อีกไม่กี่ปีประเทศไทยก็จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ การให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาพจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจยากต่อการรักษา หรือทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลง ฉะนั้นก่อนที่จะสายเกินแก้ การรู้จักปรับตัวและเรียนรู้ที่จะเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลง นับเป็นวิธีดูแลและป้องกันก่อนที่ความเสื่อมถอยตามอายุจะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆตามมา ข้อมูลจาก รศ.ดร.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ อาจารย์ประจำวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ให้คำแนะนำทางเลือกช่วยให้สุขภาพดียืนยาวและมีความสุข ดังนี้
ดวงตา ความยืดหยุ่นของเลนส์ตาลดลง สายตาจะยาวขึ้นเวลาอ่านหนังสือ หรือมองใกล้ต้องอาศัยแว่นตา ตาจะผลิตน้ำตาออกมาได้น้อยลง ทำให้ตาแห้งและเกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุตาได้ง่าย โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์คนยุคนี้ที่อยู่ติดหน้าจอเกือบตลอดเวลาล้วนเป็นปัจจัยผลักดันให้สายตาเสื่อมสภาพมากขึ้น
วิธีรับมือ ควรพักสายตาทุกๆ ครึ่งชั่วโมง หรือกะพริบตาบ่อยๆและเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารประเภทผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ต่างๆ ซึ่งช่วยให้สุขภาพของดวงตาดีขึ้น นอกจากนั้นยังมีสารอาหารอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อดวงตา ไม่ว่าจะเป็นเบต้าแคโรทีน ลูทีนซีแซนทิน สังกะสี และแอนโธไซยาโนไซด์ซึ่งเป็นพฤกษเคมีในกลุ่มเฟลโวนอยด์ที่พบมากในบิลเบอร์รี่ มีบทบาทสำคัญต่อการถนอมสุขภาพตา นอกจากนี้ควรพบจักษุแพทย์ เพื่อตรวจและดูแลการใช้งานของสายตาอย่างสม่ำเสมอ
ผิวหนัง เมื่ออายุที่มากขึ้นการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวหนังน้อยลงจึงทำให้ผิวหนังขาดความยืดหยุ่นชั้นหนังแท้เริ่มบางลง ไม่เก็บกักน้ำและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังดังเดิมรวมถึงไขมันบางส่วนจะลดลง ทำให้เกิดผิวบาง เหี่ยวย่น เป็นริ้วรอย ประกอบกับสภาวะแวดล้อมเป็นพิษแสงแดดที่แผดเผา อาหารที่บริโภคในแต่ละมื้อ สภาพการทำงานที่ยุ่งเหยิงเคร่งเครียดในแต่ละวันยังเป็นตัวการเร่งกระบวนการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติเร็วขึ้น
วิธีรับมือ การหมั่นเติมอาหารผิวไม่ว่าจะเป็นผักสด ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง นอกจากนี้ ควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวและทำให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น นอกจากนี้ ก็ควรพักผ่อนให้เพียงพอทำจิตใจให้แจ่มใสเบิกบานไม่เครียดควบคู่กันไป ที่สำคัญห้ามลืมทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF30 ขึ้นไปอย่างเป็นประจำ
สมองและระบบประสาท หลายๆ คนรู้สึกเหนื่อยล้า สมองตื้อสมาธิเริ่มสั้นลง ความคิดอ่านไม่เฉียบคมฉับไว มีอาการหลงๆ ลืมๆ จนกลายเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน รวมทั้งการดำเนินชีวิตด้านต่างๆก็ถดถอยลง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคุณต้องใช้สมองและความคิดอยู่ตลอด มีปัญหาให้แก้ไม่เว้นแต่ละวัน มีความกดดันกับสภาพรอบข้าง ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นสาเหตุให้บั่นทอนพละกำลังและพลังสมองอย่างมาก
วิธีรับมือ ควรทำจิตใจให้ผ่อนคลายไม่เคร่งเครียด รวมถึงหมั่นออกกำลังกายเพื่อให้ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ จะช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ ขณะเดียวกันก็ควรรับประทานอาหารประเภทโปรตีนเพื่อช่วยให้ระบบประสาทและสมองทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
กระดูกและข้อเข่า จากวัยที่เคยมีมวลกระดูกหนาแน่น เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น มวลกระดูกก็เริ่มบางลงและมีรูพรุนมากขึ้น เพราะร่างกายจะสะสมแคลเซียมในกระดูกได้น้อยกว่าการรั่วสลายที่เกิดขึ้นส่งผลให้กระดูกเปราะบางและแตกหักได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีปัญหาข้อเข่าเสื่อม เพราะมีน้ำหนักตัวมาก ใช้งานข้อเข่ามากเกินไปและไม่เหมาะสมเช่น ยืนนานๆ เดินบ่อยๆ หรือนั่งแช่หน้าคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวันรวมถึงการสวมรองเท้าส้นสูงคู่สวยเป็นนิสัย ฯลฯ
วิธีรับมือ การเสริมความแข็งแกร่งให้กระดูกด้วยการดื่มนม รับประทานปลาเล็กปลาน้อย ปลา-กระป๋องและผักใบเขียวเป็นประจำ เพื่อเพิ่มและสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรงแล้ว การหมั่นออกกำลังกายก็จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูกได้เช่นกัน นอกจากนี้ คุณควรหันมาดูแลข้อเข่าให้แข็งแรงด้วยการหมั่นบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้วยการนั่งเหยียดและกระดกปลายเท้าโดยไม่งอเข่า ควบคู่กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานข้อเข่ามากเกินไปและไม่เหมาะสม
แม้ว่าเราจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเสื่อมถอยของร่างกายที่มาพร้อมกับอายุได้ แต่ก็สามารถเลือกใช้ชีวิตไปพร้อมกับการดูแลสุขภาพให้ดีและยืนยาวอย่างเหมาะสม จะได้รู้เท่าทันและพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ อย่างมีความสุข
อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ขอให้ทุกท่านสวมหน้ากากอนามัยล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง ตรวจคัดกรองอุณหภูมิ และสแกนไทยชนะ หากสงสัยหรือกังวลว่าตนมีความเสี่ยงอยู่ในระดับใด สามารถประเมินความเสี่ยงได้ที่ http://bkkcovid19.bangkok.go.th/ หรือขอคำปรึกษาได้ที่สายด่วน “สำนักอนามัย กทม.” โทร.02-2032393 หรือ 02-2032396
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี