เป็นเวลาครบ 1 ปีเต็มแล้วที่คณะผู้อ่านแนวหน้า และผู้ฟังรายการ Good Time (วิทยุจุฬาฯ) ร่วมเดินทางไปมอบโค-กระบือ จำนวน 36 ชีวิต ให้กับนักเรียนโรงเรียนชาวนา จังหวัดเชียงราย (โรงเรียนชาวนาอยู่ในความดูแลของสำนักวิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน)
นับจากช่วงปลายเดือนมกราคม 2563 ถึงบัดนี้ โค-กระบือที่คณะของเราส่งมอบให้นักเรียนโรงเรียนชาวนานำไปเลี้ยงดูได้ให้กำเนิดชีวิตสมาชิกใหม่มาแล้ว 10 ชีวิต (ลูกกระบือ 5 ชีวิตและลูกโค5 ชีวิต) แต่ก็มีโคตัวหนึ่งต้องตายลง เพราะป่วยหนัก ซึ่งก็นับเป็นเรื่องปกติของทุกชีวิตบนโลกใบนี้ที่มีเกิดมีดับเป็นวัฏฏะ
ตลอดระยะเวลา 1 ปีเต็ม ผู้รับโค-กระบือไปดูแลได้ส่งข่าวรายงานความคืบหน้าความเป็นอยู่ของโค-กระบือถึงกลุ่มผู้ร่วมบริจาคให้รับทราบเป็นประจำโดยผ่านไลน์กลุ่ม ทุกครั้งเมื่อโค-กระบือตกลูกมีสมาชิกใหม่ก็จะส่งภาพสมาชิกใหม่มาให้ชมและร่วมกันยินดี และในยามที่โค-กระบือไม่สบาย ผู้รับเลี้ยงก็ส่งข่าวรายงานความคืบหน้าให้สมาชิกในกลุ่มรับทราบอย่างใกล้ชิดเช่นกัน
ในยามที่สมาชิกบางรายที่รับโค-กระบือไปเลี้ยงดูแล้วประสบปัญหาต่างๆ เช่น สัตว์ไม่สบาย หรือไม่สามารถเลี้ยงดูสัตว์ได้ต่อไป ก็ส่งข่าวเล่าความในทุกคนทราบ แล้วทุกคนก็ช่วยกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ลุล่วงไปด้วยดี ซึ่งนับเป็นความสามัคคีกลมเกลียวระหว่างสมาชิกในกลุ่มที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง
ผู้อ่านแนวหน้า และผู้ฟังรายการวิทยุ Good Time จำนวนไม่น้อยยังคงติดต่อสอบถามว่าเมื่อไรจะไปไถ่ชีวิตโค-กระบือจากโรงฆ่าสัตว์อีก เพราะหลายคนต้องการร่วมไถ่ชีวิตโค-กระบือกับผู้ทำโครงการอย่างต่อเนื่อง ก็ต้องขออนุญาตเรียนแจ้งให้ทราบว่า โครงการนี้ยังคงดำเนินต่อไป แต่สาเหตุสำคัญที่ไม่ได้ออกไปไถ่ชีวิตโค-กระบือจากโรงฆ่าสัตว์อีกในระยะหลายเดือนที่ผ่านมานี้ เพราะว่าไม่มีผู้แสดงความประสงค์รับโค-กระบือไปเลี้ยงดูตามเงื่อนไขที่เรากำหนด (อันที่จริงมีบางรายต้องการขอรับโค-กระบือไปเลี้ยงดู แต่ไม่ยินดีลงนามในสัญญาว่าต้องไม่ฆ่า ไม่ขาย และไม่นำลูกโค-กระบือไปขายต่อหรือไปฆ่า เมื่อไม่ยอมทำสัญญาก็ไม่มีการมอบสัตว์ให้ไปเลี้ยงดู)
คณะผู้จัดทำโครงการไถ่ชีวิตโค-กระบือจากโรงฆ่าสัตว์จะกระจายข่าวเรื่องการระดมทุนเพื่อการไถ่ชีวิตสัตว์ก็ต่อเมื่อสามารถหาผู้รับสัตว์ไปอุปการะได้อย่างเหมาะสมที่สุดแล้วเท่านั้น ซึ่งผู้รับสัตว์ต้องทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมเอกสารประกอบทางกฎหมาย เพื่อยืนยันว่าไม่ฆ่าไม่ขายสัตว์ที่รับไปอุปการะอย่างเด็ดขาด และต้องมีสถานที่เลี้ยงดูสัตว์เหมาะสมกับการดำรงชีพของสัตว์ด้วย มีบางรายติดต่อขอรับสัตว์โดยบอกว่ามีที่ดินหลายร้อยไร่อยู่ในต่างจังหวัด และรับรองว่าสัตว์มีหญ้ากินตลอดปี แต่เมื่อถามว่าแล้วพื้นที่นั้นมีรั้วรอบขอบชิดมั่นคงหรือไม่ คำตอบคือไม่มีรั้ว แล้วยังตอบด้วยว่าจะนำสัตว์ไปปล่อยให้อยู่ตามธรรมชาติ แต่เมื่อเจอคำถามว่าแล้วถ้าสัตว์หายไป จะรับผิดชอบอย่างไร เขาผู้นั้นก็ตอบไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จึงไม่มีการมอบสัตว์ให้ และที่สำคัญตามเงื่อนไขคือ ผู้ทำโครงการไม่ประสงค์จะมอบสัตว์ให้กับผู้มีฐานะร่ำรวยมหาศาล มีที่ดินเป็นร้อยๆ พันๆ หมื่นๆ ไร่ แต่ต้องการมอบให้กับผู้ที่มีฐานะปานกลาง มีที่ดินเป็นของตนเองจำนวน 10-20 ไร่ มีผู้ดูแลสัตว์ประจำวัน และมีอาหารการกินที่เหมาะสมกับสัตว์ รวมถึงมีโรงเรือนและคอกให้สัตว์ได้พักอาศัย มิใช่การนำสัตว์ไปปล่อยโดยปราศจากการดูแลอย่างเหมาะสม
สำหรับคุณผู้อ่านที่มีความประสงค์จะรับสัตว์ไปเลี้ยงดูโดยสามารถทำตามสัญญาได้อย่างเคร่งครัดกรุณาติดต่อได้ที่คอลัมน์ตะลอนเที่ยว หนังสือพิมพ์แนวหน้า หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 091-7233615 ส่วนผู้ที่ประสงค์ร่วมบริจาคทรัพย์เพื่อไถ่ชีวิตโค-กระบือ ผู้ทำโครงการขออนุญาตยังไม่รับบริจาคในขณะนี้ แต่จะรับบริจาคหลังจากเลือกสรรผู้เหมาะสมกับการนำสัตว์ไปเลี้ยงดูแล้วเท่านั้น โดยจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบในคอลัมน์นี้
สำหรับวันนี้ขออนุญาตนำภาพประทับใจของโค-กระบือที่พวกเราทุกคนมอบให้กับนักเรียนโรงเรียนชาวนานำไปเลี้ยงดู โดยเฉพาะภาพลูกโค-กระบือที่เป็นสมาชิกใหม่ และภาพความเป็นอยู่ของพวกเขาหลังพ้นจากโรงฆ่าสัตว์ และได้ชีวิตใหม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี