ศิลปินบางคนรังสรรค์ความคิดและจินตนาการ ทั้งยังแสวงหามุมมองใหม่ๆ ในการนำเสนอผลงานภายใต้สภาพแวดล้อมหรือสถานที่ที่คุ้นเคย แต่ทว่าศิลปินด้านประติมากรรมร่วมสมัยอย่าง วาเลครี กูตาร์ (Valérie Goutard) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อวาล (Val) เลือกออกเดินทางจากบ้านเกิดของเธอที่ฝรั่งเศสมาตั้งรกรากในประเทศไทย เพื่อสานต่อความเชื่อและแรงปรารถนาอันแรงกล้า ซึ่งผืนแผ่นดินแห่งนี้เองทำให้เธอได้สร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่นจนได้รับยกย่องว่าเป็นหนึ่งในประติมากรที่สำคัญที่สุดในศตวรรษนี้
ผลงานของ วาล จะได้รับการเฉลิมฉลองและจัดแสดงอีกครั้งในเดือนมกราคม 2563 เพื่อเป็นการย้อนระลึกถึงเธอและงานศิลปะที่เธอรักและรังสรรค์ขึ้นในช่วงที่เธออาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยงานนิทรรศการดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้ชื่อ “The Reflection of Infinity” ณ เอส เอ ซี แกลเลอรี (ศุภโชคดิ อาร์ต เซ็นเตอร์) โดยเน้นนำเสนอสาระสำคัญของชีวิตและการทำงานของ วาล ในประเทศไทย ทั้งยังเป็นการรวบรวมผลงานที่หลากหลายมากที่สุด
วาล หรือ วาเลครี กูตาร์
วาล เป็นศิลปินที่เรียนรู้ด้วยตัวเอง โดยเริ่มต้นจากการสร้างสรรค์ผลงานด้วยดินเหนียว เธอสร้างสตูดิโอของตัวเองขึ้นในกรุงเทพฯ เมื่อปี 2547 และแสดงผลงานชุดแรกของเธอในปีเดียวกัน ซึ่งวาลได้กล่าวถึงผลงานชุดนั้นว่าเป็นการผสมผสานระหว่างเสรีภาพอันยิ่งใหญ่และความเป็นชุมชนที่อบอุ่นของเอเชีย โดยผลงานของเธอได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวางในช่วงเวลาอันสั้นและในช่วงเวลานั้นเองเธอยังได้พบกับ นายเฟรเดริก โมเรล (Frédéric Morel) สุภาพบุรุษคนหนึ่งที่ต่อมาคือ สามีและตัวแทนของเธอและยังคงอาศัยอยู่ในประเทศไทย
ผลงานประติมากรรมเกือบทั้งหมดของ วาล สร้างสรรค์ขึ้นจากสัมฤทธิ์ที่หล่อโดยทีมช่างชาวไทยของเธอณ โรงงานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา งานของ วาล มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นในด้านความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่กับส่วนโค้งและความแตกต่าง วาลเคยกล่าวถึงงานของเธอว่าเป็นดั่งพื้นที่ที่ “ความสมบูรณ์และความว่างเปล่าปฏิสัมพันธ์กันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด”
การจัดแสดงผลงานของ วาล มีความน่าสนใจเป็นพิเศษ กล่าวคือมีการนำเสนอผลงาน 3 ชิ้น ที่ไม่เคยจัดแสดงต่อสาธารณชนมาก่อน ได้แก่ Chaos, Crossing the ordeal and Wisdom รวมถึงผลงานในคอลเลคชั่นTenth Eonion Initiative ซึ่งเป็นประติมากรรมแก้วและสัมฤทธิ์ที่ วาล ร่วมมือกับศิลปินชั้นครูผู้เชี่ยวชาญงานศิลปะจากแก้วมูร่าโน (ARS Murano) ในเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
ผลงานของ วาล ได้รับการจัดแสดงและติดตั้งถาวรทั่วเอเชียและยุโรปสำหรับในกรุงเทพฯ นั้นสามารถชมผลงานของเธอได้ตามสถานที่สำคัญต่างๆ ดังนี้ ผลงานชื่อ Ville fantastique II ตั้งอยู่ในสวนเบญจสิริ (ซึ่งเธอและสามีมอบเป็นของขวัญให้แก่กรุงเทพมหานคร) ผลงานชื่อ Attraction II ที่สมาคมฝรั่งเศส กรุงเทพฯ ผลงานชื่อ Inle Balance III ที่โรงแรมโซฟิเทล สุขุมวิท
นอกจากนี้ ยังมีผลงานชุด Ocean Utopia ที่ได้รับการติดตั้งอย่างพิถีพิถัน ณ ใต้ท้องทะเลนอกชายฝั่งเกาะเต่าจ.สุราษฎร์ธานี ในปี 2559 โดยผลงานชิ้นนี้มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ที่ยืนสูงตระหง่าน ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของหอยนานาชนิด สาหร่ายและปะการังหลากสี ดังที่วาลได้ตั้งใจไว้
ในงานเปิดตัวผลงาน Attraction II ของ วาล ในปี 2562 ดร.ชิงชัย หาญเจนลักษณ์ นายกสมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพฯ ได้กล่าวว่า “วาลเกิดเป็นคนฝรั่งเศส แต่เสียชีวิตด้วยหัวใจดุจดัง
คนไทยคนหนึ่ง” ทั้งนี้ นิทรรศการ “The Reflection of Infinity” เชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมเดินทางย้อนไประลึกถึงเส้นทางอาชีพศิลปินของ วาล ที่สะท้อนถึงแรงบันดาลใจและอิสรภาพที่เธอรับรู้และสัมผัสได้ในช่วงที่เธออาศัยอยู่ในประเทศไทยและสร้างสรรค์ผลงานเหล่านี้ทั้งยังแสดงออกถึงความรักที่เธอมีต่อผืนแผ่นดินไทยและคนไทยอีกด้วย
นิทรรศการดังกล่าวจัดขึ้นที่เอส เอ ซี แกลเลอรี (ศุภโชค ดิ อาร์ต เซ็นเตอร์) ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2564 จนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2564 ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ของเอส เอ ซี แกลเลอรี สามารถเข้าชมได้ที่นี่ https://www.facebook.com/sacbangkok
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี