บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ.ร่วมกับกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านบ้านปากน้ำแพรกเมืองและบ้านพังเค็ม และหน่วยงานในจังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดสงขลา ร่วมกันเปิดศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักลูกปูกลุ่มปากน้ำแพรกเมือง และศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักลูกปูกลุ่มพังเค็มส่งเสริมการทำประมงเชิงอนุรักษ์ เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับท้องทะเล และสร้างรายได้ให้ชาวประมงพื้นบ้านอย่างยั่งยืน พร้อมขยายเครือข่ายฯ และตั้งศูนย์การเรียนรู้ฯ ครบทั้ง 17 จังหวัดรอบอ่าวไทย
ปิยะ สุขุมภาณุเมศร์ รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานทรัพยากรบุคคล กิจการองค์กรและกำกับดูแล บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) หรือ ปตท.สผ. กล่าวว่า ปตท.สผ.ตระหนักถึงความสำคัญของการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและส่งเสริมการสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้แก่ชาวประมงพื้นบ้านโดยเฉพาะปู ซึ่งเป็นสัตว์น้ำที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ จึงจัดทำโครงการศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักลูกปูขึ้นตั้งแต่ปี 2556 โดยศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักลูกปูกลุ่มปากน้ำแพรกเมือง และ ศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักลูกปูกลุ่มพังเค็มที่เปิดใหม่ทั้งสองแห่งนี้ ถือเป็นศูนย์ที่ 4 และ 5 จากที่ได้มีการเปิดศูนย์การเรียนรู้ฯ มาแล้วในจังหวัดสงขลาและปัตตานี โดยที่ผ่านมาศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักลูกปูที่ได้จัดตั้งขึ้นนั้นสามารถเพาะฟักลูกปูและปล่อยคืนสู่ทะเลได้กว่า 2,000 ล้านตัว ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มทรัพยากรสัตว์น้ำให้กับทะเล และทำให้ชาวประมงพื้นบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยครัวเรือนละ 60,000 บาทต่อปี รวมทั้งสามารถขยายเครือข่ายกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลเพิ่มเป็น 34 เครือข่ายโดยมีสมาชิกประมาณ 1,600 คน ซึ่งปตท.สผ. ยินดีที่มีส่วนร่วมในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและวิถีประมงชายฝั่ง ซึ่งเป็นแนวทางของบริษัทในการเสริมสร้างทรัพยากรธรรมชาติ และส่งเสริมชุมชนให้สามารถเติบโตอย่างยั่งยืน
นอกจากการเพาะฟักลูกปูแล้ว ปตท.สผ.ยังสนับสนุนการขยายผลไปสู่การเพาะฟักสัตว์น้ำเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น ปลา กุ้ง หอย ที่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ด้วย โดยมีเป้าหมายขยายศูนย์การเรียนรู้ฯ และสร้างเครือข่ายอนุรักษ์ฯ ภายใต้โครงการศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักสัตว์น้ำเศรษฐกิจทั้ง 17 จังหวัดรอบอ่าวไทยภายในปี 2567
สันติ นิยมเดชา ประธานกลุ่มอนุรักษ์ปูม้าชายฝั่งปากน้ำแพรกเมือง อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ทุกวันนี้ทรัพยากรมีน้อยลง แต่เครื่องมือทำประมงมีจำนวนมาก ไม่สมดุลกันจึงต้องช่วยกันฟื้นฟูทรัพยากรเพื่อให้ลูกหลานสามารถทำอาชีพประมงได้ต่อไป อาชีพประมงก็จะมั่นคง ครอบครัวมีความสุขอยู่ได้อย่างยั่งยืน
ด้าน ยงยุทธ รอดบุญมี ประธานกลุ่มศูนย์เพาะฟักลูกปูม้าบ้านพังเค็ม อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา กล่าวว่าทะเลคือชีวิต คือแหล่งทำมาหากินของชาวประมง ถ้าออกเรือจับสัตว์น้ำทุกวันแต่ไม่อนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำเลย ในวันหนึ่งทรัพยากรเหล่านั้นก็จะหมดลง ดังนั้นต้องช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรตั้งแต่วันนี้เพื่อให้สัตว์น้ำมีอยู่ตลอดไป ถ้าทะเลสมบูรณ์ลูกหลานก็สามารถทำอาชีพนี้ต่อไปได้ และคนในชุมชนจะพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน
โครงการศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักลูกปูเป็นโครงการที่ ปตท.สผ. เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2556 โดย ร่วมมือกับกลุ่มป.ทรัพย์อนันต์ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา สถาบันเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง (NICA) สถาบันทรัพยากรชายฝั่งเอเชียและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีศรีวิชัย ตั้งศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักลูกปูกลุ่มบ้านหัวเขาอำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา เป็นแห่งแรกเพื่อพัฒนาความรู้ด้านการเพาะฟักลูกปูสามารถสร้างเครือข่ายฯ และขยายผลจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ฯ เพิ่มขึ้นในพื้นที่ต่างๆได้แก่ ศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักลูกปูกลุ่มพังสาย อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักลูกปูกลุ่มปะนาเระอำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี ล่าสุดคือ ศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักลูกปูกลุ่มปากน้ำแพรกเมือง อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช และศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักลูกปูกลุ่มพังเค็ม อำเภอระโนดจังหวัดสงขลา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี