วันพฤหัสบดี ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
กรมวิทย์ เตือน! ห้ามรับประทาน-ห้ามจับ  ‘หมึกสายวงน้ำเงิน’ พิษร้ายอันตรายถึงตาย

กรมวิทย์ เตือน! ห้ามรับประทาน-ห้ามจับ ‘หมึกสายวงน้ำเงิน’ พิษร้ายอันตรายถึงตาย

วันพุธ ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
Tag : หมึกสายวงน้ำเงิน
  •  

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เตือนระวังอันตรายจากหมึกสายวงน้ำเงินหรือหมึกบลูริง (Blue-ringed octopus) มีพิษร้ายแรงมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก มีสารพิษเรียกว่าเตโตรโดท็อกซิน
(Tetrodotoxin) ซึ่งเป็นพิษชนิดเดียวกับที่พบในปลาปักเป้า รุนแรงกว่าไซยาไนด์ถึง 1,200 เท่า ทนความร้อนได้สูงถึง 200 องศาเซลเซียส รับประทานเพียงแค่ 1 มิลลิกรัม ก็ทำให้เสียชีวิตได้ เน้นย้ำห้ามนำมารับประทานเด็ดขาดถึงแม้จะนำไปทำให้สุกด้วยความร้อน ปิ้ง ย่าง ทอดหรือต้มก็ไม่สามารถทำลายพิษได้ และห้ามจับหรือสัมผัสเพราะหากถูกกัดก็อาจได้รับพิษเช่นกัน

นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทนอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า หมึกสายวงน้ำเงินหรือหมึกบลูริง(Blue-ringed octopus) เป็นหมึกยักษ์จำพวกหนึ่งแต่มีขนาดเล็กตัวเต็มวัยมีขนาดลำตัว ประมาณ 4-5 เซนติเมตรมี 8 หนวด แต่ละหนวดยาวประมาณ15-20 เซนติเมตร หมึกสายวงน้ำเงินมีจุดเด่นที่ต่างจากหมึกทั่วไปตรงที่มีลวดลายเป็นวงแหวนสีน้ำเงินกระจายตามลำตัวและหนวด ซึ่งจะตัดกับสีของลำตัวที่ออกเป็นสีเหลืองน้ำตาลอย่างชัดเจน วงแหวนสีน้ำเงินเหล่านี้สามารถเรืองแสงได้เมื่อถูกคุกคาม ทั่วโลกพบหมึกสายวงน้ำเงินทั้งหมดประมาณ 4 ชนิด สำหรับในประเทศไทยมีรายงานการพบหมึกสายวงน้ำเงินสกุล Hapalochlaena maculosa ในน่านน้ำไทยทั้งทางฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย หมึกสายวงน้ำเงินมีสารพิษที่มีความร้ายแรงมากผสมอยู่ในน้ำลาย ผู้ที่ถูกกัดอาจตายได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง จึงนับเป็นหนึ่งในสัตว์น้ำ ที่มีพิษร้ายแรงมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก สารพิษของหมึกสายวงน้ำเงินนั้น เรียกว่า เตโตรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) ซึ่งเป็นพิษชนิดเดียวกับที่พบในปลาปักเป้า ทั้งนี้เตโตรโดท็อกซินที่พบทั้งในหมึกสายวงน้ำเงินและปลาปักเป้าไม่ได้ถูกสร้างจากภายในตัว ของพวกมันเอง เพราะสัตว์เหล่านี้ไม่มียีนที่ควบคุมการสร้างพิษนี้ มีการศึกษาพบว่าพิษนี้สร้างจากเชื้อแบคทีเรียบางชนิด เช่น แบคทีเรียในวงศ์Vibrionaceae, Pseudomanas sp.,Photobacterium phosphorium ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่อนุญาตให้มีการนำเข้าตามบัญชีแนบท้ายพระราชกฤษฎีกา “ห้ามมิให้นำสัตว์น้ำบางชนิดเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2547” 


ทั้งนี้ เตโตรโดท็อกซิน เป็นพิษที่มีผลต่อระบบประสาท โดยปริมาณที่มนุษย์รับประทานแล้วเสียชีวิตคือ ประมาณ 1 มิลลิกรัม ซึ่งมีความรุนแรงกว่าไซยาไนด์ถึง 1,200 เท่า ยิ่งไปกว่านั้นพิษนี้ทนความร้อนได้สูงถึง 200 องศาเซลเซียส ดังนั้นจึงไม่สามารถทำลายพิษได้ด้วยการใช้ความร้อนปกติในการปรุงอาหาร นอกจากนี้ ยังไม่มียาแก้พิษ ผู้ป่วยที่ได้รับพิษเตโตรโดท็อกซินมีอัตราตาย สูงถึง 50-60 เปอร์เซ็นต์ และในกรณีที่ถูกหมึกสายวงน้ำเงินกัด ซึ่งพิษที่เกิดจากกัดจะเกิดอย่างรวดเร็วภายใน 5 นาทีหลังถูกกัด เริ่มจากมีอาการชาบริเวณริมฝีปาก ลิ้น ต่อมาชาบริเวณใบหน้า แขนขาและเป็นตะคริวในที่สุด น้ำลายไหล คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสียซึ่งอาการปวดท้องจะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นกล้ามเนื้อจะเริ่มทำงานผิดปกติ อ่อนแรง ในผู้ป่วยที่ได้รับพิษปริมาณมากระบบประสาทส่วนกลางจะไม่ทำงาน หายใจไม่ออกเนื่องจากกล้ามเนื้อกะบังลมและหน้าอกไม่ทำงาน ทำให้ไม่สามารถนำอากาศเข้าสู่ปอดได้ผู้ป่วยจะเสียชีวิตภายใน 4-6 ชั่วโมงแต่ก็มีรายงานการเสียชีวิตเร็วที่สุดหลังจากได้รับพิษไปเพียง 20 นาทีเท่านั้น 

อย่างไรก็ตาม การปฐมพยาบาลเบื้องต้นต้องหาวิธีนำอากาศเข้าสู่ปอด เช่น เป่าปาก จากนั้นต้องรีบนำส่งแพทย์โดยด่วน เพื่อใช้เครื่องช่วยหายใจ ถ้าช่วยชีวิตเป็นผล ผู้ป่วยจะฟื้นเป็นปกติภายใน 24 ชั่วโมง เว้นแต่ว่าจะขาดอากาศนานเกินไปจนทำให้สมองตาย สำหรับผู้ที่ได้รับพิษจากหมึกสายวงน้ำเงินกัด ควรทำการปฐมพยาบาลในทันทีหลังถูกกัด โดยใช้เทคนิคการกดรัดและตรึงอวัยวะส่วนนั้นไม่ให้เคลื่อนไหว เพื่อทำให้พิษไม่แพร่กระจายเข้าระบบไหลเวียนโลหิต โดยใช้ผ้าพันจากอวัยวะส่วนปลายไล่มาจนถึงบริเวณเหนือแผลที่ถูกกัด ถ้าเป็นบริเวณแขนหรือขาให้ใช้วัสดุไม้ดามไว้ด้วย ถ้าถูกกัดบริเวณลำตัวในกรณีที่พันได้ให้พันด้วย แต่อย่าให้แน่นจนทำให้หายใจลำบาก และไม่ควรกรีดปากแผลที่ถูกกัด เพราะจะทำให้พิษกระจายมากขึ้น เทคนิคนี้เป็นการซื้อเวลาเพื่อให้ผู้ป่วยมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้นก่อนนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล 

ทั้งนี้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มีห้องปฏิบัติการพิษวิทยาที่สามารถตรวจสอบความเป็นพิษของหมึกสายวงน้ำเงินได้ แต่ที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีการส่งตรวจ ดังนั้น เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค จึงได้จัดทำสื่อเผยแพร่ในรูปแบบอินโฟกราฟิกที่เข้าใจง่ายและเผยแพร่ผ่านในหลายช่องทาง เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลความรู้ที่จะนำไปใช้ในการสังเกตลักษณะทางกายภาพของหมึกสายวงน้ำเงินที่มีจุดเด่นที่สำคัญสีสันลำตัว คล้ายวงแหวนสีน้ำเงินหรือสีม่วงและสามารถเรืองแสงได้เมื่อคุกคามหรือรบกวน ดังนั้นห้ามนำมารับประทานเด็ดขาด ถึงแม้จะนำไปทำให้สุกด้วยความร้อน ปิ้ง ย่าง ทอดหรือต้มก็ไม่สามารถทำลายพิษได้ และห้ามจับหรือสัมผัสเพราะหากถูกกัดก็อาจได้รับพิษเช่นกัน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

‘อบต.เหล่าหมี มุกดาหาร’จัดงานลอยกระทง งดพลุ แสง สี เสียง

‘นายกฯอนุทิน’ตอบเอง หลังชาวเน็ตโฟกัส‘ซิป’ งานนี้ฮาไม่เบา

วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี แปลอักษรถวายความอาลัย'สมเด็จพระพันปีหลวง'

ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก‘อบต.นาฝาย ชัยภูมิ’นำเด็กฝึกทำกระทงใบตอง ลดค่าใช้จ่ายวันลอยกระทง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved