทรัพยากรข้อมูลจากฝีมือของผู้พิการ ถูกก่อตั้งขึ้นภายใต้แนวคิดที่ว่าคนทุกคนมีความสามารถพิเศษเฉพาะของตัวเอง ซึ่งแนวคิดนี้ได้จุดประกายโครงการล่าสุดของทางบริษัท นั่นคือการสร้างสรรค์โซลูชั่นฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้พิการสามารถตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย อาการป่วย และเช็คอินเมื่อเข้าสู่สถานที่หรืออาคารต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ ทั้งยังสามารถใช้กล้องตรวจสอบว่าแต่ละคนใส่หน้ากากอยู่หรือไม่ ด้วยระบบ AI ที่ทำงานอยู่บนแพลตฟอร์มคลาวด์ Microsoft Azureทีมงานของวัลแคนตระหนักดีว่าการฝึกสอน AI ที่สามารถแยกแยะภาพใบหน้าคนใส่หน้ากากได้นั้น จำเป็นต้องอาศัยข้อมูลภาพถ่ายจำนวนมากด้วยเหตุนี้ ทางทีมงานจึงตัดสินใจนำกลุ่มผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินให้เข้ามามีบทบาท ใช้ความไวในการสังเกตการณ์ด้วยสายตามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของระบบการฝึก AIในระบบ Vulcan Data Labeling Platform เพื่อสร้างความสามารถที่เหนือขึ้นไปอีกให้กับระบบ
นางสาวเมธาวี ทัศนาเสถียรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัลแคน โคอะลิชั่น กล่าวว่า“ในประเทศไทย การพัฒนา AI ยังมีขีดจำกัดจากปริมาณข้อมูลที่ไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการรับรองความแม่นยำและความน่าเชื่อถือของ AI ในการใช้งานจริง การชักชวนให้ผู้พิการเข้ามาสวมบทบาทผู้ฝึก AI ในโครงการ AI Trainers by Disabilities ของเรา จะช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดนี้และลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำด้านโอกาสในการจ้างงานให้กับพวกเขาไปพร้อมๆ กัน โดยในท้ายที่สุดแล้ว จะช่วยให้สังคมสนับสนุนการอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียมมากยิ่งขึ้น การสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่นี้ เราจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ ควบคู่กับความร่วมมือกับพันธมิตรที่เหมาะสม ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อให้แน่ใจว่าโอกาสที่เรามอบให้จะสามารถเข้าถึงกลุ่มคนที่มีความต้องการโอกาสนั้นมากที่สุดได้”
.jpg)
ทีมวัลแคน โคอะลิชั่น
เพื่อเป็นการสานต่อศักยภาพของระบบนี้วัลแคน โคอะลิชั่น ยังได้ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital EconomyPromotion Agency หรือ DEPA) และบริษัทเอกชนจากหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการเตรียมความพร้อมผู้พิการด้วยทักษะเชิงดิจิทัลที่จำเป็นและช่วยให้พวกเขาก้าวต่อไปได้ในยุคดิจิทัล ในฐานะผู้ฝึก AI
นอกจากนี้ ทีมวัลแคน โคอะลิชั่น ยังได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะในการแข่งขัน AI forAccessibility Virtual Hackathon ในประเทศไทยโดยการแข่งขันดังกล่าวเปิดให้พันธมิตรของไมโครซอฟท์ นักพัฒนาอิสระ สตาร์ทอัพ และมหาวิทยาลัยใน 9 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ได้เข้าชิงชัยด้วยการคิดหาวิธียกระดับคุณภาพชีวิตของผู้พิการและผู้ที่มีความบกพร่องใน 3 ด้านใหญ่ๆ ดังนี้1.ความปลอดภัยและสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน 2.การสื่อสารและสานสัมพันธ์กับผู้อื่น 3.การเพิ่มโอกาสในการทำงาน
AI เพื่อสิ่งแวดล้อม: โครงการ “Sensor for All” โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 บนเส้นทางสู่อากาศบริสุทธิ์ พร้อมสร้างความตระหนักรู้เพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ในประเทศไทย ภายใต้จุดมุ่งหมายที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้จัดตั้งโครงการ Sensor for All เพื่อรวบรวมความเชี่ยวชาญและทรัพยากรจากหลากหลายอุตสาหกรรมและภาคส่วนมาเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์นี้ร่วมกัน ซึ่งในปี 2561 โครงการดังกล่าว ได้ผ่านการคัดเลือกให้ได้รับการสนับสนุนจากโครงการ AI for Earth ของไมโครซอฟท์ ตลอดระยะเวลาสองปีที่ผ่านมา ทีมงาน Sensor for All ได้รับทรัพยากรบนระบบคลาวด์ของไมโครซอฟท์รวมเป็นมูลค่า 30,000 เหรียญสหรัฐ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของโครงการ รวมถึงการสร้างแดชบอร์ดข้อมูลคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ที่ทำงานบนแพลตฟอร์มคลาวด์ Microsoft Azure ด้วย
.jpg)
ศ.ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล กับโครงการ “Sensor for All”
โครงการ Sensor for All ได้ก้าวเข้าสู่ปีที่สามอย่างเต็มตัวแล้ว โดยยังคงได้รับการสนับสนุนจากโครงการ AI for Earth อย่างต่อเนื่องภายใต้แผนงานเพื่อขยายเครือข่ายเซ็นเซอร์ไปยัง500 จุดทั่วประเทศ นอกจากจำนวนเซ็นเซอร์ที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว อุปกรณ์แต่ละชิ้นยังจะได้รับการตั้งค่าและทดสอบโดยละเอียดเพื่อให้สามารถแยกแยะอนุภาคฝุ่นออกจากอนุภาคอื่นๆ ในอากาศเช่น ละอองน้ำ ได้แม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังจะมีการเปิดตัวแอพพลิเคชั่น Sensor for Allอย่างเป็นทางการสำหรับสมาร์ทโฟนเร็วๆ นี้
ด้าน ศ.ดร.สุพจน์ เตชวรสินสกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เสริมว่า “ตลอดปีหน้านี้ ระบบคลาวด์ของไมโครซอฟท์จะเข้ามาช่วยขยายความสามารถของโครงการ Sensor for All ในหลายๆ ด้าน นอกเหนือจากการรายงานการวัดค่า AQI PM2.5 และ PM10แบบเรียลไทม์แล้ว เรากำลังคิดค้นวิธีที่แม่นยำมากขึ้นในการประเมินระดับมลภาวะทางอากาศที่ผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่นแต่ละรายได้สัมผัสจริง และเรายังจะใช้ความสามารถของ AI ในการคาดการณ์ระดับมลพิษทางอากาศล่วงหน้า เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถเตรียมตัวและป้องกันตนเองได้ดีขึ้น”
ผู้สนใจสามารถค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับระบบแดชบอร์ดนี้ได้ที่ ศูนย์ข่าวสารประเทศไทยของไมโครซอฟท์ (http://news.microsoft.com/th-th/) และทวิตเตอร์ @MicrosoftTH
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี