จีจี้-มลธิดา มหาชินะบุญาพัฒน์
สาวสวย ผิวขาวรูปร่างบาง พูดจาฉะฉานคล่องแคล่ว จีจี้-มลธิดา มหาชินะบุญาพัฒน์ สานฝันเปิดธุรกิจเล็กๆ ของตัวเอง ด้วยการเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าขายส่ง ชื่อ ธิดา ในย่านประตูน้ำ ด้วยวัยพียง 22 ปี เริ่มจากขายส่งในประเทศ และขยับมาส่งออก ทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย พม่า ลาว และกัมพูชา ในเวลาเพียง 6 ปี
จีจี้-มลธิดา เผยว่า “แฟชั่นเป็นอะไรที่ไปเร็วมาเร็ว ดังนั้น เราต้องตามเทรนด์ให้ทันเสมอ ต้องก้าวนำคู่แข่งเพื่องานที่ออกมาจะได้สดใหม่ ซึ่งตอนนี้ที่ร้านก็มีทั้งกระโปรงทำงานสำหรับสาวออฟฟิต เสื้อผ้าแฟชั่น ที่เน้นดีไซน์สวย เก๋ เป็นหลัก ซึ่งตอนนี้ก็กำลังจะมีอีกแบรนด์ชื่อ Molt เพื่อขายปลีก เป็นแบรนด์ระดับบนขึ้นมาอีก โดยจะวางขายในช่วงสิ้นปีนี้”
แต่กว่าจะมาเป็น จีจี้ เจ้าของร้านเสื้อผ้าขายส่งชื่อดังย่านประตูน้ำได้ เธอบอกว่า หลังจากจบปริญญาตรีจากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัย อัสสัมชัญ(ABAC) และสามารถคว้าเกียรตินิยมมาให้คุณแม่ได้ชื่นใจเป็นผลสำเร็จ ก็ทำงานด้านโรงแรมอยู่ได้ปีกว่า ก็เริ่มค้นพบตัวเองว่าไม่ชอบการทำงานออฟฟิศการเป็นมนุษย์เงินเดือน ที่ต้องทำงานตามตารางเวลาที่แน่นอน แต่เธอชอบทำการค้ามากกว่าอยากเป็นนายตัวเอง อีกทั้ง คิดว่าหากทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนเพียงอย่างเดียวชีวิตนี้คงเลี้ยงดูคุณแม่ให้สุขสบายในช่วงบั้นปลายชีวิตได้ยาก ประกอบกับตัวเองใช้เงินเก่งก็ควรที่จะหาเงินให้เก่งตามไปด้วย ดังนั้น เธอจึงมองหาธุรกิจเล็กๆ ที่ใช้เงินทุนไม่มากในระยะแรกและต้องเป็นธุรกิจที่เธอชอบ จึงเริ่มถามตัวเองว่าชอบอะไรที่สุด ณ ตอนนั้น ให้พอดีกับเงินลงทุนที่มีอยู่เพียง 500,000 บาท ซึ่งหลังจากได้รับคำแนะนำจากเพื่อนสาวที่ขายเสื้อผ้าเด็กอยู่ก่อนแล้ว ทำให้เธอได้ข้อสรุปและมาลงเลยที่ธุรกิจค้าปลีกเสื้อผ้า ในวัยเพียงแค่ 22 ปีขณะนั้น
ธุรกิจของเธอดำเนินไปได้ดี แต่ก็เหนื่อยสุด ทำมาได้เพียงปีกว่า ทำให้เธอต้องเลือกมาขายส่งเพียงอย่างเดียว แม้จะได้กำไรต่อชิ้นน้อยกว่า แต่ก็ทำงานสบายกว่าขายปลีกที่เจอเรื่องจุกจิกมากกว่า เพราะถ้าทำทั้งปลีกและส่ง ไปด้วยกันมันเหนื่อยมากและแทบจะไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นเลย และจากการเป็นคนสู้งานนี่เอง ที่ทำให้เธอสามารถต่อยอดธุรกิจเล็กๆของเธอจากเงินเริ่มต้น 5 แสนกว่าบาท เธอขยายงานจนสามารถมีเงินหมุนเวียนได้ถึง 5 ล้านบาท ภายในเวลา 5 ปี เรียกว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มีอายุเพียง 28 ปีในขณะนี้
“กว่าจะถึงวันนี้ที่พอจะเป็นปึกแผ่นมากขึ้น ชีวิตก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มีทั้งสุขและทุกข์ระคนกันไป เรื่องเหนื่อยและท้อ ไม่ต้องถามถึง เจอมาแล้วทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะถูกลูกน้องยักยอก เจอคนลอกเลียนแบบเสื้อผ้า ทุกอย่างไม่มีอะไรง่าย ที่รอดมาได้ก็เพราะพยายามมองโลกในแง่ดี สู้ไม่ถอย เหนื่อยก็พักแล้วออกแรงสู้ใหม่”
กำลังใจสำคัญในการทำงานที่ทำให้มีวันนี้ได้ จีจี้-มลธิดา บอกว่า คือ “คุณแม่” ท่านคือต้นแบบของการทำงาน และศูนย์รวมทุกอย่างของเธอ เพราะเธออยู่ตามลำพังกับคุณแม่และน้องชาย ทำให้คุณแม่เป็นผู้หญิงแกร่ง ทำงานหนักเพื่อเลี้ยงลูก ตอนพวกเราเล็กๆ คุณแม่ต้องทำงานค้าขายหลายอย่าง ท่านสู้มาตลอด ล่าสุดคือ ทำบังกะโลให้เช่า อยู่ที่เกาะพงัน จ.สุราษฏร์ธานี
“จีจี้มีแม่เป็นแบบอย่างที่ดี แม่เลี้ยงลูกมา 2 คนด้วยตัวเอง ไม่มีใครช่วยเหลือ ท่านยังสู้มาได้ หนูก็ต้องทำให้ได้ อย่างน้อยเราก็ยังไม่มีภาระมากเท่าแม่ในวันนั้น แม่เคยเหนื่อยกว่าเราอีก ตอนนี้หนูพอมีเงินบ้าง ไม่ลำบาก ก็อยากดูแลแม่ให้สบาย อยากให้ท่านพัก แต่ท่านก็ไม่ยอมยังมาช่วยดูแลที่ร้าน ท่านไม่ชอบอยู่บ้านเฉยๆ ตอนนี้เลยให้ท่านมาช่วยดูแลร้าน ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความสุขของท่าน”
เมื่อถามถึงคติง่ายๆในการทำงาน เธอย้ำว่า ต้องมีความอดทน โอกาสคือสิ่งสำคัญ คนเราต้องวิ่งหาโอกาส อย่าอยู่เฉยๆ มัวแต่รอ ซึ่งถ้าผิดพลาดไปก็สามารถเริ่มใหม่ได้เสมอ ส่วนเวลาว่างเธอจะชอบเข้าฟิตเนส ช้อปปิ้งเพื่อตามเทรนด์แฟชั่น นอกจากนั้น ก็จะเข้าวัดทำบุญกับคุณแม่ปีละ 1-2 ครั้ง ซึ่งเป็นการปฏิบัติธรรมครั้งละ 2-3 วัน ถ้ามีโอกาสก็ทำบุญใส่บาตร ทำบุญให้มูลนิธิสัตว์บ้าง เธอบอกว่า การเข้าวัดทำบุญช่วยให้จิตใจสงบได้เป็นอย่างดี
เรียกว่านอกจากจะสวยแล้ว ยังเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่เป็นแบบอย่างที่ดี ทั้งความคิด ความสามารถ และความกตัญญู
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี