"สิว" เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่คนเรามักเข้าใจว่า จะเป็นเฉพาะในช่วงวัยรุ่นเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วสาเหตุของการเกิดสิวมิได้มีเพียงเรื่องของฮอร์โมนเท่านั้น คนไข้หลายรายที่มาขอคำปรึกษาหมอด้วยเรื่องของสิว ที่เป็นแบบเรื้อรังไม่หายเสียที แม้ว่าอายุก็ไม่ใช่วัยทีนเอจแล้ว

สาเหตุของการเกิดสิว ไม่ได้มีเพียงสาเหตุจากฮอร์โมนเพียงอย่างเดียว มันยังมีสาเหตุอื่นๆ อีกมาก ทั้งจากปัจจัยภายในที่มาจากอวัยวะภายในร่างกายเอง ซึ่งอวัยวะสำคัญที่สุดก็คือต่อมไขมันที่จะเกี่ยวกับการเกิดสิว หรือความผิดปกติของฮอร์โมน รอบเดือน และความเครียด ส่วนปัจจัยภายนอกที่มีผลกระทบต่อการเกิดสิว ก็เช่น การใช้เครื่องสำอาง การทาหรือกินยาในกลุ่มสตีรอยด์ หรือแสงแดด ฝุ่น ความร้อน เป็นต้น ยิ่งในคนที่เพิ่งจะเริ่มมาเป็นสิวมากในช่วงอายุ 30–35 ปีขึ้นไป ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวในคนวัยนี้ยิ่งมีมากขึ้นโดยเฉพาะเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เกิดจากความเครียดหรือช่วงก่อนมีประจำเดือน เพราะร่างกายของผู้หญิงเราจะมีระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจะไปกระตุ้นการหลั่งของต่อมไขมัน ส่งผลให้ไขมันที่ผิวมีปริมาณมากขึ้น ทำให้เกิดการสะสมและอุดตันของรูขุมขนเป็นต้นเหตุของสิว  โดยเฉพาะสิวบริเวณข้างแก้มและคาง

ส่วนการรักษาสิว ก็จะแตกต่างกันออกไปตามลักษณะของสิวที่เป็น ถ้าหากเป็นแค่สิวอุดตันเม็ดเล็กๆ ใช้เพียงยาทารักษาสิวก็พอ  แต้มยาไปเรื่อยๆ ซักระยะหนึ่ง สิวก็จะยุบหายไปได้เอง แต่หากยังมีสิวมากๆ หลายๆ เม็ด และเริ่มอักเสบ การใช้ยาทาอย่างเดียวคงเอาไม่อยู่แ แบบนี้หมอจะจ่ายยาให้ไปทานคู่กับการทายาด้วย  ซึ่งยารับประทานนี้ จะไปออกฤทธิ์ทำลายเชื้อแบคทีเรีย ยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน ลดการอุดตันและช่วยลดการอักเสบ ทำให้สิวหายเร็วขึ้น แต่หากใจร้อนหรือจำเป็นต้องใช้หน้าตาออกงานในยามที่สิวอักเสบผุดขึ้นมาบนใบหน้า  หมอจะพิจารณาใช้ยาฉีดร่วมด้วยได้ โดยฉีดยาลงบนตำแหน่งที่มิสิวอักเสบ ก็จะช่วยให้สิวยุบเร็วขึ้น ใช้ในผู้ป่วยที่เป็นสิวอักเสบรุนแรงและสิวหัวช้าง แต่ต้องทนเจ็บหน่อย

วิวัฒนาการในการรักษาสิวตอนนี้ไม่ต้องพึ่งการทานยา เป็นวิธีการรักษาสิวที่พัฒนาขึ้นมาด้วยการฉายแสงเลเซอร์ชนิดอ่อนๆ ( Low Level Laser ) แสงสีแดง Smart light เข้ามาร่วมการรักษาด้วย เมื่อฉายแสงเลเซอร์ไปบนผิวหนัง แสงเลเซอร์จะทำหน้าที่คล้ายยาแก้อักเสบไปทำลายเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวและช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน ใช้รักษาสิวอักเสบที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาชนิดอื่น ทำให้สิวแห้งได้เร็วภายในเวลาเพียงยี่สิบนาทีหลังจากการฉายแสงเลเซอร์ โดยในช่วงแรกๆ หมอแนะนำให้มาทำทุก 2 อาทิตย์ ประมาณ 5 ครั้ง หลังจากนั้นอาจจะมาทำ 3 เดือน/ครั้ง ขั้นตอนสุดท้ายเห็นจะเป็นขั้นตอนของการมาร์สสิวที่ใบหน้าเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นผิวได้ดีขึ้นเป็นอย่างดี            

แต่อย่างไรก็ตามตราบใดที่ต่อมไขมันของคนเรายังทำงานอยู่ บวกกับการผันแปรของฮอร์โมนในร่างกายยังมีอยู่ เมื่อนั้นสิวก็อาจกลับมาเป็นขึ้นได้  จึงควรรักษาหรือดูแลอย่างต่อเนื่อง การจะเลือกแนวทางการรักษาสิวแบบไหน ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังทุกครั้ง เพราะหมอจะพิจารณาร่วมกับความต้องการของคนไข้  ร่วมมือกันรักษา หน้าสวยไร้สิวก็จะอยู่กับเราไปนานๆ

www.apexprofoundbeauty.com Call Center 0805000123