ซอ จองจิน (Seo Jung Jin) ประธานบริษัท Celltrion ของเกาหลี กล่าวว่า ยารักษาโควิดของบริษัทที่ใช้ชื่อว่า CT-P59 อยู่ในขั้นตอนการทดลองทางคลินิกระยะที่ 2 โดยมีผลการทดลองที่น่าพอใจผู้ติดเชื้อสามารถกลับบ้านภายใน 3-4วันหลังจากรับยา และทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว เขากล่าวเพิ่มเติมว่า "จากการคาดการณ์ภายในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2021 เกาหลีใต้อาจเป็นประเทศแรกที่ปลอดเชื้อโควิด ประชาชนในประเทศจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่ต้องสวมหน้ากากอีกต่อไป"
ขณะนี้การทดลองทางคลินิกระยะที่ 2 ที่ดำเนินการในประเทศโรมาเนียจะเสร็จสิ้นในสัปดาห์นี้และจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนเพื่อเผยแพร่ข้อมูลสำหรับขั้นตอนสุดท้ายเพื่อขออนุมัติการผลิต มีการยืนยันเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการรักษาแล้วว่าได้ผลดีเยี่ยม
ยามีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะทำให้ผู้ติดเชื้อออกจากโรงพยาบาลภายใน 2-3 วันและไวรัสจะหายไป 4-5 วันหลังจากผู้ป่วยฉีดยาการรักษา ซึ่งช่วยลดโอกาสที่พัฒนาไปเป็นผู้ป่วยรุนแรงหรือลดความเสียหายของอวัยวะ นอกจากนี้แพทย์ผู้ทดลองยังไม่พบปัญหาด้านความปลอดภัยอีกด้วย
ขณะนี้บริษัท Celltrion ได้เริ่มผลิตยารักษาสำหรับผู้ป่วย 100,000 คนแล้วและคาดว่าจะสามารถผลิตยารักษาออกสู่ตลาดได้สำหรับผู้ป่วย 2 ล้านคนต่อปี ในปีหน้า โดยสามารถปล่อยยารักษาโควิดได้ทันทีหลังจากได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ยาดังกล่าวสามารถใช้แทนวัคซีน โดยหยุดไวรัสไม่ให้เข้าไปในเซลล์ร่างกายของมนุษย์
มีหลายฝ่ายกังวลว่ายา 100,000 โดสจะเพียงพอต่อจำนวนผู้ติดเชื้อในเกาหลีหรือไม่ เขาตอบว่า "เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ของผู้ป่วยแล้วยาจำนวน 100,000 โดสเพียงพอต่อสถานการณ์ในตอนนี้แน่นอน และทางบริษัทวางแผนจะจำหน่ายยารักษาในระดับต้นทุนเท่านั้น
สำหรับข้อแตกต่างของยารักษากับวัคซีนนั้นคือ ก่อนผู้ติดเชื้อจะถูกวินิจฉัยว่าติดเชื้อต้องเข้ารับการตรวจหาโรค และหลังจากนั้นต้องได้รับการรักษาให้หายดีก่อนถึงจะสามารถรับวัคซีนได้ ดังนั้นยารักษา จึงเป็นสิ่งที่ต้องได้รับก่อนการฉีดวัคซีน
"ทั่วโลกมีการผลิตวัคซีนป้องกันโควิดอย่างเพียงพอ แต่ขาดแคลนยารักษาผู้ที่ป่วย แต่ชาวเกาหลีไม่จำเป็นต้องกังวลเพราะบริษัท เซลทริรอนได้เตรียมผลิตยาไว้รองรับเรียบร้อยแล้ว”
ซอ จองจิน วัย 63 ปีกล่าวกับผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ เมื่อเดือนที่แล้วเขาแสดงความหวังว่าเกาหลีใต้จะ "ปลอดโคโรนา" ภายในฤดูใบไม้ผลิหน้าคนเกาหลีจะสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้โดยไม่ต้องสวมหน้ากาก
ประธานของบริษัท เซลทริดอนเป็นที่รู้จักทั่วไปในการตัดสินใจอย่างกล้าหาญและฝันให้ยิ่งใหญ่ เขาเกิดที่เมือง จองจูเรียนวิศวกรรมอุตสาหการและทำงานกับ บริษัทรถยนต์แดวูเมื่อบริษัทล้มละลายในช่วงวิกฤตการเงินในเอเชียปี 1997-1998เขาเริ่มต้น บริษัท เทคโนโลยีชีวภาพของตัวเองกับอดีตเพื่อนร่วมงานด้วยเงินทุนเพียง 50 ล้านวอน
ซอ จองจิน มองเห็นศักยภาพในอนาคตของ biosimilarsซึ่งเป็นยาชีวภาพราคาถูกที่ใช้ในการรักษาโรคต่างๆเช่นมะเร็งและมุ่งมั่นในการค้นคว้าวิจัย
เขาต้องกู้ยืมเงินเพื่อเป็นทุนในการวิจัยของเขา ในปี 2010 บริษัทเทมาเสคของสิงคโปร์อัดฉีดเงินจำนวน 207.9 พันล้านวอนให้กับ บริษัทมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของ Celltrionอยู่ที่ 23.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ ซอ จองจินกลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับสองในเกาหลีใต้เขามีกำหนดจะเกษียณอายุในวันที่ 31 ธันวาคมหลังจากนั้นเขาวางแผนที่จะลงทุน 2 ล้านล้านวอนในการเริ่มต้นที่เน้นเทคโนโลยีสาธารณสุขโทรคม (telemedicine)
สำหรับตอนนี้คุณ ซอมุ่งเน้นไปที่การผลิตยารักษาโควิดในราคาที่ไม่แพง “เราให้สัญญากับประชาชนเกาหลีว่ายาโควิดของเราจะขายในราคาต้นทุนการผลิต” เขากล่าวพร้อมเสริมว่าราคาขายในต่างประเทศก็จะต่ำกว่าคู่แข่งเช่นกัน
"ในช่วงวิกฤตของโรคระบาด บริษัทยาต้องเป็นทรัพย์สินสาธารณะของประเทศ"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี